ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
ลูกปัดคลองท่อมอันเลื่องชื่อแห่งเมืองกระบี่
Feb 24, 2020
24511
views
67
shares
จังหวัดกระบี่นอกจากจะเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญริมฝั่งทะเลอันดามันแล้ว ยังเป็นแหล่งศึกษาทางโบราณคดีที่สำคัญ ซึ่งผลจากการค้นพบลูกปัดโบราณในพื้นที่บริเวณตำบลคลองท่อมได้ทำให้ผู้คนเกิดความสนใจในลูกปัดโบราณมากขึ้น จนเป็นจุดเริ่มต้นของ “โครงการจำลองลูกปัดโบราณ” ที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่คนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี และมีส่วนทำให้ลูกปัดคลองท่อมยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย
ความเป็นมาของลูกปัดคลองท่อม
สมัยโบราณเชื่อกันว่าลูกปัดเป็นเครื่องประดับชนิดแรกที่มนุษย์คิดค้นขึ้น ซึ่งลูกปัดที่เก่าแก่ที่สุดนั้นทำมาจากกระดูกสัตว์ เปลือกหอย เขาสัตว์ และปะการัง โดยเป็นการนำมาขัด หรือฝนเป็นแท่งๆ แล้วจึงเจาะรูเพื่อร้อยเรียงเข้าด้วยกัน จากนั้นในยุคต่อมาจึงได้พัฒนากระบวนการทำโดยใช้วิธีหลอมเข้าช่วยจนได้ลูกปัดที่สวยงามขึ้น ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่าลูกปัดเป็นสิ่งของมีค่าที่ช่วยบ่งบอกฐานะทางสังคมและรสนิยมของคนในสมัยโบราณ
การขุดพบลูกปัดโบราณในบริเวณอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เมื่อปี พ.ศ. 2509 ถือเป็นการขุดพบลูกปัดที่มีความสมบูรณ์และมีรูปแบบหลากหลายมากที่สุดเท่าที่เคยพบในประเทศไทย ซึ่งลูกปัดที่พบนั้นมีทั้งลูกปัดสุริยเทพ หรือลูกปัดหน้าคน ลูกปัดตา ลูกปัดนกแสงตะวัน ลูกปัดนกยูง ลูกปัดเขียนลาย ลูกปัดอำพันทอง รวมทั้งลูกปัดหินกึ่งอัญมณี เป็นต้น โดยลูกปัดที่ค้นพบส่วนใหญ่ทำจากวัสดุประเภทแก้วและหินสีต่างๆ อาทิ หินคาร์เนเลี่ยน อาเกต ควอรตซ์และลาพิสลาซูรี เป็นต้น
ด้วยความที่ชุมชนคลองท่อมอยู่ติดกับทะเลและมีลำคลองไหลผ่าน จึงเชื่อว่าบริเวณดังกล่าวในอดีตเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 12 อาจเป็นท่าแวะเทียบเรือสำคัญของพ่อค้าจากต่างแดนทั้งจีน อินเดีย อาหรับและเปอร์เซีย โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกที่มีลักษณะเป็นเนินดินสูง ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่าเป็น “ควนลูกปัด” นั้น เชื่อว่าในอดีตอาจเป็นแหล่งผลิตลูกปัดขนาดใหญ่ เพราะนอกจากจะขุดพบลูกปัดเป็นจำนวนมากแล้ว ยังมีการขุดพบวัสดุที่ใช้ทำลูกปัด อาทิ เศษแก้วและหินแร่อีกเป็นจำนวนมากด้วย
ทั้งนี้ จากการที่ลูกปัดคลองท่อมซึ่งขุดได้ในยุคแรกๆ ถูกคนในท้องถิ่นนำไปขายให้แก่ผู้ที่สนใจ จนสามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ อันทำให้สถานการณ์ของแหล่งโบราณคดีตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญหายของโบราณวัตถุ จึงทำให้ทางกรมศิลปากรต้องเข้ามากำกับดูแลและไม่ให้ทำการขุดหาสมบัติโดยเสรี ต่อมาทางสำนักงานจังหวัดกระบี่ได้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ลูกปัดอันดามัน (Andaman Beads Museum) ขึ้น เพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้และยังได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลูกปัดโบราณที่ขุดพบจากแหล่งต่างๆ ทั่วประเทศมาไว้อีกด้วย นอกจากนี้ ในบริเวณคลองท่อมยังได้มีการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ฑสถานคลองท่อมขึ้น เพื่อใช้เป็นแหล่งรวบรวมลูกปัดมีค่าที่ขุดพบและถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับลูกปัดคลองท่อมให้แก่ผู้ที่สนใจ
จากกระแสความนิยมลูกปัดโบราณ สู่การตลาดเพื่อชุมชน
การดำเนินโครงการดังกล่าวได้รับความสนใจเข้าร่วมจากคนในท้องถิ่น จนก่อให้เกิดเป็นโรงงานผลิตลูกปัดขนาดเล็กที่ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนได้เป็นอย่างดี โดยสินค้าที่ผลิตได้จะถูกนำมาวางจำหน่ายในพิพิธภัณฑ์ลูกปัดอันดามัน และหอศิลป์อันดามัน ด้วยราคาตั้งแต่ 2,000 บาทจนถึงหลายหมื่นบาท ซึ่งถือว่ามีราคาถูกกว่าลูกปัดของแท้ที่มีราคาสูงมากเป็นแสนบาท ทำให้สินค้าดังกล่าวได้รับการตอบรับค่อนข้างดีโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีโอกาสแวะเวียนเข้ามา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากช่างฝีมือมีจำนวนน้อย ประกอบกับการผลิตต้องใช้เวลาพอสมควรขึ้นอยู่กับความยากง่ายของชิ้นงาน จึงทำให้ผลผลิตที่ออกมาวางจำหน่ายมีไม่มากเท่าที่ควร