ขายอัญมณีและเครื่องประดับผ่าน Amazon.com
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทั้งผู้ขายและผู้บริโภคต้องหันไปใช้สื่อออนไลน์ในการทำตลาดมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถือเป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาตลาดอีคอมเมิร์ซหลายแพลตฟอร์มเติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมทั้งตลาดค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Amazon เป็นอีกหนึ่งตลาดที่ผู้ค้าจากทั่วโลกต่างเล็งเห็นโอกาสในการก้าวไปสู่การนำเสนอสินค้าในช่องทางดิจิทัล ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการบรรเทาผลกระทบที่ได้รับจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าให้กว้างขวาง เพื่อพลิกฟื้นสถานการณ์ให้กลับมาเติบโตได้ด้วยช่องทางนี้
แนวทางการค้าในช่องทาง Amazon
Amazon เปิดให้ผู้ขายจากทั่วโลกสมัครเพื่อใช้เป็นช่องทางการค้า โดยผ่านเว็บไซต์ในเครือของ Amazon ในหลายๆ ประเทศ หรือผ่านเว็บไซต์หลัก www.amazon.com จะได้สิทธิ์ในการขายลูกค้ากลุ่มที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก โดยแบ่งบัญชีผู้ขายออกเป็น 2 แผนการขาย คือ
1. แผนการขายแบบบุคคลทั่วไป (Individual Account) ไม่มีค่าบริการรายเดือน แต่คิดค่าธรรมเนียมเมื่อขายสินค้าได้ 0.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อชิ้น รวมทั้งค่าธรรมเนียมอื่นๆ สามารถขายสินค้าได้ไม่เกิน 40 ชิ้นต่อเดือน โดยสามารถขายสินค้าได้เฉพาะในหมวดที่ไม่ต้องขออนุมัติจาก Amazon
2. แผนการขายแบบ Professional คิดค่าบริการรายเดือน 39.99 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ไม่มีค่าธรรมเนียมขายสินค้า สามารถขายสินค้าได้ทั้งหมวดที่ไม่ต้องขออนุมัติและที่ต้องขออนุมัติจาก Amazon โดยแผนการขายประเภทนี้มีสิทธิพิเศษหลายประการ เช่น มีเครื่องมือในการลงสินค้าจำนวนมากในครั้งเดียว การโฆษณาและคูปองส่วนลด รวมทั้งได้รับคำแนะนำการขายสินค้าอีกด้วย สำหรับผู้ขายสินค้าเครื่องประดับแท้ต้องสมัครเป็นผู้ขายประเภทนี้เท่านั้น
ตัวอย่างเครื่องประดับที่ขายในเว็บไซต์ จาก www.amazon.com
หลักเกณฑ์การขายอัญมณีและเครื่องประดับ
1. สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับรายการที่อยู่ในหมวดหมู่ไม่ต้องขออนุมัติ มีเฉพาะรายการเครื่องประดับแฟชั่นที่ไม่ได้ทำจากโลหะมีค่าใดๆ หรือประดับด้วยอัญมณีเนื้อแข็งหรือเนื้ออ่อน หรือไข่มุก เช่น เครื่องประดับทำจากทองเหลือง ทองแดง สแตนเลส หรือโลหะชุบ ประดับด้วยอัญมณีสังเคราะห์ เป็นต้น
ส่วนอัญมณีและเครื่องประดับอื่นๆ รวมทั้งเครื่องประดับทำด้วยมือ เป็นสินค้าที่อยู่หมวดต้องขออนุมัติจาก Amazon ก่อนวางขาย ซึ่งใช้เวลาในการพิจารณาราว 7 วัน หรือขึ้นอยู่กับปริมาณคำขอในช่วงเวลานั้นๆ โดยสินค้าในหมวดนี้ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านต่างๆ เช่น การระบุส่วนประกอบในสินค้าประเภททองคํา เงิน แพลทินัม เพชร ไข่มุก พลอยสี และพลอยสังเคราะห์ รวมทั้งการใช้เครื่องหมายรับรองคุณภาพ เครื่องหมายการค้า และรายละเอียดการปรับปรุงคุณภาพ ตามที่กำหนดโดย Guides for the Jewelry, Precious Metals and Pewter Industries ของคณะกรรมการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Federal Trade Commission: FTC) และ Amazon's Quality Assurance Standards เพื่อให้ทาง Amazon ตรวจสอบคุณสมบัติ คุณภาพ รายละเอียดของอัญมณีและเครื่องประดับที่วางขาย ซึ่งหากตรวจสอบพบว่า มีข้อมูลไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน อาจเป็นเหตุให้ถูกระงับหรือยกเลิกสิทธิในการขายได้
2. หากเป็นการขายสินค้าที่มีลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าหรือสิทธิบัตร ผู้ขายจะต้องเป็นเจ้าของแบรนด์ตามกฏหมายหรือเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของแบรนด์
3. ผู้ขายต้องระบุให้ชัดเจนว่าสินค้าที่ขายเป็นเครื่องประดับแท้หรือเครื่องประดับแฟชั่น1 การระบุประเภทสินค้าไม่ถูกต้องหรือผิดประเภท อาจเป็นเหตุให้ถูกระงับหรือยกเลิกสิทธิการขายได้ Amazon มีหลักกำหนดโดยย่อดังนี้
เครื่องประดับแท้ คือ เครื่องประดับที่ทำจากโลหะมีค่า รวมทั้งที่ประดับด้วยพลอยเนื้อแข็งและเนื้ออ่อนเจียระไน รวมทั้งประดับด้วยไข่มุกเลี้ยงหรือไข่มุกธรรมชาติ
เครื่องประดับแฟชั่น คือ เครื่องประดับที่ไม่ได้ทำจากโลหะมีค่า (ไม่รวมการชุบด้วยโลหะมีค่า) และไม่ประดับด้วยพลอยเนื้อแข็งและเนื้ออ่อนเจียระไน ไม่ประดับด้วยไข่มุกเลี้ยงหรือไข่มุกธรรมชาติ และไม่มีโลหะมีค่าตามที่ระบุไว้ในเครื่องประดับแท้
ตัวอย่างสินค้าเครื่องประดับที่มีภาพและคลิปวีดิโอสั้นๆ รวมทั้งรายละเอียดตัวสินค้า จาก www.amazon.com
4. สินค้าประเภทเครื่องประดับนอกจากจะต้องเป็นของแท้และมีราคาขายไม่เกิน 300,000 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว ผู้ขายต้องมีการจัดการคำสั่งซื้อที่ได้มาตรฐาน ดังนี้
• ความผิดพลาดจากคำสั่งซื้อ ไม่เกิน 1% วัดจากช่วงเวลา 60 วัน
• อัตราการยกเลิกคำสั่งซื้อของผู้ขาย ไม่เกิน 2.5% วัดจากช่วงเวลา 7 วัน
• อัตราการจัดส่งล่าช้า ไม่เกิน 4% โดยระบบตั้งไว้ 2 ช่วงเวลาคือ 10 วัน และ 30 วัน
โดยหากเกิดข้อผิดพลาดดังกล่าว ทาง Amazon จะแจ้งเตือนมายังผู้ขาย หากไม่สามารถปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น อาจเป็นเหตุให้ถูกระงับหรือยกเลิกสิทธิในการขายได้
5. ในการขายสินค้าบนแพลตฟอร์มของ Amazon จะมีการคิดค่าธรรมเนียมการขาย ซึ่งมีอัตราแตกต่างกันตามประเภทสินค้า สำหรับอัญมณีและเครื่องประดับนั้น ถ้าสินค้าราคาไม่เกิน 250 ดอลลาร์สหรัฐ คิดค่าธรรมเนียมการขายต่อชิ้นอยู่ที่ 20% ของราคาขาย อัตราเริ่มต้นอยู่ที่ 0.30 ดอลลาร์สหรัฐ หากมีราคาเกินกว่านั้น ส่วนที่เกินจะคิดค่าธรรมเนียม 5% เช่น
• สินค้าราคา 260 ดอลลาร์สหรัฐ คิดค่าธรรมเนียม 250*20% = 50 และ 10*5% = 0.5 รวมค่าธรรมเนียม 50.5 ดอลลาร์สหรัฐ
• ส่วนเครื่องประดับที่ทำด้วยมือ มีค่าธรรมเนียมเมื่อมีการขาย 15% ต่อชิ้น
6. เมื่อเกิดการขายสินค้าขึ้น ในการจัดส่งสินค้านั้น แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
• Fulfilled by Merchant คือ ผู้ขายต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเเพ็คเเละจัดส่งสินค้าจากต้นทางไปยังลูกค้า
• Fulfilled by Amazon หรือ Amazon FBA คือ ผู้ขายส่งสินค้าไปเก็บไว้ที่โกดัง (warehouse) ของ Amazon ที่อเมริกา เมื่อสินค้าขายได้ทางทีมงาน FBA จะดำเนินการแพ็คและจัดส่งสินค้าให้ ซึ่งทาง Amazon จะคิดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วย
7. เมื่อผู้ขายสามารถขายสินค้าผ่าน Amazon.com แล้ว สินค้าที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ นั้น ผู้ขายต้องรับผิดชอบในการจัดส่งรวมทั้งรับผิดชอบในการชำระภาษี โดยสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (U.S. Customs and Border Protection) กำหนดให้สินค้านำเข้ารวมทั้งอัญมณีและเครื่องประดับที่มีราคาไม่เกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐ ไม่ต้องเสียภาษี หากเป็นการนำเข้าทางการค้าที่มีราคาเกินกว่า 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ ต้องกรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม CBP Form 3012
ตัวอย่างแบบฟอร์ม CBP Form 301 จาก www.cbp.gov
นอกจากนี้ อัตราอากรขาเข้าสินค้าในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับของสหรัฐฯ อยู่ในช่วงร้อยละ 0-13.5 รายละเอียดดังปรากฏในตาราง
ข้อมูลอ้างอิง
2 แบบฟอร์ม CBP Form 301 https://www.cbp.gov/sites/default/files/assets/documents/2018-Jan/CBP%20Form%20301.pdf
3 รายละเอียดเพิ่มเติม https://sellercentral.amazon.com/gp/help/external/201269180
---------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลอ้างอิง
1) Amazon. sell.amazon.com. [Online]. Available at: sell.amazon.com. (Retrieved January 12, 2022).
2) Business of Apps.2022. Amazon Statistics (2022). [Online]. Available at: www.businessofapps.com. (Retrieved February 17, 2022).
3) Amazon. ภาพรวมการขายสินค้าออนไลน์บน Amazon. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: sell.amazon.co.th (สืบค้นเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565).