ตามตำนานว่าด้วยเรื่องของเทพปกรณัมกรีก ‘เมดูซ่า’ (Medusa) คือปีศาจร้ายอันมีรูปลักษณ์เป็นผู้หญิงที่มีเส้นผมเป็นงู มีพลังอำนาจที่สามารถเปลี่ยนร่างของสิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นหินได้ในบัดดลเพียงแค่สบตาเธอ 

รูปสลักจากหินอ่อนของเมดูซ่า ผลงานของ Gian Lorenzo Bernini ศิลปินชาวอิตาลี ปัจจุบันจัดแสดง ณ Capitoline Museum ในกรุงโรม

ภาพจาก: http://www.museicapitolini.org

เมดูซ่า: ประวัติและชะตากรรม  

        ความจริงแล้วเมดูซ่าหาได้มีชาติกำเนิดเป็นปีศาจ นางเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้างดงาม ผิวพรรณเรียบเนียน และเส้นผมยาวสลวยเป็นลอนงาม ความงามนี้เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มจำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความอิจฉาริษยาให้กับเพศเดียวกันได้ไม่น้อย และด้วยรูปสมบัตินี้เองที่ทำให้นางต้องพบกับชะตากรรมอันโหดร้ายและแสนเศร้า 

        วันหนึ่งขณะที่เดินทางไปยังวิหารของเทพีอะธีน่า (Athena) เพื่อสักการะเทพีแห่งสติปัญญา และพรหมจรรย์ เมดูซ่าได้พบกับโพไซดอล (Poseidon) เทพแห่งมหาสมุทร และในทันทีที่ได้พบกัน โพไซดอนก็พอใจในรูปโฉมของนางจนต้องการได้นางไว้ในครอบครอง ทันใดนั้นเอง โพไซดอนก็ได้ใช้พละกำลังหักหาญและขืนใจเมดูซ่าในวิหารแห่งเทพีอะธีน่า...

        ด้วยความที่เทพีอะธีน่าริษยาในความงามของเมดูซ่าเป็นทุนเดิม แทนที่จะปกป้องเธอ เทพีอะธีน่ากลับกล่าวหานางว่าได้กระทำการลบหลู่เธอซึ่งเป็นเทพีแห่งพรหมจรรย์ถึงในวิหารศักดิ์สิทธิ์ จึงได้สาปให้เมดูซ่ากลายเป็นปีศาจที่มีหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว ผิวหนังหยาบกร้าน ทั้งยังสาปให้ศีรษะปกคลุมด้วยอสรพิษจำนวนมากแทนที่เรือนผมลอนงาม ไม่เพียงเท่านั้น นางยังถูกสาปให้มีอำนาจเปลี่ยนร่างของใครก็ตามที่สบตานางให้กลายเป็นหิน เพื่อไม่ให้มีชายใดหรือมนุษย์คนไหนปรารถนาอยู่ใกล้นางอีกต่อไป  

        ด้วยชะตากรรมอันแสนโหดร้ายไร้ซึ่งความยุติธรรมที่เธอต้องเผชิญ กอปรกับอานุภาพของความอับอาย ความเสียใจ และความคับแค้นใจเหลือกำลัง ทำให้จิตใจที่เคยบริสุทธิ์ของนางถูกแทนที่ด้วยความโกรธแค้น ชิงชัง โหดเหี้ยม เมดูซ่าพร้อมที่จะเปลี่ยนร่างของใครก็ตามที่ล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขตของนางให้กลายเป็นหินอย่างไร้ซึ่งความปราณี นางจึงกลายเป็นปีศาจที่น่าเกรงกลัวมากที่สุดในตำนานของชาวกรีก

        เมดูซ่าจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของเพอร์ซีอุส (Perseus) ชายผู้เป็นครึ่งคนครึ่งเทพ บุตรแห่งซุส (Seus) เทพแห่งท้องฟ้า กับมารดาซึ่งเป็นมนุษย์ เพอร์ซีอุสบั่นคอของเมดูซ่าจนขาดสะบั้นและได้นำศีรษะของนางมามอบให้กับเทพีอะธีน่า

        ทว่าการสังหารนางนั้นเปรียบเสมือนกับการช่วยให้นางหลุดพ้นจากชะตากรรมอันโหดร้ายก็ว่าได้

เมดูซ่ากับวงการแฟชั่น

        แม้ว่าเมดูซ่าจะเป็นปีศาจร้ายในตำนานกรีก แต่นางเปรียบดั่งเทพีในวงการแฟชั่นเมื่อ Versace แบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำซึ่งมีต้นกำเนิดในเมืองมิลาน หนึ่งในศูนย์กลางเมืองแฟชั่นของโลก ได้นำเอาภาพศีรษะของนางปีศาจตนนี้มาใช้เป็นโลโก้ของแบรนด์ 

        อะไรกันที่ทำให้ Gianni Versace ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Versace ตัดสินใจแบบนี้?

ต่างหูทอง 18 กะรัต ประดับเพชร แบรนด์ Versace

แหวนทอง 18 กะรัต ลงยาสีดำ แบรนด์ Versace 

        แม้ว่า Gianni Versace จะหลงใหลในตำนานกรีกมาตั้งแต่ในวัยเด็ก แต่การเลือกเมดูซ่าให้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ของเขาแทนที่จะเป็นเทพหรือเทพีองค์อื่นก็เพราะเมดูซ่า (ก่อนที่จะถูกสาป) คือสาวสวยที่สามารถทำให้ชายหนุ่มน้อยใหญ่ตกหลุมรักอย่างไม่สามารถถอนตัวได้ ต่อมาเมื่อเธอถูกสาปให้เป็นปีศาจเธอก็มีพลังอำนาจที่จะสะกดให้ใครก็ตามที่มองเธอให้เป็นหินซึ่งไม่อาจขยับเขยื้อนกายได้ และนี่เองคือสิ่งที่ Gianni Versace หวังว่าเมดูซ่าจะช่วยมอบพลังอำนาจแบบเดียวกันนั้นให้กับแบรนด์ของเขา พลังที่จะบันดาลให้ผู้คนหลงใหลและตกอยู่ในอาณัติแห่งอาณาจักร Versace

เข็มกลัดคาเมโอรูปเมดูซ่า และแหวนทองประดับเพชรและพลอยสีตัวเรือนออกแบบเป็นศีรษะของเมดูซ่า

ภาพจาก: Pinterest

        ตามทฤษฎีของนักสัญลักษณ์วิทยาระบุว่า “เมดูซ่า” มีความหมายมากมายที่สามารถสื่อและเชื่อมโยงได้กับเรื่องของสิทธิสตรี ความลึกลับ ความอิจฉาริษยา อิสรภาพ การเกิดใหม่ การเปลี่ยนแปลง เป็นต้น ซึ่งนอกจากตราสัญลักษณ์ของ Versace แล้ว ปัจจุบันเรายังสามารถพบเห็นรูปของเมดูซ่าอยู่ตามสถานที่ หรือสิ่งของต่างๆ อีกมากมาย