ตลาดสมาร์ทจิวเวลรี่ (Smart Jewelry) เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยสมาร์ทจิวเวลรี่เป็นเครื่องประดับแฟชั่นผสมผสานเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานและประโยชน์ที่หลากหลายมากกว่าความสวยงามเพียงอย่างเดียว โดยทั่วไปสมาร์ทจิวเวลรี่จะมีการติดตั้งเซ็นเซอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก ที่สามารถทำหน้าที่ต่างๆ เช่น การติดตามสุขภาพ ความเครียด การนอนหลับ หรือตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ หรือใช้สำหรับความปลอดภัย เช่น การส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือเมื่ออยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นต้น

สมาร์ทจิวเวลรี่

แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับสมาร์ทวอทช์ แต่สมาร์ทจิวเวลรี่ก็เป็นเทคโนโลยีสวมใส่ที่มีประโยชน์อีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยให้ผู้สวมใส่ดูดีมีสไตล์เช่นกัน สมาร์ทจิวเวลรี่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยคุณสมบัติ ฟังก์ชันและสไตล์ที่นำสมัย ตั้งแต่สร้อยข้อมือไปจนสร้อยคอ และอื่นๆ อีกมากมาย

การตัดสินใจเลือกประเภทที่เหมาะสมสำหรับสวมใส่ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ความสนใจ และสิ่งที่คาดหวังจากอุปกรณ์ สามารถสรุปหมวดหมู่ของสมาร์ทจิวเวลรี่ได้ดังนี้

ติดตามสุขภาพ (Health tracking): เป็นเครื่องประดับที่ผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อช่วยในการติดตามและดูแลสุขภาพของผู้สวมใส่ ซึ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพและแฟชั่นไปพร้อมกัน ตัวอย่างเทคโนโลยีที่สามารถพบในสมาร์ทจิวเวลรี่ติดตามสุขภาพ ได้แก่ เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Monitor) ซึ่งช่วยตรวจจับและแสดงข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการเต้นของหัวใจในเวลาจริง เครื่องติดตามการนอนหลับ (Sleep Tracker) ประเมินคุณภาพการนอน เช่น เวลาที่ใช้ในแต่ละช่วงของการนอน (Light, Deep, REM) เซ็นเซอร์ตรวจวัดความเครียด (Stress Monitor) ใช้ตรวจระดับความเครียดและให้คำแนะนำในการผ่อนคลาย เครื่องติดตามกิจกรรมประจำวัน (Activity Tracker) เช่น นับจำนวนก้าว การเผาผลาญแคลอรี่ และระยะทางที่เดินหรือวิ่ง การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เช่น ส่งการแจ้งเตือนและข้อมูลสุขภาพต่างๆ ไปยังแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนเพื่อการวิเคราะห์ที่ละเอียดขึ้น

สมาร์ทจิวเวลรี่แบรนด์ Bellabeat Leaf Urban เป็นสมาร์ทจิวเวลรี่ที่สามารถสวมใส่เป็นสร้อยข้อมือ หนีบติดกับเสื้อผ้า หรือเป็นจี้ห้อยคอได้ ใช้สำหรับติดตามสุขภาพโดยตรวจจับความเครียด การนอนหลับ และรอบประจำเดือน

ภาพจาก: https://voguefreakss.com

ความปลอดภัย (Safety): เป็นเครื่องประดับที่ออกแบบมาเพื่อให้ความปลอดภัยแก่ผู้สวมใส่ ซึ่งมีการใช้งานที่หลากหลายเพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินและความเสี่ยงในสถานการณ์ต่างๆ เช่น ปุ่มกดฉุกเฉิน (SOS Button) เมื่อผู้สวมใส่รู้สึกไม่ปลอดภัยหรืออยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยง สามารถกดปุ่มเพื่อส่งสัญญาณฉุกเฉินไปยังผู้ติดต่อที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้า หรือส่งไปยังศูนย์ความช่วยเหลือ การติดตามตำแหน่ง (GPS Tracking) ช่วยติดตามตำแหน่งของผู้สวมใส่แบบเรียลไทม์ และสามารถแชร์ตำแหน่งให้กับครอบครัวหรือเพื่อนในกรณีฉุกเฉิน การตรวจจับอุบัติเหตุ(Fall Detection) หากผู้สวมใส่ล้ม ระบบจะตรวจจับและส่งสัญญาณแจ้งเตือนเพื่อขอความช่วยเหลือโดยอัตโนมัติ แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยง (Geo-Fencing Alert) เมื่อผู้สวมใส่ออกจากพื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดไว้ ระบบจะแจ้งเตือนให้ทราบทันที เป็นต้น         

         จากภาพข้างบนนี้ เป็นสร้อยข้อมืออัจฉริยะ โดยแบรนด์ CARRAT ซึ่งในสร้อยข้อมือมี GPS ในตัวและคุณสมบัติในการโทรฉุกเฉินเพื่อติดต่อกับญาติหรือเจ้าหน้าที่ในขณะที่กำลังเผชิญอยู่กับสถานการณ์อันตราย ช่วยให้ผู้สวมใส่ได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและปลอดภัยเร็วขึ้น

การออกกำลังกาย (Sports): เครื่องประดับที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการออกกำลังกายและกิจกรรมกีฬาของผู้สวมใส่ เพื่อให้ใช้งานได้ทั้งในด้านการติดตามสุขภาพและการพัฒนาประสิทธิภาพในการเล่นกีฬา อาทิเครื่องติดตามการออกกำลังกาย (Fitness Tracker)  ซึ่งสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหว เช่น การวิ่ง การปั่นจักรยาน นับจำนวนก้าว วัดระยะทางที่วิ่ง หรือแคลอรี่ที่เผาผลาญ เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Monitor) ช่วยติดตามอัตราการเต้นของหัวใจในขณะออกกำลังกาย เพื่อวัดความเข้มข้นของการออกกำลังกาย การวิเคราะห์ข้อมูลกีฬา (Sports Analytics) โดยข้อมูลที่ได้จากการออกกำลังกายจะถูกวิเคราะห์ผ่านแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทจิวเวลรี่ ช่วยให้ผู้ใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬาได้ดีขึ้น เป็นต้น

The Oura ring แหวนที่มีเครื่องติดตามการออกกำลังกาย สามารถบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจในการออกกำลังกายบนแอปพลิเคชัน นับจำนวนก้าว แคลอรี่ที่เผาผลาญ และเวลาที่ใช้ในการเคลื่อนไหวหรือการพักผ่อน ตลอดจนวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดเพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฟื้นตัวของร่างกาย ว่าควรพักผ่อนหรือสามารถทำกิจกรรมหนักได้

ภาพจาก: https://www.amazon.com/

ตลาดสมาร์ทจิวเวลรี่

ตลาดสมาร์ทจิวเวลรี่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้คนหันมานิยมสินค้าที่นอกจากจะใส่สวยแบบแฟชั่นแล้วยังสามารถใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ด้วย จากรายงานของ Verifiedmarketresearch ระบุว่าในปี 2566 ตลาดสมาร์ทจิวเวลรี่มีมูลค่าอยู่ที่ราว 225.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะมีมูลค่า 500.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2574 หรือมีอัตราเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 10.48 ต่อปี

ตลาดที่นิยมสมาร์ทจิวเวลรี่

สหรัฐอเมริกา: เป็นตลาดสำคัญสำหรับสมาร์ทจิวเวลรี่ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากผู้บริโภคชาวสหรัฐฯ ที่คลั่งไคล้เทคโนโลยี และให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความปลอดภัย และการแจ้งเตือนผ่านระบบดิจิทัล ชื่นชอบอุปกรณ์สวมใส่ที่ผสมผสานสไตล์เข้ากับฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมถึงความร่วมมือระหว่างบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กับแบรนด์แฟชั่นเพื่อผลิตสมาร์ทจิวเวลรี่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีมากขึ้น มีส่วนทำให้ตลาดสมาร์ทจิวเวลรี่เติบโต ตัวอย่างเช่น Tiffany & Co. แบรนด์เครื่องประดับหรูหราจากสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมมือกับแบรนด์นาฬิกาหรูจากสวิตเซอร์แลนด์ Patek Philippe ในการออกแบบนาฬิกาที่มีทั้งความหรูหราและเทคโนโลยีการบอกเวลาที่แม่นยำ นาฬิกาของทั้งสองแบรนด์นี้เป็นตัวอย่างของการผสมผสานความงามและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน

ยุโรปตะวันตก: ตลาดสมาร์ทจิวเวลรี่ในยุโรปตะวันตกกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้บริโภคในภูมิภาคนี้ให้ความสำคัญกับการผสมผสานระหว่างแฟชั่น ความยั่งยืน และเทคโนโลยีที่ทันสมัย หลายประเทศในยุโรปตะวันตก เช่น สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี มีความต้องการสมาร์ทจิวเวลรี่เพิ่มขึ้น ชื่นชอบอุปกรณ์สวมใส่ที่ทันสมัย สวยงาม ซึ่งมีคุณสมบัติที่ใช้งานได้จริง สมาร์ทจิวเวลรี่ในยุโรปตะวันตกได้รับการยอมรับในวงการแฟชั่นมากขึ้น เนื่องจากนักออกแบบและแบรนด์หรูหลายแบรนด์เริ่มนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับการออกแบบเครื่องประดับเพื่อสร้างสมาร์ทจิวเวลรี่ที่มีทั้งความงามและประโยชน์ใช้สอย ทำให้กลายเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคสนใจและเลือกซื้อเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่

ภาพ https://www.sportswearable.net

         ภาพข้างบน: Swarovski Shine เป็นคอลเลกชันเครื่องประดับอัจฉริยะที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Swarovski แบรนด์เครื่องประดับคริสตัลหรู และ Misfit บริษัทเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์สวมใส่เพื่อการติดตามสุขภาพ ซึ่งเครื่องประดับชิ้นนี้สามารถนับจำนวนก้าวที่เดิน แคลอรี่ที่เผาผลาญ ระยะทางการเดิน และการนอนหลับ

จีน: ตลาดสมาร์ทจิวเวลรี่ของจีนกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องมาจากจำนวนประชากรที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และการให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีเพิ่มมากขึ้น ผู้บริโภคชาวจีนมองหาอุปกรณ์สวมใส่ที่มีสไตล์พร้อมคุณสมบัติการใช้งานด้านต่างๆ และตลาดยังได้รับประโยชน์จากวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรมและการนำเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้: ตลาดสมาร์ทจิวเวลรี่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย กำลังเริ่มเติบโตตามกระแสความสนใจในเทคโนโลยีสวมใส่ (wearable technology) และการผสมผสานความงามของเครื่องประดับเข้ากับฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจในนวัตกรรมและไลฟ์สไตล์ที่สอดคล้องกับการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ชื่นชอบอุปกรณ์สวมใส่ที่ผสมผสานแฟชั่นเข้ากับการติดตามสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ตะวันออกกลาง: สมาร์ทจิวเวลรี่ในตะวันออกกลางกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในประเทศที่เป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและแฟชั่นอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากผู้บริโภคในภูมิภาคนี้เริ่มให้ความสนใจกับเทคโนโลยีที่ผสมผสานกับเครื่องประดับเพื่อประโยชน์ทั้งในด้านการใช้งานและความสวยงาม ลูกค้าในตะวันออกกลางชื่นชอบความหรูหรา ดังนั้น สมาร์ทจิวเวลรี่ที่มีการออกแบบที่ดูหรูหราและมีเอกลักษณ์ พร้อมกับเทคโนโลยีที่ใช้งานได้จริง จึงตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นอย่างดี

ปัจจัยกระตุ้นการเติบโตของตลาดสมาร์ทจิวเวลรี่

1) การผสานเทคโนโลยีเข้ากับไลฟ์สไตล์ ผู้บริโภคมองหาอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวันและยังคงมีความสวยงามทันสมัย สมาร์ทจิวเวลรี่ตอบโจทย์นี้ด้วยการออกแบบที่เหมาะกับการสวมใส่ทุกวัน ขณะเดียวกันก็มีฟังก์ชันใช้งานหลากหลาย เช่น การติดตามสุขภาพและความปลอดภัย เป็นต้น

2) การเติบโตของตลาดสุขภาพและฟิตเนส ผู้คนใส่ใจสุขภาพมากขึ้นหลังการระบาดของ COVID-19 สมาร์ทจิวเวลรี่ที่เน้นการติดตามสุขภาพ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ การนอนหลับ และการออกกำลังกาย จึงมีความต้องการเพิ่มขึ้น

3) ความสำคัญของความปลอดภัยส่วนบุคคล อุปกรณ์สมาร์ทจิวเวลรี่ที่มีฟังก์ชัน เช่น ปุ่ม SOS หรือการติดตามตำแหน่ง GPS ได้รับความสนใจในกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการความปลอดภัยมากขึ้น

4) การเติบโตของตลาดผู้หญิงและกลุ่มที่สนใจแฟชั่น สมาร์ทจิวเวลรี่มีความสามารถในการดึงดูดกลุ่มผู้หญิงที่สนใจในทั้งด้านความงามและเทคโนโลยี เช่น แหวน สร้อยข้อมือ หรือสร้อยคอที่มีการออกแบบสวยงามทันสมัย แต่มีเทคโนโลยีที่เพิ่มฟังชันการใช้งานด้วย

5) การพัฒนาเทคโนโลยีสวมใส่ (Wearable Technology) การพัฒนาเซ็นเซอร์ที่มีขนาดเล็กและมีความแม่นยำสูง รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ช่วยทำให้สมาร์ทจิวเวลรี่มีความสามารถในการทำงานที่ดีขึ้นและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน

6) การรับรู้และการยอมรับ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการใส่เทคโนโลยีในเครื่องประดับ ทำให้ตลาดสมาร์ทจิวเวลรี่ได้รับความสนใจมากขึ้น ซึ่งมีการสนับสนุนจากบริษัทเครื่องประดับและเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียง

         อนาคตของสมาร์ทจิวเวลรี่ (Smart Jewelry) มีแนวโน้มที่จะพัฒนามากขึ้น โดยผสมผสานระหว่างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ๆ กับความงามด้านการออกแบบเครื่องประดับ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการใช้และสามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคได้อย่างลงตัว

จัดทำโดย นางสาววาสนา สมเนตร์

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

พฤศจิกายน 2567