
จีนจับตาการฟื้นตัวเครื่องประดับทองและแพลทินัม
อุตสาหกรรมเครื่องประดับทองและแพลทินัมของจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวในปี 2025 เนื่องจากการพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมการออกแบบ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายใหม่ทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา
การฟื้นตัวของแพลทินัม
จากรายงาน Platinum Quarterly ฉบับล่าสุดของ World Platinum Investment Council (WPIC) ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยอยู่ในระดับร้อยละ 28 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2024 จุดกระแสความนิยมในเครื่องประดับแพลทินัม เนื่องจากผู้บริโภคที่อ่อนไหวต่อราคาต้องการสินค้าอื่นที่มีราคาย่อมเยากว่า
จากรายงานเมื่อไตรมาส 3 ของปี 2024 ความต้องการเครื่องประดับแพลทินัมจะสูงขึ้นกว่าใน 2023 โดยในปี 2025 จะสูงขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่สองเนื่องจากการขยายตัวในภาคการผลิตเครื่องประดับในสหรัฐฯ และอินเดีย
ขณะเดียวกัน ความต้องการเครื่องประดับแพลทินัมในจีน ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของสินค้ากลุ่มแพลทินัม ตกฮวบถึงร้อยละ 79 ในปี 2023 จากจุดสูงสุดที่ประมาณ 2 ล้านทรอยออนซ์ในปี 2014
การชะลอตัวดำเนินต่อเนื่องไปในปี 2024 จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลงท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการฟื้นตัวในระดับหนึ่งในปี 2025 ด้วยแรงกระตุ้นจากการเติมสต็อกสินค้าของผู้ค้าปลีกและการพัฒนาสินค้าที่ดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงเสื้อผ้าผู้ชายและการออกแบบแนว unisex
Zheng Feng รองผู้จัดการทั่วไป ของ China National Arts & Crafts (Group) Corp กล่าวในงาน China Platinum Group Metal Annual Conference ซึ่งจัดซึ้นในเซินเจิ้น เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2024 ว่า “เพื่อเป็นการกระตุ้นความต้องการ เราจำเป็นต้องพัฒนาสินค้าเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าที่นำเสนอนั้นตรงกับความต้องการของผู้บริโภค เนื่องจากเครื่องประดับแพลทินัมยังตามหลังสินค้าในหมวดอื่นๆ ในเรื่องความหลากหลายและการออกแบบ ธุรกิจจึงจำเป็นต้องเพิ่มการลงทุนในการพัฒนาสินค้า”
นอกจากนี้ ในจีนเครื่องประดับแพลทินัมถูกมองว่าเป็นสินค้านำเข้า ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องเน้นในเรื่องการทำให้เครื่องประดับแพลทินัม “เข้ากับบริบทของพื้นที่” เพื่อกระตุ้นการเติบโต
Zheng อธิบายว่า “เราต้องศึกษาค้นคว้าและสร้างความสำคัญทางวัฒนธรรมของแพลทินัม ผสมผสานแก่นแท้ของแพลทินัมกับวัฒนธรรมจีนโบราณ ขณะเดียวกันก็ทำให้เข้ากับสังคมยุคใหม่ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคจีน”
ขณะที่ความต้องการเครื่องประดับหดตัวลง WPIC ได้รายงานถึงการขยายตัวของการลงทุนในแพลทินัมรูปแบบแท่งและเหรียญในจีน โดยมีความต้องการเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 สำหรับแพลทินัมแท่งขนาดใหญ่ (500 กรัมขึ้นไป) ในปี 2024 เมื่อเทียบกับปี 2023
Trevor Raymond CEO ของ WPIC กล่าวว่า มีการคาดการณ์ว่าการเปิดตัวสัญญาการซื้อขายแพลทินัมและพาลาเดียมล่วงหน้าซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นของ Guangzhou Futures Exchange (GFEX) ในช่วงต้นปี 2025 จะช่วยกระตุ้นความต้องการแพลทินัมมากขึ้นในการใช้ในด้านอุตสาหกรรม เครื่องประดับ ยานยนต์ และการลงทุนในจีน เนื่องจากสัญญาการซื้อขายดังกล่าวจะทำให้ผู้ใช้แพลทินัมสามารถจัดการความเสี่ยงเรื่องราคาที่ลดลง
ความยืดหยุ่นของทองคำ
แม้จะมีสัญญาณที่ดีในความต้องการเพื่อการลงทุน ตลาดเครื่องประดับทองของจีนก็ยังคงมีความต้องการที่ลดลงอย่างมากเนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการลงทุนมากกว่าการซื้อสินค้าหรู
ข้อมูลจาก World Gold Council (WGC) ระบุว่าจีนมีความต้องการเครื่องประดับทองรวม 373 ตันในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2024 นับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2010 ในทางตรงข้าม การลงทุนในทองแท่งและเหรียญทองในช่วงเดียวกัน (253 ตัน) แตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี
“ราคาทองคำในประเทศที่พุ่งสูงขึ้นเป็นดาบสองคมต่อการบริโภคทองคำของจีนในปี 2024” WGC กล่าว “แม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นควบคู่ไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ความสามารถในการซื้อของผู้บริโภคเครื่องประดับทองก็ลดลง เมื่อรวมเข้ากับผลตอบแทนที่ลดลง และความผันผวนของตลาดหุ้น และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่อ่อนค่าลง สิ่งเหล่านี้จึงดึงดูดนักลงทุนทองคำ” WGC อธิบาย
ระหว่างงาน China International Gold Market Annual Conference ในเซินเจิ้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2024 David Tait CEO ของ WGC เน้นถึงการเกิดขึ้นของเครื่องประดับทองคำบริสุทธิ์ที่มีความแข็งซึ่งเป็นสินค้าที่มีความโดดเด่นในตลาดทองคำจีนในปี 2024 ต้องขอบคุณการออกแบบสมัยใหม่และราคาที่ย่อมเยาซึ่งช่วยดึงดูดผู้บริโภควัยหนุ่มสาว
Tait แสดงความเห็นว่า “การที่กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนได้ประกาศมาตรฐานใหม่ทางอุตสาหกรรมสำหรับเครื่องประดับทองคำบริสุทธิ์ที่มีความแข็งเพื่อบังคับใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ปี 2025 เป็นต้นไป จะช่วยให้อุตสาหกรรมดำรงอยู่บนเส้นทางการเติบโตอย่างยั่งยืนและดึงดูดผู้บริโภควัยหนุ่มสาวและวัยอื่นๆ มากยิ่งขึ้นด้วยการออกแบบและรูปแบบที่มีความร่วมสมัย”
เขากล่าวเสริมว่า การกระตุ้นการเติบโตของตลาดเครื่องประดับทองจะขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์และความก้าวหน้า
Joseph Cavatoni Senior Market Strategist ของ WGC อเมริกาเหนือ ชี้ว่า นโยบายทางการเงินของสหรัฐฯ และบทบาทในภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดทองคำในปี 2025
Cavatoni กล่าวว่า “นโยบายทางการเมืองและการบริหารของสหรัฐฯ กำลังจะถูกจับตามองอีกครั้งและอาจจะเป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่สุดของพฤติกรรมในการบริโภคทองคำ”
ภาพจาก: https://www.chowsangsang.com/
ขณะเดียวกัน Joni Teves Precious Metal Strategist ของ UBS กล่าวว่า การทำให้กลยุทธ์มีความหลากหลายและกระแสการไหลของสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง การซื้อจากธนาคารกลางและความต้องการทางกายภาพที่ค่อนข้างยืดหยุ่นแม้ในเวลาที่ทองคำมีราคาสูงขึ้น มีส่วนทำให้ราคาทองยืดหยุ่น นอกจากนี้ Teves ยังได้คาดการณ์ว่า ทองคำจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจนนำไปสู่การทำสถิติใหม่ในปี 2025 โดยมีการคาดการณ์ราคาเฉลี่ยทองคำในช่วงสิ้นปีจะอยู่ที่ 3,500 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
Teves กล่าวว่า “เราไม่คิดว่าทองคำมีราคาแพง แม้ว่าการซื้อทองคำจะต้องจ่ายราคาสูงในตอนนี้ เราได้เห็นมาจากในประวัติศาสตร์แล้วว่าผู้บริโภคจะเคยชินกับราคาที่สูงขึ้นไปเอง”
แปลและเรียบเรียงโดยศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
กรกฎาคม 2568
ข้อมูลอ้างอิง