วายแอลจีปลื้มทองคำพุ่ง
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (วายแอลจี) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งของไทย เปิดเผยว่า ตลาดทองคำในปี 64 อยู่ในช่วงขาขึ้นตั้งแต่ต้นปี จากปัจจัยการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลก และล่าสุด ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังรอบใหม่มูลค่า 9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงมีการคาดการณ์ว่ารัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน น่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 3 ออกมาเช่นกัน
ขณะเดียวกันยังเกิดจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากค่าเงินปอนด์แข็งค่าหลังจากที่อังกฤษและสหภาพยุโรปสามารถตกลงมาตรการด้านการค้าลุล่วงจากกรณีเบร็กซิต รวมทั้งการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังของสหรัฐยังส่งผลให้การคาดการณ์เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ทองคำกลายเป็นทางเลือกในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่ดี โดยเมื่อปี 63 เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 7% ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 25% ทำให้ปีนี้นักวิเคราะห์จากต่างประเทศคาดการณ์อีกว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ อีกทั้งธนาคารกลางหลายประเทศได้ลดสัดส่วนการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ และได้หันไปถือครองเงินสกุลอื่นรวมถึงทองคำเพิ่มขึ้น ส่วนระยะยาวนั้นทองคำยังเป็นขาขึ้นอีก 1-2 ปี เพราะอัตราดอกเบี้ยจะยังอยู่ในระดับต่ำถึงปี 66
สำหรับทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองในช่วงนี้แม้เป็นขาขึ้น แต่อาจมีการขายทำกำไรออกมาในบางช่วง โดยนักลงทุนสามารถเข้าทยอยเข้าซื้อสะสมได้ แต่เน้นทำกำไรระยะสั้นเป็นรอบ ๆ แนะนำให้จับตาแนวต้านสำคัญ ที่ 1,965 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หากผ่านได้จะมีโอกาสที่ราคาจะแตะ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ข้อมูลอ้างอิง