เกาะกระแสงานออกแบบเครื่องประดับยุคใหม่ที่ไม่ควรพลาด (ตอนที่ 2)

Jun 22, 2023
1688 views
0 share

        จากกระแสงานออกแบบเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันซึ่งได้กล่าวถึงในบทความตอนที่ 1 ถึงงานฝังประดับ และงานลงยาไปแล้วนั้น เทรนด์มาแรงต่อมาก็คือ เครื่องประดับค็อกเทล รูปทรงคลื่น และโลหะหนาหนัก ซึ่งในตอนที่ 2 นี้นำเสนอตัวอย่างของแบรนด์เครื่องประดับที่นำเอาเทรนด์บางส่วนมาปรับใช้ในคอลเลกชันและสร้างสรรค์เครื่องประดับโดยยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์


สร้อยคอแบรนด์ Gamella

เครื่องประดับค็อกเทล

        จริงอยู่ว่าการฝังเพชรหรืออัญมณีอันโดดเด่นบนตัวเรือนทองขนาดใหญ่ไม่ใช่เทรนด์แปลกใหม่อะไร แต่นักออกแบบหลายรายก็กำลังสนใจรังสรรค์แหวนค็อกเทลกันอย่างมาก โดยมีการทดลองใช้ตัวเรือนและอัญมณีชนิดต่างๆ เพื่อนำเอาสไตล์เดิมมาดัดแปลงใหม่ในรูปแบบของตัวเอง โดยนำเสนอความสดใสและเบิกบาน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและสะท้อนถึงยุคหลังโรคระบาด 

        สไตล์นี้เข้ามาแทนที่กระแสที่เคยเรียกกันว่า “แหวนมือขวา” เมื่อการซื้อเครื่องประดับให้ตัวเองเป็นกระแสความนิยมใหม่ในหมู่ผู้บริโภคแทนที่จะมีแค่เครื่องประดับสำหรับการหมั้นและการแต่งงานเท่านั้น จึงไม่จำเป็นจะต้องแยกสไตล์ของแหวนในลักษณะนี้อีกต่อไป

        แหวนค็อกเทลได้รับความนิยมมากจนเกิดเป็นเครื่องประดับกลุ่มใกล้เคียงกันขึ้นมา นั่นคือจี้ค็อกเทล ตัวอย่างเช่น แบรนด์ Gamella ผลิตจี้อัญมณีบนตัวเรือนทองแบบหนาและสายสร้อยทรงกลมขนาดใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ในขณะที่แหวนคอลเลกชัน “Loop” ของแบรนด์ Retrouvaí เป็นนวัตกรรมล่าสุดของทางแบรนด์ที่ทำให้แหวนอัญมณีธรรมดาๆ ดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร


คอลเลกชัน "Double Bubble" แบรนด์ Gamella

        ขณะที่คอลเลกชันเครื่องประดับ “Power Pinky” ของนักออกแบบ Arielle Ratner มีความเลิศหรูแบบคลาสสิกอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ และเช่นเดียวกับเครื่องประดับอื่นๆ ในกลุ่มนี้ มันดูโดดเด่นสะดุดตาแต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่เฉพาะแค่ในโอกาสพิเศษเท่านั้น    


คอลเลกชัน “Power Pinky” “Uni Drop Earrings” และ “Astral Necklace” ของนักออกแบบ Arielle Ratner


รูปทรงคลื่น

        ระยะหลังมานี้มีความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในแง่รูปทรง โดยเฉพาะงานออกแบบแนวกราฟฟิกเรขาคณิตกำลังมาแรงและเปิดทางให้รูปลักษณ์ทรงคลื่นที่ดูเป็นธรรมชาติสร้างกระแสมากยิ่งขึ้น ซึ่งเน้นดีไซน์เครื่องประดับที่ทำด้วยโลหะมีค่าล้วนหรือตกแต่งเพชร 

        เทรนด์นี้ช่วยในการยืนยันถึงเอกลักษณ์แบรนด์ บริษัทที่เน้นอิทธิพลจากศิลปะอาร์ตเดโคก็อาจมองข้ามเทรนด์นี้ไปได้เลย แต่สำหรับนักออกแบบที่ชอบการใช้ลายเส้นแนวโค้ง การเปิดรับเทรนด์นี้ก็เหมาะสมอย่างยิ่ง

        กระแสรูปคลื่นในเครื่องประดับทุกวันนี้เป็นภาพสะท้อนของเทรนด์ฮิตในวงการตกแต่งบ้านเมื่อไม่กี่ปีมานี้ งานออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างได้รับแรงบันดาลใจจากการใช้เส้นโค้งและรูปทรงที่ให้ความรู้สึกสบายๆ เมื่อแนวเส้นโค้งมนเริ่มแพร่หลายในงานเฟอร์นิเจอร์และการออกแบบบ้าน ดังจะเห็นได้จากการกลับมาของกระจกเงาที่มีกรอบเป็นเส้นคลื่นของสถาปนิกชาวอิตาเลียน Ettore Sottsass นักออกแบบหลายรายจึงเริ่มนำแนวทางนี้มาตีความในงานดีไซน์เครื่องประดับ

        ตัวอย่างงานออกแบบเครื่องประดับรูปทรงแนวคลื่น อาทิ คอลเลกชันเครื่องประดับของแบรนด์หน้าใหม่ Ondyn เน้นรูปเกลียวหมุนวนที่อ่อนช้อย งานแทบทุกชิ้นมีลักษณะเป็นข้อต่อที่เชื่อมเข้าด้วยกันและเคลื่อนไหวไปพร้อมกับผู้สวมใส่ 


คอลเลกชัน "Sparkler Earrings" แบรนด์ Ondyn

        คอลเลกชัน “Ric Rac” ของดีไซน์เนอร์ Aurelia Demark เป็นการนำรูปคลื่นมานำเสนอให้ดูสง่างามคล้ายประติมากรรมในรูปแบบของกำไลและแหวนทรงคลื่นที่เล่นพื้นผิว สื่อถึงความคลาสสิก


คอลเลกชัน “Ric Rac” จากนักออกแบบ Aurelia Demark

        สำหรับคอลเลกชันครบรอบ 15 ปีของ Jemma Wynne ทางแบรนด์ก็ได้ออกแบบแหวนและกำไลแบบเรียบง่ายให้มีลวดลายรูปคลื่นประดับด้วยเพชรและพลอยสี


คอลเลกชัน “Anniversary Rainbow Wave” จากนักออกแบบ Jemma Wynne  


โลหะหนาหนัก

        เครื่องประดับทองค็อกเทลขนาดใหญ่เป็นตัวเชื่อมประสานไปยังเทรนด์ต่อไปได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือความหลงใหลในงานโลหะที่หนาหนักนั่นเอง

        แบรนด์ชั้นแนวหน้าของงานสไตล์นี้คือ Brent Neale ซึ่งนำเอาแหวนโบราณสไตล์ยิปซีมาตีความใหม่ได้อย่างลุ่มลึกและใช้การฝังอัญมณีแบบการฝังจม ซึ่งเป็นการฝังที่คล้ายกับการฝังหุ้ม แต่เป็นการฝังจมลงไปในเนื้อโลหะโดยไม่เห็นกระเปาะของตัวเรือนเครื่องประดับ


คอลเลกชัน “Petal” จากนักออกแบบ Brent Neale

        เช่นเดียวกับเทรนด์ส่วนใหญ่ สไตล์นี้ไม่ใช่กระแสใหม่ เพราะการผลิตและสวมใส่เครื่องประดับนั้นมีมากมายหลายรูปแบบอยู่แล้ว แต่ที่ผู้เริ่มต้นเทรนด์ได้รับการยอมรับก็เพราะเป็นผู้ฟื้นฟูสไตล์ซึ่งไม่ได้พบเห็นกันโดยทั่วไปแล้วในปัจจุบัน หรือไม่ก็สร้างสรรค์เอกลักษณ์พิเศษขึ้นมาจากสไตล์นั้นๆ

        ความทุ่มเทที่นักออกแบบ Brent Neale รังสรรค์เครื่องประดับทองคำได้พัฒนากลายเป็นตัวเรือนทองคำขนาดใหญ่หลายรูปแบบ เช่น ตัวเรือนฝังหุ้มทรงกลม หรือตัวเรือนแหวนรูปกลีบดอกไม้คอลเลกชัน “Petal” ที่ได้รับความนิยม ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นงานออกแบบที่ให้ความสำคัญกับการใช้โลหะมีค่าและอัญมณี

        นักออกแบบเครื่องประดับแบบสั่งทำ Jonne Amaya ก็เน้นการใช้โลหะในงานออกแบบเครื่องประดับเป็นหลัก เพื่อนำเสนอผลงานดีไซน์ของตน ซึ่งนับได้ว่าเป็นงานออกแบบเครื่องประดับที่สอดแทรกเทรนด์นี้ได้เป็นอย่างดี


แหวนจากนักออกแบบ Jonne Amaya

        Lindsey Scoggins สร้างสรรค์ตัวเรือนเครื่องประดับที่แตกต่างประดับอัญมณี ซึ่งเป็นการท้าทายเทรนด์ในหลายๆ แง่ แต่ก็เน้นการใช้โลหะเป็นปริมาณมากเช่นกัน


แหวนจากนักออกแบบ Lindsey Scoggins


จัดทำโดย นางสาวกวินิตา กฤตาภาสกรวงค์

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)


ข้อมูลอ้างอิง


National Jeweler. 2023. State of Design: The Jewelry Design Trends to Know Now. [Online]. Available at https://nationaljeweler.com/articles/11981-state-of-design-the-jewelry-design-trends-to-know-now.

เอกสารแนบ


ความคิดเห็น


เกาะกระแสงานออกแบบเครื่องประดับยุคใหม่ที่ไม่ควรพลาด (ตอนที่ 2)

Jun 22, 2023
1688 views
0 share

        จากกระแสงานออกแบบเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันซึ่งได้กล่าวถึงในบทความตอนที่ 1 ถึงงานฝังประดับ และงานลงยาไปแล้วนั้น เทรนด์มาแรงต่อมาก็คือ เครื่องประดับค็อกเทล รูปทรงคลื่น และโลหะหนาหนัก ซึ่งในตอนที่ 2 นี้นำเสนอตัวอย่างของแบรนด์เครื่องประดับที่นำเอาเทรนด์บางส่วนมาปรับใช้ในคอลเลกชันและสร้างสรรค์เครื่องประดับโดยยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์


สร้อยคอแบรนด์ Gamella

เครื่องประดับค็อกเทล

        จริงอยู่ว่าการฝังเพชรหรืออัญมณีอันโดดเด่นบนตัวเรือนทองขนาดใหญ่ไม่ใช่เทรนด์แปลกใหม่อะไร แต่นักออกแบบหลายรายก็กำลังสนใจรังสรรค์แหวนค็อกเทลกันอย่างมาก โดยมีการทดลองใช้ตัวเรือนและอัญมณีชนิดต่างๆ เพื่อนำเอาสไตล์เดิมมาดัดแปลงใหม่ในรูปแบบของตัวเอง โดยนำเสนอความสดใสและเบิกบาน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและสะท้อนถึงยุคหลังโรคระบาด 

        สไตล์นี้เข้ามาแทนที่กระแสที่เคยเรียกกันว่า “แหวนมือขวา” เมื่อการซื้อเครื่องประดับให้ตัวเองเป็นกระแสความนิยมใหม่ในหมู่ผู้บริโภคแทนที่จะมีแค่เครื่องประดับสำหรับการหมั้นและการแต่งงานเท่านั้น จึงไม่จำเป็นจะต้องแยกสไตล์ของแหวนในลักษณะนี้อีกต่อไป

        แหวนค็อกเทลได้รับความนิยมมากจนเกิดเป็นเครื่องประดับกลุ่มใกล้เคียงกันขึ้นมา นั่นคือจี้ค็อกเทล ตัวอย่างเช่น แบรนด์ Gamella ผลิตจี้อัญมณีบนตัวเรือนทองแบบหนาและสายสร้อยทรงกลมขนาดใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ในขณะที่แหวนคอลเลกชัน “Loop” ของแบรนด์ Retrouvaí เป็นนวัตกรรมล่าสุดของทางแบรนด์ที่ทำให้แหวนอัญมณีธรรมดาๆ ดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร


คอลเลกชัน "Double Bubble" แบรนด์ Gamella

        ขณะที่คอลเลกชันเครื่องประดับ “Power Pinky” ของนักออกแบบ Arielle Ratner มีความเลิศหรูแบบคลาสสิกอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ และเช่นเดียวกับเครื่องประดับอื่นๆ ในกลุ่มนี้ มันดูโดดเด่นสะดุดตาแต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่เฉพาะแค่ในโอกาสพิเศษเท่านั้น    


คอลเลกชัน “Power Pinky” “Uni Drop Earrings” และ “Astral Necklace” ของนักออกแบบ Arielle Ratner


รูปทรงคลื่น

        ระยะหลังมานี้มีความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในแง่รูปทรง โดยเฉพาะงานออกแบบแนวกราฟฟิกเรขาคณิตกำลังมาแรงและเปิดทางให้รูปลักษณ์ทรงคลื่นที่ดูเป็นธรรมชาติสร้างกระแสมากยิ่งขึ้น ซึ่งเน้นดีไซน์เครื่องประดับที่ทำด้วยโลหะมีค่าล้วนหรือตกแต่งเพชร 

        เทรนด์นี้ช่วยในการยืนยันถึงเอกลักษณ์แบรนด์ บริษัทที่เน้นอิทธิพลจากศิลปะอาร์ตเดโคก็อาจมองข้ามเทรนด์นี้ไปได้เลย แต่สำหรับนักออกแบบที่ชอบการใช้ลายเส้นแนวโค้ง การเปิดรับเทรนด์นี้ก็เหมาะสมอย่างยิ่ง

        กระแสรูปคลื่นในเครื่องประดับทุกวันนี้เป็นภาพสะท้อนของเทรนด์ฮิตในวงการตกแต่งบ้านเมื่อไม่กี่ปีมานี้ งานออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างได้รับแรงบันดาลใจจากการใช้เส้นโค้งและรูปทรงที่ให้ความรู้สึกสบายๆ เมื่อแนวเส้นโค้งมนเริ่มแพร่หลายในงานเฟอร์นิเจอร์และการออกแบบบ้าน ดังจะเห็นได้จากการกลับมาของกระจกเงาที่มีกรอบเป็นเส้นคลื่นของสถาปนิกชาวอิตาเลียน Ettore Sottsass นักออกแบบหลายรายจึงเริ่มนำแนวทางนี้มาตีความในงานดีไซน์เครื่องประดับ

        ตัวอย่างงานออกแบบเครื่องประดับรูปทรงแนวคลื่น อาทิ คอลเลกชันเครื่องประดับของแบรนด์หน้าใหม่ Ondyn เน้นรูปเกลียวหมุนวนที่อ่อนช้อย งานแทบทุกชิ้นมีลักษณะเป็นข้อต่อที่เชื่อมเข้าด้วยกันและเคลื่อนไหวไปพร้อมกับผู้สวมใส่ 


คอลเลกชัน "Sparkler Earrings" แบรนด์ Ondyn

        คอลเลกชัน “Ric Rac” ของดีไซน์เนอร์ Aurelia Demark เป็นการนำรูปคลื่นมานำเสนอให้ดูสง่างามคล้ายประติมากรรมในรูปแบบของกำไลและแหวนทรงคลื่นที่เล่นพื้นผิว สื่อถึงความคลาสสิก


คอลเลกชัน “Ric Rac” จากนักออกแบบ Aurelia Demark

        สำหรับคอลเลกชันครบรอบ 15 ปีของ Jemma Wynne ทางแบรนด์ก็ได้ออกแบบแหวนและกำไลแบบเรียบง่ายให้มีลวดลายรูปคลื่นประดับด้วยเพชรและพลอยสี


คอลเลกชัน “Anniversary Rainbow Wave” จากนักออกแบบ Jemma Wynne  


โลหะหนาหนัก

        เครื่องประดับทองค็อกเทลขนาดใหญ่เป็นตัวเชื่อมประสานไปยังเทรนด์ต่อไปได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือความหลงใหลในงานโลหะที่หนาหนักนั่นเอง

        แบรนด์ชั้นแนวหน้าของงานสไตล์นี้คือ Brent Neale ซึ่งนำเอาแหวนโบราณสไตล์ยิปซีมาตีความใหม่ได้อย่างลุ่มลึกและใช้การฝังอัญมณีแบบการฝังจม ซึ่งเป็นการฝังที่คล้ายกับการฝังหุ้ม แต่เป็นการฝังจมลงไปในเนื้อโลหะโดยไม่เห็นกระเปาะของตัวเรือนเครื่องประดับ


คอลเลกชัน “Petal” จากนักออกแบบ Brent Neale

        เช่นเดียวกับเทรนด์ส่วนใหญ่ สไตล์นี้ไม่ใช่กระแสใหม่ เพราะการผลิตและสวมใส่เครื่องประดับนั้นมีมากมายหลายรูปแบบอยู่แล้ว แต่ที่ผู้เริ่มต้นเทรนด์ได้รับการยอมรับก็เพราะเป็นผู้ฟื้นฟูสไตล์ซึ่งไม่ได้พบเห็นกันโดยทั่วไปแล้วในปัจจุบัน หรือไม่ก็สร้างสรรค์เอกลักษณ์พิเศษขึ้นมาจากสไตล์นั้นๆ

        ความทุ่มเทที่นักออกแบบ Brent Neale รังสรรค์เครื่องประดับทองคำได้พัฒนากลายเป็นตัวเรือนทองคำขนาดใหญ่หลายรูปแบบ เช่น ตัวเรือนฝังหุ้มทรงกลม หรือตัวเรือนแหวนรูปกลีบดอกไม้คอลเลกชัน “Petal” ที่ได้รับความนิยม ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นงานออกแบบที่ให้ความสำคัญกับการใช้โลหะมีค่าและอัญมณี

        นักออกแบบเครื่องประดับแบบสั่งทำ Jonne Amaya ก็เน้นการใช้โลหะในงานออกแบบเครื่องประดับเป็นหลัก เพื่อนำเสนอผลงานดีไซน์ของตน ซึ่งนับได้ว่าเป็นงานออกแบบเครื่องประดับที่สอดแทรกเทรนด์นี้ได้เป็นอย่างดี


แหวนจากนักออกแบบ Jonne Amaya

        Lindsey Scoggins สร้างสรรค์ตัวเรือนเครื่องประดับที่แตกต่างประดับอัญมณี ซึ่งเป็นการท้าทายเทรนด์ในหลายๆ แง่ แต่ก็เน้นการใช้โลหะเป็นปริมาณมากเช่นกัน


แหวนจากนักออกแบบ Lindsey Scoggins


จัดทำโดย นางสาวกวินิตา กฤตาภาสกรวงค์

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)


ข้อมูลอ้างอิง


National Jeweler. 2023. State of Design: The Jewelry Design Trends to Know Now. [Online]. Available at https://nationaljeweler.com/articles/11981-state-of-design-the-jewelry-design-trends-to-know-now.

เอกสารแนบ


ความคิดเห็น


เราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายคุกกี้   ตั้งค่า ยอมรับ

×
140 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ชั้น 4 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
โทรศัพท์: 0 2634 4999 ต่อ 444
โทรสาร: 0 2634 4970