มรกตเป็นหนึ่งในอัญมณีที่มีชื่อร่วมกับเพชร ทับทิม และแซปไฟร์ ในฐานะ Big4 อัญมณีมีค่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในนานาประเทศทั่วโลก ในช่วงที่ผ่านมานั้น มรกตได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้น จากอุปสงค์ที่ขยายตัวในประเทศผู้นำเข้าที่สำคัญหลายตลาด ทั้งสหรัฐอเมริกา จีน และอินเดีย โดยมรกตที่มาจากโคลอมเบีย แซมเบีย และบราซิล ทั้งสามแห่งถือเป็นแหล่งขุดพบที่สำคัญ ซึ่งมีสัดส่วนในตลาดมากกว่า 90% 

ล่าสุด Gemfields ได้ประกาศยกเลิกการประมูลมรกตคุณภาพสูงในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ เนื่องจากการขุดพบมรกตคุณภาพสูงในเหมือง Kagem ช่วงเดือนที่ผ่านมามีไม่เพียงพอ ซึ่งเหมือง Kagem ในแซมเบียนั้น  เป็นการดำเนินงานร่วมกันระหว่าง Gemfields ในสัดส่วน 75% และรัฐบาลแซมเบียที่ดำเนินการผ่านบริษัทพัฒนาอุตสาหกรรม IDC ในสัดส่วน 25% โดยเหมืองแห่งนี้เป็นเหมืองมรกตที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีกำลังผลิตคิดเป็น 25-30% ของมรกตทั่วโลก จึงทำให้แซมเบียก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตอันดับ 2 ของโลกรองจากโคลอมเบีย

ในการประมูลมรกตของ Gemfields ที่จัดขึ้นช่วง 29 สิงหาคม-15 กันยายนที่ผ่านมา มรกตระดับคุณภาพทางการค้า (Commercial Grade) ทำรายได้จากการประมูลรวม 25.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งมรกตที่นำมาประมูลทั้ง 43 ล็อต สามารถขายออกได้ทั้งหมด เมื่อรวมยอดรายได้จากการประมูลมรกตที่ได้จากเหมือง Kagem ตั้งแต่ปี 2552 คิดเป็นรายได้ถึง 9.89 พันล้านดอลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ Gemfields ยังประกาศว่า มรกตคุณภาพสูงจะพร้อมออกให้ประมูลในปี 2567 

ภาพมรกตแต่ละล็อตที่นำมาประมูลจากเหมือง Kagem ที่มา https://rapaport.com/news/ 

Gemfields ยังให้ความเห็นว่า อุปสงค์ของพลอยสีรวมทั้งมรกตยังเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดตั้งแต่สถานการณ์โควิดคลี่คลายลง โดยมีความต้องการซื้อมรกตระดับคุณภาพสูงและคุณภาพทางการค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นำโดยตลาดผู้บริโภคจากจีนที่เติบโตสูงโดยเฉพาะมรกตจากแซมเบีย นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตว่า มรกตจำนวนมากถูกส่งมาเจียระไนที่เมืองชัยปุระอย่างต่อเนื่อง นับแต่มีการโปรโมทมรกตเป็นธีมหลักในงาน Jaipur Jewellery Show เมื่อปีก่อน รวมทั้งภาพการโปรโมทของงานใน 22-25 ธันวาคมปีนี้ ยังมีการใช้มรกตและสีเขียวมาเป็นธีมหลักของงาน