คว่ำบาตรเพชรรัสเซีย ความซับซ้อนในการบังคับใช้ที่ยังไม่ชัดเจน
ตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นมา ด้วยความตกลงของประเทศในกลุ่ม G7 (แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา) และสหภาพยุโรป (EU) ได้ออกมาตรการห้ามนำเข้าเพชรจากรัสเซียในรูปแบบที่เข้มงวดมากขึ้น ครอบคลุมทั้งเพชรธรรมชาติและเพชรสังเคราะห์ ด้วยการห้ามนำเข้า ซื้อขาย หรือโอน เพชรธรรมชาติและเพชรสังเคราะห์จากรัสเซีย รวมทั้งที่ได้ผ่านการเจียระไนในประเทศที่สาม สำหรับขนาดตั้งแต่ 1 กะรัตขึ้นไป รวมทั้งมาตรการอื่นๆ ที่นำมาใช้กดดันรัสเซียด้วย
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา สภาสหภาพยุโรปได้ประกาศต่ออายุมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียออกไปอีก 6 เดือน จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2568 ตามที่ระบุในแถลงการณ์ ปัจจุบันมาตรการคว่ำบาตรครอบคลุมในธุรกิจหลายประเภทอย่างกว้างขวาง เช่น ข้อจำกัดด้านการค้า การเงิน เทคโนโลยี สินค้าอุตสาหกรรม การขนส่ง และสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 สหภาพยุโรปได้นำมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่ครอบคลุมในหลายภาคส่วนของอุตสาหกรรมมาใช้แล้วจำนวน 14 ชุด
ภาพจาก https://nationaljeweler.com
นอกจากนี้ สหภาพยุโรปได้ตัดสินใจเลื่อนการตรวจสอบย้อนกลับอย่างเต็มรูปแบบในการนำเข้าเพชรดิบและเพชรเจียระไน ที่จะนำมาใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้ ไปเป็นวันที่ 1 มีนาคม 2568 เพื่อให้ประเทศในกลุ่ม G7 ที่เป็นผู้นำเข้าเพชรดิบรายใหญ่ ได้จัดทำกลไกการตรวจสอบย้อนกลับที่มีประสิทธิภาพสมบูรณ์ก่อนการบังคับใช้จะเกิดขึ้น รวมทั้งยังเลื่อนการห้ามนำเข้าเครื่องประดับที่ประดับด้วยเพชรที่ขุดจากเหมืองในรัสเซียแต่ตัดแต่งและเจียระไนในประเทศอื่น โดยจะอนุญาตให้มีการนำเข้าหรือส่งออก "ชั่วคราว" สำหรับเครื่องประดับเพื่อนำมาใช้ในงานแสดงสินค้าหรือเพื่อนำมาซ่อมแซม
ขณะที่ผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมอย่าง De Beers เรียกร้องให้ทบทวนการใช้วิธีการตรวจสอบด้วยการส่งไปเมืองแอนต์เวิร์ป ในเบลเยียมเพียงแห่งเดียว โดยเห็นว่า นอกจากเบลเยียมแล้ว แคนาดา นามิเบีย แอฟริกาใต้ และแองโกล่า ล้วนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่มีมาตรฐานได้การยอมรับจากทั่วโลก ควรที่จะสามารถรับรองเพชรของตนเองในการค้ากับประเทศกลุ่ม G7 ได้เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม จากมาตรการคว่ำบาตรเพชรรัสเซียของสหภาพยุโรปแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการกดดันทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย แต่ทำให้เกิดความซับซ้อนและปัญหาความล่าช้าในการนำมาปฏิบัติ ซึ่งอุตสาหกรรมยังต้องการเวลาในการพัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพ โดยต้องคำนึงถึงผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในห่วงโซ่อุปทานซึ่งมีอยู่ทั่วโลกด้วย
จัดทำโดย นายพุทธิพร วิชัยดิษฐ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
กรกฎาคม 2567
ข้อมูลอ้างอิง
2) AA. 2024. EU Council renews sanctions on Russia for 6 more months. [Online]. Available at: https://www.aa.com.tr/en/russia-ukraine-war/eu-council-renews-sanctions-on-russia-for-6-more-months/3282578. (Retrieved July 19,2024).
3) National Jeweler. 2024. EU Pushes Back Sept. 1 Diamond Traceability Deadline, US Yet to Act. [Online]. Available at: https://nationaljeweler.com/articles/13020-eu-pushes-back-sept-1-diamond-traceability-deadline-us-yet-to-act. (Retrieved July 23,2024).
4) Jeweller Magazine. 2024. De Beers requests changes to diamond sanctions timeline. [Online]. Available at: https://www.jewellermagazine.com/Article/13126/De-Beers-requests-changes-to-diamond-sanctions-timeline. (Retrieved July 23,2024).