ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

ความลับของดอกกุหลาบ

Feb 14, 2020
1149 views
0 share

            กุมภาพันธ์ถือได้ว่าเป็นเดือนซึ่งมีความพิเศษและโรแมนติกที่สุดในรอบปี ด้วยถูกยกให้เป็นเดือนแห่งความรัก อันเนื่องมาจากวันวาเลนไทน์ ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ดังนั้น ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความรัก และเมื่อนึกถึงถึงสัญลักษณ์อันมีความหมายที่สื่อถึงความรักแล้วล่ะก็ ดอกกุหลาบ คือคำตอบอันเป็นสากลที่ทั่วโลกให้การยอมรับอย่างไม่มีข้อสงสัย

 
ดอกกุหลาบสีสันต่างๆ
ภาพจาก: Pinterest

 
            อย่างไรก็ตาม ดอกกุหลาบ ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นผู้ส่งสาส์นแสดงความรักเท่านั้น หากแต่ยังเคยถูกใช้ในหลากหลายวัตถุประสงค์ อาทิ สัญลักษณ์แห่งความลับ สัญลักษณ์ทางศาสนา หรือแม้กระทั่งปรากฎอยู่ในวรรณกรรม เป็นต้น

            มนุษย์เรานั้นรู้จักและคุ้นเคยกับดอกกุหลาบมาหลายพันปี โดยมีเรื่องเล่าว่าพระนางคลีโอพัตรา ราชินีผู้เลอโฉมแห่งอียิปต์ได้สั่งให้นำดอกกุหลาบจำนวนมากตกแต่งและโปรยให้ทั่วห้อง เพื่อเป็นการต้อนรับมาร์คแอนโทนี แม่ทัพคนสำคัญแห่งจักรวรรดิโรมันผู้ซึ่งเป็นคนรักของนาง และด้วยความสวยงามและกลิ่นหอมรัญจวนชวนให้หลงใหลนี้ มันจึงถูกหยิบยกขึ้นมาใช้เปรียบเทียบกับความงามของผู้หญิงอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าสตรีคนแรกที่ได้รับสมญาว่างามดั่งดอกกุหลาบก็คือพระนางคลีโอพัตรานั่นเอง



ต่างหูซึ่งออกแบบเป็นรูปดอกกุหลาบ 
ทำจากทองสีชมพู 18 กะรัต ประดับเพชร
เครื่องประดับโดย: Piaget

            สำหรับที่มาของดอกกุหลาบในฐานะตัวแทนของความรักนั้น เริ่มขึ้นในสมัยกรีกโบราณ พวกเขาเชื่อว่าดอกกุหลาบมีความเกี่ยวข้องกับเทพีอโฟรไดท์ (Aphrodite) (*) เทพีแห่งความงามและความรัก มีตำนานมากมายที่เล่าถึงต้นกำเนิดของดอกกุหลาบ โดยหนึ่งในบรรดาตำนานเหล่านั้นกล่าวว่าดอกกุหลาบเกิดจากโลหิตของบุรุษหนุ่มรูปงามซึ่งเป็นคนรักของเทพีอโฟรไดท์ เขาถูกลอบทำร้ายจนเสียชีวิตด้วยเหตุจากความริษยาที่ได้ครอบครองหัวใจของเทพีอโฟรไดท์ และเมื่อโลหิตของเขาไหลลงสัมผัสพื้นดิน พลันปรากฎเป็นดอกไม้สีแดงส่งกลิ่นหอมซึ่งก็คือดอกกุหลาบ จึงเชื่อกันว่าดอกไม้ชนิดนี้คือข้อความที่ส่งถึงเทพีอโฟรไดท์ว่าความรักของเขาจะยังคงเบ่งบานชั่วกาลนาน

            ขณะที่ชาวโรมันโบราณนำดอกกุหลาบมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของความลับ กล่าวคือ หากมีการนำดอกกุหลาบแขวนไว้ที่หน้าประตูห้อง หรือวางไว้บนโต๊ะที่มีการประชุมหารือ จะเป็นที่รู้กันในหมู่ผู้ร่วมการประชุมว่าสิ่งที่ได้พูดคุยกันในที่ประชุมนั้นจะต้องเป็นความลับที่ไม่อาจเล็ดลอดออกไปให้คนนอกล่วงรู้

            ดอกกุหลาบยังมีความเกี่ยวข้องกับศาสนาอีกด้วย ในศาสนาอิสลามดอกกุหลาบคือสัญลักษณ์แห่งจิตวิญญาณ ด้านศาสนาคริสต์เชื่อว่าดอกกุหลาบคือดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของพระแม่มารี (Virgin Mary) พระมารดาแห่งพระเยซู นอกจากนี้ ดอกกุหลาบยังปรากฎอยู่ในศาสนสถานของชาวคาทอลิกโดยเฉพาะสถาปัตยกรรมแบบกอทิก ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “หน้าต่างกุหลาบ” (Rose Window) หมายถึง หน้าต่างกลมซึ่งประดับด้วยกระจกสีสันสวยงามเป็นรูปพระคริสต์ เทวดา นักบุญต่างๆ รวมไปถึงสัญลักษณ์จักรราศี เป็นต้น



หน้าต่างกุหลาบ (Rose Window) ในมหาวิหารนอร์เทอดาม (Notre Dame Cathedral) ณ กรุงปารีส
ภาพจาก: https://www.notredamedeparis.fr
 
            สำหรับในประเทศไทยนั้น แม้ไม่สามารถยืนยันได้ว่าดอกกุหลาบเข้ามายังประเทศไทยตั้งแต่เมื่อใด หากแต่มีหลักฐานปรากฎเป็นลายลักษณ์อักษรถึงการมีอยู่มาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี โดยจากบันทึกของ ซีมง เดอ ลาร์ ลูแบร์ (Simon de La Loubère) ราชทูตฝรั่งเศสในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชระบุว่าพบเห็นดอกกุหลาบในกรุงศรีอยุธยา นอกจากนี้ ดอกกุหลาบ ยังปรากฎอยู่ในงานวรรณกรรมของไทย ตัวอย่างเช่นกาพท์ห่อโคลงนิราศธารโศก พระนิพนธ์ในเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ (หรือเจ้าฟ้ากุ้ง) และพระราชนิพนธ์เรื่องมัทนะพาธา ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ซึ่งล้วนเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักทั้งสิ้น

            อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับดอกกุหลาบในฐานะเครื่องหมายแสดงความรักมากกว่าความหมายในด้านอื่น และคุณสาวๆ ทั้งหลายต่างรู้สึกเขินอายและประทับใจทุกครั้งเมื่อได้รับดอกไม้ที่บ่งบอกความในใจจากใครบางคน แต่ดอกไม้ย่อมเหี่ยวเฉาร่วงโรยไปตามกาลเวลา ด้วยเหตุนี้จึงมีนักออกแบบจำนวนไม่น้อยนำแนวคิด ความหมาย และรูปแบบ ของดอกกุหลาบไปใส่ในผลงานการออกแบบของตน เพื่อให้ดอกไม้แสนโรแมนติกที่ไม่มีวันโรยรานี้เป็นสื่อแทนความรู้สึกที่ถูกส่งมอบไปสู่คนรัก


 
จี้รูปหัวใจและดอกกุหลาบตกแต่งด้วยเพชร
เครื่องประดับโดย: Zales


กำไลข้อมือรูปดอกกุหลาบตกแต่งด้วยพลอยสี
ภาพจาก: Pinterest


แหวนรูปดอกกุหลาบทำจากทองสีชมพู 18 กะรัต ประดับเพชร

เครื่องประดับโดย: Piaget
 




(*) ซึ่งก็คือเทพีวีนัส (Venus) ของชาวโรมัน

ข้อมูลอ้างอิง


1. Classroom. (27 September 2017). Religious Symbolism of Roses. Retrieved 15 November 2019 from https://classroom.synonym.com/religious-symbolism-of-roses-12086434.html.
2. Controse. (30 March 2019). What do roses symbolize? – Rose meaning and symbolism. Retrieved 15 November 2019 from https://www.controse.com/blog/rose-meaning-and-symbolism.
3. Catholic 365. (27 July 2018). The Rose in Christian Symbolism. Retrieved 15 November 2019 from http://www.catholic365.com/article/9139/the-rose-in-christian-symbolism.html.
4. MThai. (8 กุมภาพันธ์ 2553) ตำนานดอกกุหลาบ. สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2562 จาก https://talk.mthai.com/love/95423.html

เอกสารแนบ


ความคิดเห็น


ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

ความลับของดอกกุหลาบ

Feb 14, 2020
1149 views
0 share

            กุมภาพันธ์ถือได้ว่าเป็นเดือนซึ่งมีความพิเศษและโรแมนติกที่สุดในรอบปี ด้วยถูกยกให้เป็นเดือนแห่งความรัก อันเนื่องมาจากวันวาเลนไทน์ ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ดังนั้น ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความรัก และเมื่อนึกถึงถึงสัญลักษณ์อันมีความหมายที่สื่อถึงความรักแล้วล่ะก็ ดอกกุหลาบ คือคำตอบอันเป็นสากลที่ทั่วโลกให้การยอมรับอย่างไม่มีข้อสงสัย

 
ดอกกุหลาบสีสันต่างๆ
ภาพจาก: Pinterest

 
            อย่างไรก็ตาม ดอกกุหลาบ ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นผู้ส่งสาส์นแสดงความรักเท่านั้น หากแต่ยังเคยถูกใช้ในหลากหลายวัตถุประสงค์ อาทิ สัญลักษณ์แห่งความลับ สัญลักษณ์ทางศาสนา หรือแม้กระทั่งปรากฎอยู่ในวรรณกรรม เป็นต้น

            มนุษย์เรานั้นรู้จักและคุ้นเคยกับดอกกุหลาบมาหลายพันปี โดยมีเรื่องเล่าว่าพระนางคลีโอพัตรา ราชินีผู้เลอโฉมแห่งอียิปต์ได้สั่งให้นำดอกกุหลาบจำนวนมากตกแต่งและโปรยให้ทั่วห้อง เพื่อเป็นการต้อนรับมาร์คแอนโทนี แม่ทัพคนสำคัญแห่งจักรวรรดิโรมันผู้ซึ่งเป็นคนรักของนาง และด้วยความสวยงามและกลิ่นหอมรัญจวนชวนให้หลงใหลนี้ มันจึงถูกหยิบยกขึ้นมาใช้เปรียบเทียบกับความงามของผู้หญิงอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าสตรีคนแรกที่ได้รับสมญาว่างามดั่งดอกกุหลาบก็คือพระนางคลีโอพัตรานั่นเอง



ต่างหูซึ่งออกแบบเป็นรูปดอกกุหลาบ 
ทำจากทองสีชมพู 18 กะรัต ประดับเพชร
เครื่องประดับโดย: Piaget

            สำหรับที่มาของดอกกุหลาบในฐานะตัวแทนของความรักนั้น เริ่มขึ้นในสมัยกรีกโบราณ พวกเขาเชื่อว่าดอกกุหลาบมีความเกี่ยวข้องกับเทพีอโฟรไดท์ (Aphrodite) (*) เทพีแห่งความงามและความรัก มีตำนานมากมายที่เล่าถึงต้นกำเนิดของดอกกุหลาบ โดยหนึ่งในบรรดาตำนานเหล่านั้นกล่าวว่าดอกกุหลาบเกิดจากโลหิตของบุรุษหนุ่มรูปงามซึ่งเป็นคนรักของเทพีอโฟรไดท์ เขาถูกลอบทำร้ายจนเสียชีวิตด้วยเหตุจากความริษยาที่ได้ครอบครองหัวใจของเทพีอโฟรไดท์ และเมื่อโลหิตของเขาไหลลงสัมผัสพื้นดิน พลันปรากฎเป็นดอกไม้สีแดงส่งกลิ่นหอมซึ่งก็คือดอกกุหลาบ จึงเชื่อกันว่าดอกไม้ชนิดนี้คือข้อความที่ส่งถึงเทพีอโฟรไดท์ว่าความรักของเขาจะยังคงเบ่งบานชั่วกาลนาน

            ขณะที่ชาวโรมันโบราณนำดอกกุหลาบมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของความลับ กล่าวคือ หากมีการนำดอกกุหลาบแขวนไว้ที่หน้าประตูห้อง หรือวางไว้บนโต๊ะที่มีการประชุมหารือ จะเป็นที่รู้กันในหมู่ผู้ร่วมการประชุมว่าสิ่งที่ได้พูดคุยกันในที่ประชุมนั้นจะต้องเป็นความลับที่ไม่อาจเล็ดลอดออกไปให้คนนอกล่วงรู้

            ดอกกุหลาบยังมีความเกี่ยวข้องกับศาสนาอีกด้วย ในศาสนาอิสลามดอกกุหลาบคือสัญลักษณ์แห่งจิตวิญญาณ ด้านศาสนาคริสต์เชื่อว่าดอกกุหลาบคือดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของพระแม่มารี (Virgin Mary) พระมารดาแห่งพระเยซู นอกจากนี้ ดอกกุหลาบยังปรากฎอยู่ในศาสนสถานของชาวคาทอลิกโดยเฉพาะสถาปัตยกรรมแบบกอทิก ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “หน้าต่างกุหลาบ” (Rose Window) หมายถึง หน้าต่างกลมซึ่งประดับด้วยกระจกสีสันสวยงามเป็นรูปพระคริสต์ เทวดา นักบุญต่างๆ รวมไปถึงสัญลักษณ์จักรราศี เป็นต้น



หน้าต่างกุหลาบ (Rose Window) ในมหาวิหารนอร์เทอดาม (Notre Dame Cathedral) ณ กรุงปารีส
ภาพจาก: https://www.notredamedeparis.fr
 
            สำหรับในประเทศไทยนั้น แม้ไม่สามารถยืนยันได้ว่าดอกกุหลาบเข้ามายังประเทศไทยตั้งแต่เมื่อใด หากแต่มีหลักฐานปรากฎเป็นลายลักษณ์อักษรถึงการมีอยู่มาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี โดยจากบันทึกของ ซีมง เดอ ลาร์ ลูแบร์ (Simon de La Loubère) ราชทูตฝรั่งเศสในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชระบุว่าพบเห็นดอกกุหลาบในกรุงศรีอยุธยา นอกจากนี้ ดอกกุหลาบ ยังปรากฎอยู่ในงานวรรณกรรมของไทย ตัวอย่างเช่นกาพท์ห่อโคลงนิราศธารโศก พระนิพนธ์ในเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ (หรือเจ้าฟ้ากุ้ง) และพระราชนิพนธ์เรื่องมัทนะพาธา ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ซึ่งล้วนเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักทั้งสิ้น

            อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับดอกกุหลาบในฐานะเครื่องหมายแสดงความรักมากกว่าความหมายในด้านอื่น และคุณสาวๆ ทั้งหลายต่างรู้สึกเขินอายและประทับใจทุกครั้งเมื่อได้รับดอกไม้ที่บ่งบอกความในใจจากใครบางคน แต่ดอกไม้ย่อมเหี่ยวเฉาร่วงโรยไปตามกาลเวลา ด้วยเหตุนี้จึงมีนักออกแบบจำนวนไม่น้อยนำแนวคิด ความหมาย และรูปแบบ ของดอกกุหลาบไปใส่ในผลงานการออกแบบของตน เพื่อให้ดอกไม้แสนโรแมนติกที่ไม่มีวันโรยรานี้เป็นสื่อแทนความรู้สึกที่ถูกส่งมอบไปสู่คนรัก


 
จี้รูปหัวใจและดอกกุหลาบตกแต่งด้วยเพชร
เครื่องประดับโดย: Zales


กำไลข้อมือรูปดอกกุหลาบตกแต่งด้วยพลอยสี
ภาพจาก: Pinterest


แหวนรูปดอกกุหลาบทำจากทองสีชมพู 18 กะรัต ประดับเพชร

เครื่องประดับโดย: Piaget
 




(*) ซึ่งก็คือเทพีวีนัส (Venus) ของชาวโรมัน

ข้อมูลอ้างอิง


1. Classroom. (27 September 2017). Religious Symbolism of Roses. Retrieved 15 November 2019 from https://classroom.synonym.com/religious-symbolism-of-roses-12086434.html.
2. Controse. (30 March 2019). What do roses symbolize? – Rose meaning and symbolism. Retrieved 15 November 2019 from https://www.controse.com/blog/rose-meaning-and-symbolism.
3. Catholic 365. (27 July 2018). The Rose in Christian Symbolism. Retrieved 15 November 2019 from http://www.catholic365.com/article/9139/the-rose-in-christian-symbolism.html.
4. MThai. (8 กุมภาพันธ์ 2553) ตำนานดอกกุหลาบ. สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2562 จาก https://talk.mthai.com/love/95423.html

เอกสารแนบ

เราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายคุกกี้   ตั้งค่า ยอมรับ

×
140 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ชั้น 4 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
โทรศัพท์: 0 2634 4999 ต่อ 444
โทรสาร: 0 2634 4970