ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

La Regente ไข่มุกนโปเลียน

Mar 4, 2020
909 views
0 share

            เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2005 คริสตี้ (Christie’s) บริษัทจัดการประมูลชื่อดังสัญชาติอังกฤษ ได้จัดการประมูลเครื่องประดับจำนวนกว่า 250 ชิ้น ขึ้นในเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยยอดรวมของการประมูลในครั้งนั้นมีมูลค่าสูงถึงกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ
 
   
ไข่มุก La Régente ที่ถูกนำออกประมูลโดย Christie’s ณ เมืองเจนีวา เมื่อปี 2005
ภาพจาก: Christie’s (ซ้าย) และ JEWELER KÖSTER (ขวา)
 
            สำหรับเครื่องประดับที่ได้รับความสนใจมากชิ้นหนึ่งในการประมูลครั้งนี้ ได้แก่ จี้ไข่มุกเม็ดใหญ่ซึ่งมีชื่อว่า ‘La Régente’ หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งในนามของ ไข่มุกนโปเลียน (La Perle Napoléon)’ ซึ่งถูกประมูลไปในราคาที่สูงถึงราว 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ความไม่ธรรมดาของไข่มุกเม็ดนี้ นอกจากจะเป็นไข่มุกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกแล้ว มันยังเต็มไปด้วยประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานถึงกว่า 2 ศตวรรษ อีกทั้งเคยอยู่ในครอบครองของสมาชิกราชวงศ์ของประเทศมหาอำนาจในยุคนั้นถึง 2 ชาติด้วยกัน

            หากจะให้เล่าถึงความเป็นมาของไข่มุก La Régente แล้วล่ะก็ เราคงต้องย้อนเวลากลับไปเมื่อกว่า 200 ปีก่อน ในสมัยที่ประเทศฝรั่งเศสปกครองโดยจักรพรรดินโปเลียนที่ 1

            เรื่องราวเริ่มต้นจาก...

            หลังจากที่นโปเลียน หรือจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ตัดสินใจหย่าขาดจากจักรพรรดินีโจเซฟีน อันเนื่องมาจากจักรพรรดินีโจเซฟีนไม่สามารถให้กำเนิดทายาทได้ จักรพรรดิยอดนักรบผู้นี้ได้เข้าพิธีสมรสครั้งใหม่เมื่อวันที่ 2 เมษายน 1810 กับอาร์คดัชเชสมารี หลุยส์ แห่งออสเตรีย พระธิดาแห่งจักรพรรดิฟรานซ์ที่ 1 แห่งออสเตรีย ผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานสาวของพระนางมารี อังตัวเน็ต

            ตลอดช่วงชีวิตการสมรสครั้งที่สองนี้ จักรพรรดินโปเลียนทรงปรนเปรอจักรพรรดินีมารี หลุยส์ ด้วยอัญมณีและเครื่องประดับสวยงามล้ำค่าจำนวนมาก หนึ่งในนั้นได้แก่ไข่มุกรูปทรงหยดน้ำขนาดใหญ่เท่ากับไข่ของนกพิราบนามว่า La Régente ซึ่งจักรพรรดินโปเลียนทรงซื้อมาจากช่างทองหลวงประจำราชสำนักฝรั่งเศสเมื่อปี 1818 ทั้งยังสั่งให้ทำจัดทำมงกุฎสำหรับจักรพรรดินีมารี หลุยส์ โดยให้นำไข่มุกเม็ดดังกล่าวประดับบนมงกุฎด้วย

            มงกุฎไข่มุกของจักรพรรดินีมารี หลุยส์ ถูกตกแต่งอย่างวิจิตร สว่างวาวด้วยไข่มุกน้อยใหญ่ราว 300 เม็ด โดยไข่มุก La Régente อันงามพิสุทธิ์เม็ดนี้ได้รับการเชิดชูให้เป็นอัญมณียอดมงกุฎซึ่งอยู่สูงกว่าไข่มุกเม็ดอื่นๆ

            กาลเวลาล่วงผ่านไปปีแล้วปีเล่า ไข่มุก La Régente ยังคงโดดเด่นงดงามอยู่บนยอดมงกุฎแห่งราชสำนักฝรั่งเศสในยุคจักรวรรดิ จนกระทั่งปี 1853 สมัยของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ซึ่งเป็นหลานปู่ของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 พระองค์ได้ทรงมอบมงกุฎไข่มุกนี้ให้แก่จักรพรรดินียูเจนีผู้เป็นพระชายา

            ในทันทีที่จักรพรรดินียูเจนีทรงทอดพระเนตรเห็นไข่มุก La Régente ก็ทรงตกหลุมรักและหลงใหลในความงามของมัน พระองค์มีรับสั่งให้นำไข่มุก La Régente ออกจากยอดมงกุฎเพื่อไปเข้าตัวเรือนใหม่ โดยให้ทำเป็นจี้ทับทรวงตกแต่งด้วยไข่มุกและเพชรขนาดใหญ่ตามที่ได้รับความนิยมในสมัยนั้น

            ภายหลังจากการล่มสลายของยุคจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 2 ชะตาของไข่มุก La Régente ก็พลิกผัน ในเดือนพฤษภาคม 1887 เครื่องประดับและของใช้ในราชสำนักฝรั่งเศสจำนวนมากถูกนำออกประมูล โดยไข่มุก La Régente คือหนึ่งในบัญชีรายชื่อเหล่านั้น
การประมูลในครั้งนั้นได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก รวมไปถึงกิจการห้างร้านเครื่องประดับชื่อดัง อาทิ คาร์เทีย และทิฟฟานี ที่ต่างเข้าร่วมการประมูลและได้เครื่องประดับชิ้นสำคัญติดไม้ติดมือกลับไป สำหรับไข่มุก La Régente นั้น ตกเป็นของห้างฟาแบร์เช (Fabergé) ช่างทองหลวงแห่งราชสำนักรัสเซีย

            ฟาร์แบร์เช ได้นำไข่มุก La Régente ถวายแด่เจ้าชายนิโคไล ยูซูปอฟ แห่งรัสเซีย (Prince Nikolai Yusupov) ทอดพระเนตร ซึ่งเป็นที่ถูกพระทัยเป็นอย่างมาก ทรงรับสั่งให้ห้างฟาแบร์เชจัดการแปลงโฉมไข่มุกเม็ดนี้เสียใหม่ จากจี้ทับทรวงชิ้นใหญ่เทอะทะให้กลายมาเป็นจี้ไข่มุกเม็ดเดี่ยวที่ตกแต่งด้วยเพชร เพื่อมอบให้เป็นของขวัญแก่เจ้าหญิงซีไนดา (Zinaida) พระธิดาของพระองค์ จากนั้น ไข่มุก La Régente ก็ถูกส่งต่อเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทของตระกูลยูซูปอฟมาอีกหลายปี จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์การปฏิวัติรัสเซียเมื่อปี 1917 ไข่มุก La Régente ก็สูญหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ ก่อนจะปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งในงานประมูลอัญมณีของคริสตี้ ในเมืองเจนีวา เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2005
 
  
จี้ทับทรวงประดับด้วยไข่มุก La Régente ของจักรพรรดินียูเจนี (ซ้าย) และ
ภาพวาดเจ้าหญิงซีไนดา พระธิดาของเจ้าชายนิโคไล ยูซูบอฟ ขณะสวมสังวาลที่ตกแต่งด้วยจี้ไข่มุก La Régente (ขวา)
ภาพจาก: Pinterest
 

ข้อมูลอ้างอิง


1. Royal Magazine. Famous “La Regente” – “La Perle Napoléon” One of the largest pearl in the World. Retrieved February 15, 2019 from https://royal-magazin.de/french/la-regente-pearl.htm
2. The Coincidental Dandy. (19 August 2011). La Régente: La Perle Napoléon. Retrived February 15, 2019 from http://thecoincidentaldandy.blogspot.com/2011/08/la-regente-la-perle-napoleon.html
3. Mastoloni The Most Beautiful Pearl in the World. La Régente Pearl. Retrieved February 15, 2019 from https://www.mastoloni.com/education/la-regente-pearl

เอกสารแนบ


ความคิดเห็น


ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

La Regente ไข่มุกนโปเลียน

Mar 4, 2020
909 views
0 share

            เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2005 คริสตี้ (Christie’s) บริษัทจัดการประมูลชื่อดังสัญชาติอังกฤษ ได้จัดการประมูลเครื่องประดับจำนวนกว่า 250 ชิ้น ขึ้นในเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยยอดรวมของการประมูลในครั้งนั้นมีมูลค่าสูงถึงกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ
 
   
ไข่มุก La Régente ที่ถูกนำออกประมูลโดย Christie’s ณ เมืองเจนีวา เมื่อปี 2005
ภาพจาก: Christie’s (ซ้าย) และ JEWELER KÖSTER (ขวา)
 
            สำหรับเครื่องประดับที่ได้รับความสนใจมากชิ้นหนึ่งในการประมูลครั้งนี้ ได้แก่ จี้ไข่มุกเม็ดใหญ่ซึ่งมีชื่อว่า ‘La Régente’ หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งในนามของ ไข่มุกนโปเลียน (La Perle Napoléon)’ ซึ่งถูกประมูลไปในราคาที่สูงถึงราว 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ความไม่ธรรมดาของไข่มุกเม็ดนี้ นอกจากจะเป็นไข่มุกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกแล้ว มันยังเต็มไปด้วยประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานถึงกว่า 2 ศตวรรษ อีกทั้งเคยอยู่ในครอบครองของสมาชิกราชวงศ์ของประเทศมหาอำนาจในยุคนั้นถึง 2 ชาติด้วยกัน

            หากจะให้เล่าถึงความเป็นมาของไข่มุก La Régente แล้วล่ะก็ เราคงต้องย้อนเวลากลับไปเมื่อกว่า 200 ปีก่อน ในสมัยที่ประเทศฝรั่งเศสปกครองโดยจักรพรรดินโปเลียนที่ 1

            เรื่องราวเริ่มต้นจาก...

            หลังจากที่นโปเลียน หรือจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ตัดสินใจหย่าขาดจากจักรพรรดินีโจเซฟีน อันเนื่องมาจากจักรพรรดินีโจเซฟีนไม่สามารถให้กำเนิดทายาทได้ จักรพรรดิยอดนักรบผู้นี้ได้เข้าพิธีสมรสครั้งใหม่เมื่อวันที่ 2 เมษายน 1810 กับอาร์คดัชเชสมารี หลุยส์ แห่งออสเตรีย พระธิดาแห่งจักรพรรดิฟรานซ์ที่ 1 แห่งออสเตรีย ผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานสาวของพระนางมารี อังตัวเน็ต

            ตลอดช่วงชีวิตการสมรสครั้งที่สองนี้ จักรพรรดินโปเลียนทรงปรนเปรอจักรพรรดินีมารี หลุยส์ ด้วยอัญมณีและเครื่องประดับสวยงามล้ำค่าจำนวนมาก หนึ่งในนั้นได้แก่ไข่มุกรูปทรงหยดน้ำขนาดใหญ่เท่ากับไข่ของนกพิราบนามว่า La Régente ซึ่งจักรพรรดินโปเลียนทรงซื้อมาจากช่างทองหลวงประจำราชสำนักฝรั่งเศสเมื่อปี 1818 ทั้งยังสั่งให้ทำจัดทำมงกุฎสำหรับจักรพรรดินีมารี หลุยส์ โดยให้นำไข่มุกเม็ดดังกล่าวประดับบนมงกุฎด้วย

            มงกุฎไข่มุกของจักรพรรดินีมารี หลุยส์ ถูกตกแต่งอย่างวิจิตร สว่างวาวด้วยไข่มุกน้อยใหญ่ราว 300 เม็ด โดยไข่มุก La Régente อันงามพิสุทธิ์เม็ดนี้ได้รับการเชิดชูให้เป็นอัญมณียอดมงกุฎซึ่งอยู่สูงกว่าไข่มุกเม็ดอื่นๆ

            กาลเวลาล่วงผ่านไปปีแล้วปีเล่า ไข่มุก La Régente ยังคงโดดเด่นงดงามอยู่บนยอดมงกุฎแห่งราชสำนักฝรั่งเศสในยุคจักรวรรดิ จนกระทั่งปี 1853 สมัยของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ซึ่งเป็นหลานปู่ของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 พระองค์ได้ทรงมอบมงกุฎไข่มุกนี้ให้แก่จักรพรรดินียูเจนีผู้เป็นพระชายา

            ในทันทีที่จักรพรรดินียูเจนีทรงทอดพระเนตรเห็นไข่มุก La Régente ก็ทรงตกหลุมรักและหลงใหลในความงามของมัน พระองค์มีรับสั่งให้นำไข่มุก La Régente ออกจากยอดมงกุฎเพื่อไปเข้าตัวเรือนใหม่ โดยให้ทำเป็นจี้ทับทรวงตกแต่งด้วยไข่มุกและเพชรขนาดใหญ่ตามที่ได้รับความนิยมในสมัยนั้น

            ภายหลังจากการล่มสลายของยุคจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 2 ชะตาของไข่มุก La Régente ก็พลิกผัน ในเดือนพฤษภาคม 1887 เครื่องประดับและของใช้ในราชสำนักฝรั่งเศสจำนวนมากถูกนำออกประมูล โดยไข่มุก La Régente คือหนึ่งในบัญชีรายชื่อเหล่านั้น
การประมูลในครั้งนั้นได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก รวมไปถึงกิจการห้างร้านเครื่องประดับชื่อดัง อาทิ คาร์เทีย และทิฟฟานี ที่ต่างเข้าร่วมการประมูลและได้เครื่องประดับชิ้นสำคัญติดไม้ติดมือกลับไป สำหรับไข่มุก La Régente นั้น ตกเป็นของห้างฟาแบร์เช (Fabergé) ช่างทองหลวงแห่งราชสำนักรัสเซีย

            ฟาร์แบร์เช ได้นำไข่มุก La Régente ถวายแด่เจ้าชายนิโคไล ยูซูปอฟ แห่งรัสเซีย (Prince Nikolai Yusupov) ทอดพระเนตร ซึ่งเป็นที่ถูกพระทัยเป็นอย่างมาก ทรงรับสั่งให้ห้างฟาแบร์เชจัดการแปลงโฉมไข่มุกเม็ดนี้เสียใหม่ จากจี้ทับทรวงชิ้นใหญ่เทอะทะให้กลายมาเป็นจี้ไข่มุกเม็ดเดี่ยวที่ตกแต่งด้วยเพชร เพื่อมอบให้เป็นของขวัญแก่เจ้าหญิงซีไนดา (Zinaida) พระธิดาของพระองค์ จากนั้น ไข่มุก La Régente ก็ถูกส่งต่อเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทของตระกูลยูซูปอฟมาอีกหลายปี จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์การปฏิวัติรัสเซียเมื่อปี 1917 ไข่มุก La Régente ก็สูญหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ ก่อนจะปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งในงานประมูลอัญมณีของคริสตี้ ในเมืองเจนีวา เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2005
 
  
จี้ทับทรวงประดับด้วยไข่มุก La Régente ของจักรพรรดินียูเจนี (ซ้าย) และ
ภาพวาดเจ้าหญิงซีไนดา พระธิดาของเจ้าชายนิโคไล ยูซูบอฟ ขณะสวมสังวาลที่ตกแต่งด้วยจี้ไข่มุก La Régente (ขวา)
ภาพจาก: Pinterest
 

ข้อมูลอ้างอิง


1. Royal Magazine. Famous “La Regente” – “La Perle Napoléon” One of the largest pearl in the World. Retrieved February 15, 2019 from https://royal-magazin.de/french/la-regente-pearl.htm
2. The Coincidental Dandy. (19 August 2011). La Régente: La Perle Napoléon. Retrived February 15, 2019 from http://thecoincidentaldandy.blogspot.com/2011/08/la-regente-la-perle-napoleon.html
3. Mastoloni The Most Beautiful Pearl in the World. La Régente Pearl. Retrieved February 15, 2019 from https://www.mastoloni.com/education/la-regente-pearl

เอกสารแนบ

เราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายคุกกี้   ตั้งค่า ยอมรับ

×
140 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ชั้น 4 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
โทรศัพท์: 0 2634 4999 ต่อ 444
โทรสาร: 0 2634 4970
external-site