
ยุคแห่งเพชรสี “FANCY DIAMONDS”
เพชรสีแฟนซีกำลังเป็นดาวเด่นในอุตสาหกรรมเครื่องประดับหรู โดยได้รับแรงหนุนจากการเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้บริโภคเพิ่มขึ้น รวมถึงการที่ผู้บริโภคมีความต้องการสไตล์ที่หลากหลายและนำสมัยไร้กาลเวลา
สีสันกำลังมาแรงในอุตสาหกรรมเครื่องประดับ โดยเพชรสีแฟนซีกำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แบรนด์ระดับโลกอย่าง Bulgari, Graff และ Tiffany ประสบความสำเร็จในการพาเพชรสีแฟนซีเข้าสู่กลุ่มสินค้าหรูที่เป็นที่ต้องการสูงสุดในช่วงหลายปีมานี้ ทุกวันนี้เพชรสีแฟนซีถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องบ่งชี้ฐานะและการสะสมความมั่งคั่งของผู้ถือครอง
เพชรสีครองพื้นที่ในงานประมูล โดยห้าอันดับของเครื่องประดับที่มียอดสูงสุดในการประมูลปี 2566 ถูกตกแต่งด้วยเพชรสีแฟนซีโดยเฉพาะสีฟ้าและสีชมพู
จากคำบอกเล่าของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม ความชื่นชอบที่ผู้บริโภคมีต่อเพชรสีแฟนซีถูกกระตุ้นจากความต้องการการเปลี่ยนแปลงของพวกเขา นั่นคือเปลี่ยนจากการครอบครองเครื่องประดับเพชรสีขาวมาเป็นการผสมผสานสีสันและความหลากหลายในคอลเลกชันเครื่องประดับแท้ นอกจากนี้ ความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นในการมีเพชรสีแฟนซีเป็นเครื่องประดับชิ้นหรูที่หยิบมาสวมใส่ได้เป็นประจำมาจากแรงผลักดันของกลุ่มคนหนุ่มสาวที่ให้ความสำคัญกับการแสดงออกถึงตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์
สถานการณ์การค้า
เพชรสีแฟนซีดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อที่มีความเข้าใจเป็นพิเศษ เพราะเพชรเหล่านี้มีความหลากหลายทั้งในด้านสีสัน ความหมาย และคุณค่า
ในทัศนะของ Paul Chieveley-Williams ผู้ก่อตั้ง Diamwill บริษัทผู้ค้าเพชรสีในเบลเยียมนั้น ตลาดมีความต้องการเพชรสีเหลืองน้อยลง เพราะหันไปหาเพชรขนาดประมาณ 10 กะรัตในสีต่างๆ ซึ่งหาได้ยาก เพชรสีชมพูมียอดขายที่ดีกว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาพยนตร์เรื่อง Barbie ซึ่งออกฉายเมื่อปีก่อน ผู้ซื้อบางส่วนยังไม่นิยมเพชรที่ไม่ใช่สีชมพูแท้ๆ ซึ่งหมายความว่า มีความสนใจเพชรสีชมพูอมม่วงหรือสีชมพูอมส้มเพียงเล็กน้อย ขณะที่เพชรสีฟ้ากลับมีราคาสูงเกินไปสำหรับผู้ซื้อเนื่องจากการขาดแคลนวัตถุดิบ ดังนั้น ผู้ซื้อบางรายจึงหันไปหาอัญมณีอื่นๆ ที่มีสีสันสวยงามเช่นเดียวกับเพชรสีฟ้าแต่ราคาไม่สูงลิบลิ่ว เช่น พาราอิบา ทัวร์มาลีน
แต่สำหรับ Scarselli บริษัทผู้เชี่ยวชาญเพชรสีแฟนซีแห่งเมืองนิวยอร์คกลับมองเห็นความต้องการเพชรสีเหลืองที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยความต้องการเพชรสีเหลืองจัดจ้านสูงมาก ขณะที่ความสนใจเพชรสีชมพู ฟ้า และเขียว ลดลงเนื่องจากราคาที่สูง โดยในปีที่ผ่านมา ยุโรปและสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดที่แข็งแกร่งที่สุดของบริษัทฯ แม้ว่าการค้าชะลอตัวลงไปเมื่อล่วงเข้าไตรมาสสุดท้าย แต่คาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นในไตรมาสที่สองของปีนี้ เนื่องจากแบรนด์เครื่องประดับต่างๆ ฟื้นตัวและเริ่มต้นสร้างสรรค์คอลเลกชันใหม่ๆ
นอกจากนี้ OLYMPIC 2024 มหกรรมกีฬาโลกที่จะจัดขึ้นในวันที่ 26 กรกฎาคม ถึง 11 สิงหาคมนี้ในกรุงปารีสของฝรั่งเศสอาจช่วยกระตุ้นยอดขายได้ เนื่องด้วยปารีสเป็นบ้านของแบรนด์หรูชื่อดังชั้นนำต่างๆ จึงคาดว่าบรรดาผู้ประกอบการเครื่องประดับหรูจะสั่งซื้อและสต็อกสินค้าเพื่อเตรียมตัวรับคลื่นนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเยือนปารีส
ความเคลื่อนไหวในแต่ละตลาด
นอกเหนือจากความชื่นชอบที่หลากหลายของผู้บริโภคแล้ว ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ยังกล่าวว่า การไม่มีเสถียรภาพของเศรษฐกิจระดับมหภาคและความระมัดระวังของตลาดส่งผลต่อยอดขายของเพชรสีแฟนซีทั่วโลก ตัวอย่างเช่น ประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ของเครื่องประดับหรู แต่ความต้องการเพชรสีแฟนซีในตลาดจีนกลับซบเซาเนื่องจากเศรษฐกิจเผชิญกับความท้าทายนานัปการ อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดจีนจะฟื้นตัวในปี 2568
Leibish Polnauer เจ้าของและผู้ก่อตั้ง Leibish & Co บริษัทผู้ค้าเพชรสีในสหรัฐฯ กล่าวว่า ความต้องการที่ชะลอตัวในจีนทำให้ตลาดอื่นๆ อย่างสหรัฐฯ และเอเชียมีแนวโน้มที่จะได้ครองส่วนแบ่งยอดขายเครื่องประดับส่วนใหญ่ในปีนี้ โดยที่มีสินค้าราคามหาศาลให้ประมูลในเอเชีย
นอกจากนี้ ธุรกิจเพชรสีแฟนซีมีความยืดหยุ่นมากกว่าเมื่อเทียบกับสินค้าในกลุ่มเครื่องประดับอื่นๆ เนื่องจากเสน่ห์ดึงดูดของเพชรสีแฟนซี ลูกค้ามีความต้องการเพชรขนาด 1-3 กะรัตมากที่สุด ราคามีแนวโน้มที่จะยังอยู่ในระดับสูงเพราะการขาดแคลนวัตถุดิบเพชรสีเหลืองและชมพูคุณภาพสูง ซึ่งการปิดเหมือง Argyle ในออสเตรีเลียเมื่อปี 2563 ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดเนื่องจากตลาดเริ่มมองหาทางเลือกอื่นอย่างเพชรสีชมพูจากแอฟริกา
เสน่ห์แห่งสีสัน
Sohil Jogani แห่ง Arihant Star (HK) Ltd เปิดเผยว่า ธุรกิจเพชรสีแฟนซีกำลังบูม แบรนด์เครื่องประดับในยุโรปและเอเชียโดยเฉพาะตลาดไต้หวัน เป็นแรงขับเคลื่อนยอดขายที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยแบรนด์ต่างๆ ล้วนทราบดีถึงความนิยมสีสันและตัวเลือกสินค้าเครื่องประดับที่หลากหลายมากขึ้นในตลาด เพชรที่มีราคาแพงที่สุดในขณะนี้ ได้แก่ เพชรสีแดงที่หายาก ตามด้วยเพชรสีฟ้าและสีชมพูที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด
เพชรรูปหยดน้ำที่ผู้ผลิตเครื่องประดับสามารถนำไปออกแบบได้อย่างหลากหลายได้รับความนิยมอย่างมากในตลาด เช่นเดียวกับเพชรทรงหมอน (Cushion Cut) ส่วนเรื่องขนาดนั้น บริษัทฯ จำหน่ายเพชรที่มีขนาดตั้งแต่ 0.5 กะรัต ถึง 5 กะรัต โดยเพชรขนาด 3 กะรัตเป็นสินค้าที่ขายได้ดีที่สุด
อีกเทรนด์หนึ่งที่มองเห็นได้ในขณะนี้คือ ผู้ซื้อต้องการผสมผสานเพชรทรงหยดน้ำสีชมพู ฟ้า เขียว และส้ม เหมือนสีรุ้ง เพชรเหล่านี้จึงขายได้ดี และเป็นที่ต้องการของแบรนด์ต่างๆ โดยเฉพาะเพชรสีส้มของบริษัทฯ นั้น ตั้งแต่ครึ่งหลังของปีที่แล้วมียอดขายสูงขึ้นในตลาดยุโรป ไต้หวัน และฮ่องกง ส่วนเพชรสีเขียวกำลังสร้างแรงกระเพื่อมในตลาด โดยเฉพาะเพชรสีเขียวนีออน และสีอิเลคทริคกรีน
ความชื่นชอบเพชรสีแฟนซีจะยังคงแข็งแกร่งท่ามกลางความไม่แน่นอนต่างๆ และราคาที่พุ่งสูงเนื่องจาก ผู้ซื้อต้องการสีสันและการเล่าเรื่องที่ดึงดูดใจมากยิ่งขึ้น ความสนใจเพชรสีแฟนสีในกลุ่มผู้บริโภคหนุ่มสาวขยายตัวมากขึ้นอย่างน่าสนใจ จากข้อมูลของ Sotheby’s พบว่า นักสะสมวัยหนุ่มสาวกำลังให้ความสนใจการประมูลเครื่องประดับชิ้นหรูมากขึ้น
Mishael Vardi ซีอีโอของ VMK Diamonds บริษัทค้าเพชรชั้นนำของอิสราเอลเห็นพ้องกันว่า คนหนุ่มสาวได้เห็นสถาบันจัดการประมูลอย่าง Sotheby’s และ Christie’s ขายเพชรไฮเอนด์สีฟ้าและชมพู จึงจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความต้องการซื้อเครื่องประดับหรูชิ้นงามในหมู่คนหนุ่มสาว
เพชรสังเคราะห์
Chieveley-Williams กล่าวว่า ความโปร่งใสมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการค้าเพชร ผู้ค้าบางรายถือว่าเพชรสังเคราะห์ (Lab Grown Diamond: LGD) เป็นเพชรธรรมชาติทั้งที่ไม่ควรเป็นเช่นนั้น
เพชรธรรมชาติและ LGD สามารถอยู่ร่วมกันได้ในตลาด แต่ต้องมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนในการเปิดเผยข้อมูลที่ต้องปฏิบัติตาม ผู้ซื้อกลัวว่าจะได้รับข้อมูลที่ผิดพลาดเมื่อต้องเลือกระหว่างเพชรธรรมชาติกับ LGD
ทั้งนี้ ผู้ซื้อเพชรสีแฟนซียังคงต้องสั่งสมความเข้าใจว่าเพชรธรรมชาติอาจมีสีสันได้ รวมถึงความเชี่ยวชาญในการพิจารณาสีที่หลากหลาย ซึ่งเมื่อพวกเขามีความเข้าใจแล้ว จึงมีแนวโน้มจะเลือกเพชรธรรมชาติสีแฟนซี
แปลและเรียบเรียงโดย ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
สิงหาคม 2567