
7 กลยุทธ์เสริมประสิทธิภาพแคมเปญ email marketing ช่วงเทศกาล
Emmanuel Raheb CEO ของ Smart Age Solutions บริษัทโฆษณาดิจิทัลและ Premier Google Partner รายสำคัญ ระบุว่า แคมเปญการทำการตลาดผ่านทางอีเมล (email marketing) จะประสบความสำเร็จได้นั้น เป็นเรื่องของเวลาการทำให้เป็นส่วนตัว (personalization) และคำกระตุ้นการตัดสินใจที่ทรงพลัง (Compelling CTAs (Call-to-Actions))
เนื่องจากผู้ค้าปลีกจำนวนมากต่างแข่งขันกันแย่งชิงความสนใจของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลที่กำลังใกล้เข้ามา ตอนนี้จึงเป็นเวลาที่ต้องยกระดับกลยุทธ์ email marketing ของคุณและสร้างแคมเปญที่ไม่เพียงแต่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเท่านั้นแต่ต้องจับใจพวกเขาอีกด้วย
email marketing ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือ แต่ยังเป็นเส้นทางที่พาคุณตรงเข้าไปยังหัวใจของผู้ซื้อ และเป็นเส้นทางในการสร้างความคาดหวังและสร้างสายสัมพันธ์ที่แท้จริงในช่วงเทศกาล
นอกจากนี้ email marketing ยังทำให้คุณสามารถเปลี่ยนความสนใจที่กำลังหมดไปให้กลายเป็นยอดขายได้สำเร็จ
ต่อไปนี้คือแนวทาง 7 ข้อที่คุณสามารถใช้ในการแก้ไขและปรับปรุงแคมเปญอีเมลของคุณเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงเทศกาล
1. Personalize อีเมลของคุณ
เคล็ดลับของ email marketing ที่มีประสิทธภาพคือ personalization โดยเริ่มจากการจัดกลุ่มรายชื่ออีเมลให้เป็นกลุ่มเฉพาะที่ยึดตามประวัติการซื้อ ความชื่นชอบ และพฤติกรรม
ตัวอย่างเช่น หากลูกค้ากลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งของคุณเคยซื้อแหวนหมั้น ให้ลองวางกลุ่มพวกเขาไว้กับการแนะนำของขวัญวันครบรอบ นอกจากนี้ ยังควรพิจารณาตั้งเป้าหมายไปที่กลุ่มลูกค้าที่มีวันเกิดอยู่ในช่วงเทศกาลอีกด้วย
จัดทำอีเมลที่พูดกับผู้อ่านโดยตรง โดยใช้เนื้อหาที่ตรงกับความสนใจ พฤติกรรม และข้อมูลเฉพาะของลูกค้าเป้าหมายทุกครั้งที่เป็นไปได้
ระบบอีเมลจำนวนมากอนุญาตให้คุณแสดงเนื้อหาที่มีการสร้างสรรค์ไม่ซ้ำซาก โดยมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของลูกค้าแต่ละคน
ตัวอย่างเช่น อีเมลอาจจะมีเนื้อหาว่า “คุณจอห์น คริสต์มาสปีที่แล้วคุณเลือกซื้อสินค้าของเราตอนที่คุณขอแต่งงานและในงานแต่งงานของคุณ ไม่ลองฉลองวันพิเศษด้วยสินค้าจากไลน์แหวนครบรอบแต่งงานซึ่งเป็นสินค้าไลน์ใหม่ของเราดูหรือ”
การอ้างถึงการซื้อที่ผ่านมาของพวกเขาโดยตรง และการเสนอแนะเครื่องประดับที่เกี่ยวข้องนี้ เป็นการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ส่งเสริมโอกาสในการซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง
การทำเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าคุณมองเห็นพวกเขา ให้คุณค่ากับสิ่งที่พวกเขาทำ และเข้าใจพวกเขา
personalization นั้นสร้างความภักดี และความภักดีก็จะแปรเปลี่ยนเป็นยอดขาย
2. ใช้ข้อเสนอที่เหมาะสมกับเวลาในอีเมลของคุณ
การกำหนดเวลาข้อเสนอของคุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมาก
สร้างความรู้สึกรีบด่วนด้วยส่วนลดที่มีเวลาจำกัด ชุดสินค้าพิเศษสำหรับเทศกาล หรือสินค้ารุ่นพิเศษที่มีจำหน่ายเฉพาะผู้ที่สมัครรับอีเมลจดหมายข่าว
ตัวอย่างเช่น อีเมลฉบับหนึ่งที่ส่งไปในช่วงต้นเดือนธันวาคมอาจจะมีโค้ดคูปองพิเศษสำหรับ “ลด 30% สำหรับสร้อยข้อมือเงิน เฉพาะสุดสัปดาห์นี้เท่านั้น” ข้อความนี้จะกระตุ้นปฏิกิริยาตอบสนองอันรวดเร็วโดยการใช้ “ข้อเสนอที่จำกัดเวลา” เพื่อเพิ่มยอดขาย
ความเร่งด่วนไม่เพียงแต่สร้างการตอบรับที่รวดเร็วเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระตุ้นความตื่นเต้นในช่วงเทศกาลและช่วยสร้างความคาดหวังถึงข้อเสนอที่จะตามมา นั่นคือความรู้สึกที่คุณต้องการสร้างให้เกิดขึ้นในหมู่ลูกค้า
3. ปรับปรุงรูปแบบของอีเมล
รูปลักษณ์ของอีเมลอาจทำให้ผู้รับอ่านต่อหรือเลิกอ่าน คุณมีเวลาเพียงแค่ 1-2 วินาทีในการสร้างแรงกระตุ้นก่อนที่พวกเขาจะเลื่อนผ่านไปที่อื่น
ในการปรับปรุงโอกาสของคุณ คุณควรจะลงทุนใช้รูปภาพที่มีคุณภาพสูงซึ่งแสดงเครื่องประดับของคุณในแสงสว่างที่ดีที่สุด ใช้องค์ประกอบที่มีความเป็นเทศกาลหรือความหรูหราซึ่งสอดคล้องกับบรรยากาศเทศกาล
การใช้ภาพของผู้คนที่สวมใส่เครื่องประดับของคุณในงานเทศกาล จะช่วยให้ลูกค้าของคุณมองเห็นภาพตัวเองที่กำลังสวมใส่เครื่องประดับของคุณหรือเป็นของขวัญในวันเทศกาลให้กับคนที่พวกเขารัก
ใน email marketing สุนทรียภาพย่อมขายได้เสมอ
หากภาพของคุณกระตุ้นให้รู้สึกถึงมนตร์เสน่ห์ของเทศกาล ลูกค้าของคุณไม่ได้แค่อ่านอีเมล แต่เขาจะได้รับการกระตุ้นให้ซื้อสินค้า
คุณต้องใช้โอกาสทั้งหมดที่มีในการดึงความสนใจของลูกค้าหากคุณต้องการโอกาสในการสร้างยอดขาย
4. เสริมประสิทธิภาพ Call-To-Action ของคุณ
Call-To-Action (CTA) ต้องชัดเจนและดึงดูด
อีเมลทั้งหมดต้องมี CTA สะดุดตา เช่น “ซื้อตอนนี้” หรือ “ดูเพิ่มเติม” ซึ่งจะพาลูกค้าของคุณตรงไปยังร้านค้าออนไลน์ของคุณที่ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้
CTA ของคุณต้องมีขนาดใหญ่ คลิกได้ และวางอยู่ในตำแหน่งที่สะดุดตา ดีที่สุดคืออยู่เหนือส่วนสิ้นสุดหน้าจอในกรอบของอีเมล
ทำให้ผู้อ่านไม่สามารถเพิกเฉยต่ออีเมลของคุณได้ และให้อีเมลพาลูกค้าตรงไปยังเพจของคอลเลกชันหรือสินค้าเพื่อให้ลูกค้าสามารถดำเนินการต่อได้โดยไม่สะดุด
เมื่อทำทั้งหมดที่กล่าวมาแล้ว คุณจะลดภาระในขั้นตอนต่อๆ ไป
จำไว้ว่า เรื่องการแปรผันให้เกิดยอดขายนั้น น้อยๆ ย่อมได้ผลมากกว่าเสมอ
5. มุ่งความสนใจไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
เนื่องจากปัจจุบันมีการเปิดอีเมลบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ แคมเปญอีเมลของคุณจึงต้องได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพสำหรับการดูบนอุปกรณ์เหล่านั้นด้วย
เพื่อให้แน่ใจว่าอีเมลทั้งหมดมีความน่าดึงดูด คุณควรจะใช้รูปแบบที่เป็นการโต้ตอบซึ่งเข้ากันได้ในหน้าจอทุกขนาด เพื่อรับรองว่าอีเมลของคุณจะดูดีเสมอไม่ว่าจะดูบนเดสก์ทอปหรือสมาร์ทโฟน
เคล็ดลับอีกอย่างหนี่งคือการทำให้ส่วนบรรทัดหัวข้อกระชับและดึงดูดใจ เนื่องจากหน้าจออุปกรณ์เคลื่อนที่จะตัดข้อความที่ยาวออกไป
รักษาจำนวนอักขระให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยยาวไม่เกิน 50-60 ตัวอักษร
จำไว้ว่า ถึงแม้ข้อความของคุณอาจจะมาก แต่พื้นที่หน้าจอมีจำกัด
อีเมลที่ได้รับการปรับปรุงให้เข้ากับอุปกรณ์เคลื่อนที่จะช่วยสร้างประสบการ์ที่ไม่ยุ่งยาก และความสะดวกนี้นี่แหละที่ทำให้ลูกค้าคลิก “ซื้อ”
6. อีเมลกระตุ้นตะกร้าสินค้าที่ถูกทิ้ง
เพื่อความสำเร็จในช่วงเทศกาลนี้ คุณต้องมีกลยุทธ์ในการกู้คืนตะกร้าสินค้าที่ถูกทิ้ง
ตะกร้าที่ถูกทิ้งเป็นยอดขายที่ง่ายที่สุดในการจัดการและสร้างยอดขายได้มากที่สุด เพราะลูกค้าของคุณกำลังบอกคุณว่าพวกเขาต้องการอะไร และสินค้านั้นก็อยู่ในตะกร้าของพวกเขานั่นเอง
ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วที่จะโน้มน้าวให้พวกเขาซื้อ
ส่งอีเมลอัตโนมัติเตือนลูกค้าถึงสินค้าที่พวกเขาทิ้งเอาไว้
คุณสามารถปรับปรุงอีเมลเตือนนี้ได้ด้วยข้อความที่มีความเป็นส่วนตัว เช่น “เราสังเกตเห็นว่าคุณชอบสร้อยข้อมือเพชรและแซปไฟร์ของเรา และสินค้านี้กำลังรอคุณอยู่ สั่งซื้อภายใน 24 ชั่วโมงนี้ คุณจะได้รับส่วนลด 15% ทันที เพียงใส่โค้ด XXXXX”
อีเมลตะกร้าสินค้าที่ถูกทิ้งไม่เพียงเตือนลูกค้า แต่ยังทำให้พวกเขารู้สึกว่าได้รับการเอาใจใส่อีกด้วย
แนวทางแบบนี้จะเพิ่มอัตรา conversion ทันที ลองทำดู
7. ใช้กลยุทธ์อีเมลของคุณโดยยึดตามข้อมูลการวิเคราะห์ของคุณ
ใช้ข้อมูลจากแคมเปญอีเมลในการแก้ไขและปรับปรุงผลลัพธ์
คุณต้องวิเคราะห์ตัววัดของคุณ เช่น อัตราการเปิด อัตราการ click-through และอัตรา conversion เพื่อให้เข้าใจว่าสิ่งไหนใช้ได้ผลกับผู้ชมของคุณ
การใช้ A/B Testing กับส่วนต่างๆ ของอีเมลของคุณ ตั้งแต่บรรทัดหัวข้อไปจนถึงภาพที่เลือกใช้ และตำแหน่งการวาง CTA ยังเป็นการช่วยแก้ไขกลยุทธ์ของคุณเพื่อปรับปรุงผลงาน
อีเมลทุกฉบับเป็นโอกาสในการเรียนรู้และปรับปรุง ยิ่งคุณปรับปรุงโดยยึดตามสิ่งที่คุณค้นพบ แคมเปญของคุณก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพและสร้างผลกำไรให้กับคุณได้มากยิ่งขึ้น
ในช่วงเทศกาลปีนี้ กลยุทธ์ email marketing ของคุณควรได้รับการจัดทำอย่างพิถีพิถันเช่นเดียวกับเครื่องประดับที่คุณจำหน่าย
ลองทำตามแนวทางทั้ง 7 ข้อนี้ และสร้างสรรค์ข้อความอีเมลที่กระตุ้น เสริมสร้างการมีส่วนร่วม และแปรเป็นยอดขาย แสดงให้พวกเขาเห็นว่าร้านของคุณไม่ใช่แค่ร้านขายสินค้า แต่เป็นจุดหมายของของขวัญที่ยั่งยืน และมีความหมาย
ersonalize วิธีการของคุณ โดยการสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดสายตา และปรับปรุงประสิทธิภาพทุกข้อความเพื่อ conversion คุณก็จะสามารถเปลี่ยน email marketing ของคุณให้เป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการกระตุ้นยอดขายใหม่
ทำให้ร้านเครื่องประดับของคุณเป็นตัวเลือกแรกของนักช้อปช่วงเทศกาลที่กำลังมองหาของขวัญที่สมบูรณ์แบบ
เริ่มลงมือตั้งแต่วันนี้และทำให้ช่วงเทศกาลปีนี้เป็นปีที่คุณมีผลกำไรสูงสุด!
แปลและเรียบเรียงโดยศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
มีนาคม 2568
ข้อมูลอ้างอิง