ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

โบโกตาตลาดมรกตโลก

Apr 8, 2025
358 views
0 share

        หากพูดถึง “มรกต” แล้ว สถานที่ที่ผู้คนให้ความสนใจซื้อมรกตจะต้องนึกเป็นอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้น “โบโกตา ประเทศโคลอมเบีย” อย่างแน่นอน โบโกตาถือได้ว่าเป็นเมืองหลวงแห่งมรกตของโลก เพราะนอกจากสีเขียวเข้มล้ำลึกของมรกตและคุณภาพที่ยอดเยี่ยมแล้ว โคลอมเบียสามารถผลิตมรกตได้ถึงร้อยละ 70-90 ของมรกตในโลกนี้เลยทีเดียว ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบอัญมณีและหลงใหลในมรกตจึงไม่พลาดที่จะมาเยือนโบโกตาเป็นแน่ โบโกตามี Emerald Trade Center และ Emerald District ที่ขึ้นชื่อในการซื้อขายมรกตที่มีคุณภาพสูงจากแหล่งผลิต อีกทั้งยังมีความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในการซื้อขายด้วย ดังนั้นมาทำความรู้จักเมืองหลวงแห่งมรกตของโลกไปด้วยกัน

มรกตของโคลอมเบียมีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 300 (พ.ศ. 843) โดยมีชาวพื้นเมือง Muzo ซึ่งเป็นชนเผ่าดั้งเดิมในพื้นที่เป็นผู้ขุดหาและใช้มรกตในพิธีกรรมและการตกแต่ง 

        - ในศตวรรษที่ 16 นักสำรวจชาวสเปนหรือ คอนกิสตาดอร์ (Conquistadors) เข้ายึดครองเหมืองมรกตและบังคับให้ชนพื้นเมือง Muzo ทำงานในเหมือง จึงเป็นสาเหตุให้มรกตถูกขุดและได้นำไปขายให้กับชนชั้นสูงในยุโรป อินเดีย และตุรกี

        - การลดลงของการผลิตในศตวรรษที่ 17 ปลายศตวรรษที่ 17 การผลิตมรกตจากเหมืองหลักทั้งสองแห่งลดลงอย่างมาก เหมือง Chivor ถูกทิ้งร้างและสูญหายไป แต่ถูกค้นพบอีกครั้งในอีก 200 ปีให้หลัง หลังจากโคลอมเบียได้รับเอกราชจากสเปน ซึ่งเหมืองมรกตอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทเอกชนและรัฐบาล

        - ปัญหาความไม่สงบในศตวรรษที่ 19 และ 20 ในช่วงนี้โคลอมเบียเกิดการใช้ความรุนแรง และความขัดแย้งทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อเหมืองมรกตและอุตสาหกรรมมรกตเป็นอย่างมาก

        - สงครามสีเขียว (Green Wars) ในทศวรรษ 1980 เกิดสงครามแย่งชิงพื้นที่เหมืองมรกตที่เรียกว่า Green Wars ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปล้นสะดมและความรุนแรง โดยมีการต่อสู้ระหว่างกลุ่มค้ายาเสพติดและผู้ควบคุมเหมือง จนกระทั่งในปี 1991 กระบวนการสันติภาพถูกเจรจาโดยคริสตจักรคาทอลิก หลังจากนั้นเหมืองต่าง ๆ จึงได้ดำเนินการโดยกลุ่มผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นที่เรียกว่า Emerald Barons

        - Victor Carranza จักรพรรดิมรกตแห่งโคลอมเบีย หนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์มรกตโคลอมเบีย ซึ่งเป็นผู้ควบคุมตลาดมรกตของโคลอมเบียมากถึงร้อยละ 40 และก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี 2013 เขามีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงในอุตสาหกรรมมรกตหลังสงครามสีเขียว

        อย่างที่กล่าวไปในต้นว่า โคลอมเบียคือแหล่งผลิตมรกตที่สำคัญและใหญ่ที่สุดของโลก โดยสามารถผลิตมรกตได้สูงถึงร้อยละ 70-90 อีกทั้งมูลค่าการส่งออกมรกตนั้นยังมีมูลค่ากว่าครึ่งของการส่งออกของประเทศ และจากข้อมูลของ Fedesmeraldas (สมาพันธ์มรกตแห่งโคลอมเบีย) ยังระบุอีกว่า โคลอมเบียสามารถผลิตมรกตเฉลี่ยสูงถึง 2 ล้านกะรัตต่อปี อีกทั้งยังคาดการณ์ว่าการผลิตจะเติบโตขึ้นร้อยละ 10 จากการลงทุนใหม่ในเหมือง St. Paul of Borbur ในเขต Boyacá ซึ่งเป็นเหมืองที่จะมีการผลิตเพิ่มขึ้น โดยในปัจจุบันมรกตจากโคลอมเบียมาจากแหล่งผลิตสำคัญสามแห่ง ได้แก่ Muzo, Chivor และ Coscuez

        - เหมือง Muzo เป็นแหล่งเหมืองที่เก่าแก่ที่สุด โดยมีการทำเหมืองตั้งแต่ก่อนยุคของนักสำรวจชาวสเปนในศตวรรษที่ 14 เหมืองอยู่ห่างจากโบโกตาไปทางเหนือประมาณ 100 กิโลเมตร และเป็นเหมืองของรัฐบาล โดยมีบริษัทเช่าเหมือง Muzo อยู่ในป่าฝนที่ร้อนและชื้น ทำให้ยากต่อการทำเหมือง จึงทำให้มรกตจาก Muzo มีสีเข้มและเขียวกว่าที่อื่น และมักมีจุดสีดำปรากฏให้เห็น ซึ่งแตกต่างจากมรกตจาก Chivor

        - เหมือง Chivor ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของโบโกตาประมาณ 75 กิโลเมตร บางส่วนของเหมืองเป็นกรรมสิทธิ์ของเอกชน เหมืองนี้จึงเป็นเหมืองแห่งเดียวในโคลอมเบียที่ไม่ได้อยู่ภายใต้รัฐบาล Chivor ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง มีป่าทึบและพืชพันธุ์หนาแน่น และมีความชื้นสูงที่เรียกว่า "ป่าหมอก" (ป่าที่มีความชื้นเฉลี่ยร้อยละ 60-80) ทำให้มรกตจาก Chivor ขึ้นชื่อเรื่องความใสและสีเขียวอมฟ้าสดใส 

        - เหมือง Coscuez ตั้งอยู่ใกล้กับเหมือง Muzo ทางตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นทรัพย์สินของรัฐบาลเช่นเดียวกับ Muzo และมีบริษัทเช่าเหมืองมรกตที่ได้จากเหมือง Coscuez มีสีที่หลากหลาย ตั้งแต่สีเขียวอมเหลืองไปจนถึงสีเขียวอมฟ้า โดยเฉพาะมรกตสีเขียวอมเหลืองที่สว่างสดใสจนถึงขั้นได้รับฉายาว่า “เปลวไฟสีเขียว” (Green Fire)

        นอกจากเหมืองขนาดใหญ่และคุณภาพสูงแล้ว โคลอมเบียยังมีตลาดการค้าขายมรกตที่สำคัญไม่แพ้กันคือ Emerald District และ Emerald Trade Center ที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการค้ามรกตที่สำคัญระดับโลกเลยทีเดียว ตลาดทั้งสองแห่งนี้ถือเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อมรกตในโคลอมเบีย 

        - Emerald District เป็นศูนย์กลางการค้าขายมรกตที่สำคัญที่สุดในโคลอมเบียและได้รับการยอมรับในระดับโลก ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้ La Candelaria ย่านเมืองเก่าทางวัฒนธรรมของโบโกตา โดยพื้นที่หลักของย่านนี้อยู่ระหว่างถนนสายที่ 12 และถนนสายที่ 6 บริเวณใกล้กับ Plaza del Rosario และ Avenida Jiménez ที่นี่ประกอบไปด้วยร้านขายมรกตทั้งแบบดั้งเดิมและร้านสมัยใหม่ รวมถึงผู้ค้าส่งและผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินราคามรกต 

ไม่ว่าจะเป็นมรกตแบบดิบและมรกตที่ถูกเจียระไน หรือมรกตที่ทำเป็นเครื่องประดับแล้ว

        - Emerald Trade Center เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งสำหรับการค้าขายมรกตในโบโกตา ตั้งอยู่บน Avenida Jiménez ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญในเมือง Emerald Trade Center ถือเป็นศูนย์รวมของร้านค้า ผู้ค้า และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมมรกตที่มีการให้บริการทั้งผู้ค้าส่งและผู้ซื้อรายย่อย โดยมีการรับรองคุณภาพมรกตจากแหล่งผลิต ไม่ว่าจะเป็น Muzo, Chivor หรือ Coscuez อีกทั้ง Emerald Trade Center ยังเป็นสถานที่ที่มีมาตรฐานและปลอดภัยสำหรับการซื้อขายมรกต เนื่องจากมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพและความโปร่งใสในการซื้อขาย

          ความแตกต่างของมรกตจากโคลอมเบียทำให้มรกตของที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะและมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสี ความบริสุทธิ์ และขนาด เหล่านี้ถือเป็นจุดเด่นเฉพาะของมรกตโคลอมเบียเลยทีเดียว

        - สีที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ มรกตโคลอมเบียมีชื่อเสียงในเรื่องสีเขียวเข้มที่สดใส ซึ่งมีตั้งแต่สีเขียวมรกตสดใสไปจนถึงสีเขียวเข้ม และทุกสีคงไว้ซึ่งความอิ่มตัวของสีที่ดูโดดเด่น สีเขียวของมรกตโคลอมเบียนี้ถือว่าเป็นสีที่ผู้คนต้องการมากที่สุดในวงการอัญมณีทั่วโลก

        - ความโปร่งใสและความบริสุทธิ์ มรกตโคลอมเบียมักจะมีความโปร่งใสที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับมรกตจากประเทศอื่น แม้ว่ามรกตทุกชนิดจะมีตำหนิตามธรรมชาติ แต่มรกตจากโคลอมเบียมักมีตำหนิน้อยกว่าและสะอาดกว่า ทำให้มีความงดงามมากขึ้นเมื่อมองด้วยตาเปล่า

        - ขนาดและรูปทรง เหมืองในโคลอมเบียสามารถผลิตมรกตขนาดใหญ่ได้ บางเม็ดมีน้ำหนักมาก และรูปทรงที่สมบูรณ์ จึงทำให้มีมรกตโคลอมเบียคุณค่ามากขึ้น

        - เทคนิคการทำเหมือง เหมืองในโคลอมเบียใช้วิธีการสกัดและการเจียระไนแบบดั้งเดิมที่ได้รับการพัฒนามาอย่างยาวนานนับศตวรรษ เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้มรกตถูกเก็บรักษาในสภาพที่ดีที่สุดระหว่างกระบวนการสกัด ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพขั้นสุดท้ายของอัญมณี

ในส่วนของการค้าขายมรกตนั้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งที่ Emerald District หรือ Emerald Trade Center มีสิ่งควรรู้การซื้อขายมรกต ดังนี้

        - คุณภาพและสี คุณภาพของมรกต ขึ้นอยู่กับ สี ความใส การเจียระไน และขนาด มรกตคุณภาพดีที่สุดมักมีสีเขียวเข้มสดใส และมีความโปร่งใสสูง สามารถตรวจสอบตำหนิหรือรอยตำหนิ (Inclusions) ที่ปรากฏในหินธรรมชาติได้ หากตำหนิไม่ชัดเจนจนเกินไปและไม่ลดความงามของหินจะถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

        - ใบรับรอง (Certification) ควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่สามารถให้ใบรับรองความแท้ (Certificate of Authenticity) ได้ ซึ่งใบรับรองนี้จะช่วยยืนยันว่าเป็นมรกตแท้และระบุคุณภาพของอัญมณี เช่น น้ำหนัก สี ความใส และแหล่งกำเนิด และหากเป็นไปได้ควรให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบความแท้ของมรกตก่อนตัดสินใจซื้อ

        - คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ (Custom Consultancy) ควรเลือกร้านที่มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา ซึ่งคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้เข้าใจคุณสมบัติของมรกต เช่น ความหายาก แหล่งกำเนิด และปัจจัยที่ส่งผลต่อมูลค่า

        - ราคาและการต่อรอง มรกตมีราคาสูงตามคุณภาพและความหายาก ควรตรวจสอบราคาตลาดก่อนซื้อ ทั้งนี้การต่อรองราคาเป็นเรื่องปกติในตลาดมรกต โดยเฉพาะในโคลอมเบีย ซึ่งควรทำการซื้อขายกับร้านค้าที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น

        - ซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่มีชื่อเสียง เช่น Emerald District หรือ Emerald Trade Center ในโบโกตา และหลีกเลี่ยงการซื้อจากร้านค้าที่ไม่มีใบรับรองคุณภาพ

และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างในการซื้อขายมรกตคือ เรื่องของราคา ราคาของมรกตโคลอมเบียมีความหลากหลายอย่างมากขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น คุณภาพ ขนาด สี และความใสของมรกต โดยข้อมูลจาก Estate Diamond Jewelry และ Gemval ในปี 2024 ระบุราคาเฉลี่ยต่อกะรัตของมรกตโคลอมเบียสามารถแบ่งออกเป็น

        - มรกตคุณภาพเชิงพาณิชย์ (Commercial Quality) มรกตในกลุ่มนี้มักใช้สำหรับเครื่องประดับแฟชั่น โดยมีราคาประมาณ 100 ถึง 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อกะรัต

        - มรกตคุณภาพระดับกลาง (Medium Quality) มรกตที่มีสีอยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้และมีตำหนิเพียงเล็กน้อย ราคาจะอยู่ระหว่าง 500 ถึง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อกะรัต

        - มรกตคุณภาพสูง (High-End Quality) มรกตที่มีสีสดใสและความใสที่ยอดเยี่ยม จะมีราคาประมาณ 3,000 ถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อกะรัต

        - มรกตระดับพิเศษหรือเพื่อการลงทุน (Exceptional or Investment Grade) มรกตที่มีขนาดใหญ่ สีสันที่โดดเด่น และความใสที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะจากแหล่งที่มีชื่อเสียง เช่น Muzo หรือ Chivor อาจมีราคาสูงกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อกะรัต และอาจมีราคาสูงถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อกะรัต สำหรับมรกตที่หายากและไม่ได้ผ่านการปรับปรุงคุณภาพ

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่ามรกตโคลอมเบียมีแรงดึงดูดใจมากทีเดียว และความน่าสนใจของมรกตโคลอมเบียทั้งหมดนี้ น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการวางแผนของนักลงทุนและนักสะสมให้ไปเยือนยังปลายทาง “โบโกตาเมืองหลวงแห่งมรกตโลก” สักครั้งอย่างแน่นอน


ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

เมษายน 2568

ข้อมูลอ้างอิง


1. https://www.gemstonedetective.com/post/discover-the-top-tourist-destinations-in-2024-for-buying-gemstones
2. https://emeralds.com/education/mining-locations/colombia-emerald-mines/?srsltid=AfmBOoqnwyoLqnnbK56JgF-iSXpnViHzUhiDI6Q90NbjtbsFPdDhQR2t
3. https://theculturetrip.com/south-america/colombia/articles/everything-you-need-to-know-about-buying-emeralds-in-colombia
4. https://emeraldbylove.com/blogs/news/colombian-emeralds-are-more-expensive-for-its-great-spread-gerson-morales-ceo-ebl-1
5. https://emeraldbylove.com/blogs/news/where-to-buy-emeralds-in-bogota
6. https://emeraldbylove.com/blogs/news/reasons-of-the-price-colombian-emerald
7. https://www.estatediamondjewelry.com/no-oil-colombian-emeralds/?srsltid=AfmBOoqdp9ASIL8WIS74-JZqfyyw_6f4wqC-xXdS1C4jSDt5wbjWuL3b&utm_source=chatgpt.com
8. https://gemval.com/chart/emerald/?utm_source=chatgpt.com

เอกสารแนบ


ความคิดเห็น


ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

โบโกตาตลาดมรกตโลก

Apr 8, 2025
358 views
0 share

        หากพูดถึง “มรกต” แล้ว สถานที่ที่ผู้คนให้ความสนใจซื้อมรกตจะต้องนึกเป็นอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้น “โบโกตา ประเทศโคลอมเบีย” อย่างแน่นอน โบโกตาถือได้ว่าเป็นเมืองหลวงแห่งมรกตของโลก เพราะนอกจากสีเขียวเข้มล้ำลึกของมรกตและคุณภาพที่ยอดเยี่ยมแล้ว โคลอมเบียสามารถผลิตมรกตได้ถึงร้อยละ 70-90 ของมรกตในโลกนี้เลยทีเดียว ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบอัญมณีและหลงใหลในมรกตจึงไม่พลาดที่จะมาเยือนโบโกตาเป็นแน่ โบโกตามี Emerald Trade Center และ Emerald District ที่ขึ้นชื่อในการซื้อขายมรกตที่มีคุณภาพสูงจากแหล่งผลิต อีกทั้งยังมีความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในการซื้อขายด้วย ดังนั้นมาทำความรู้จักเมืองหลวงแห่งมรกตของโลกไปด้วยกัน

มรกตของโคลอมเบียมีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 300 (พ.ศ. 843) โดยมีชาวพื้นเมือง Muzo ซึ่งเป็นชนเผ่าดั้งเดิมในพื้นที่เป็นผู้ขุดหาและใช้มรกตในพิธีกรรมและการตกแต่ง 

        - ในศตวรรษที่ 16 นักสำรวจชาวสเปนหรือ คอนกิสตาดอร์ (Conquistadors) เข้ายึดครองเหมืองมรกตและบังคับให้ชนพื้นเมือง Muzo ทำงานในเหมือง จึงเป็นสาเหตุให้มรกตถูกขุดและได้นำไปขายให้กับชนชั้นสูงในยุโรป อินเดีย และตุรกี

        - การลดลงของการผลิตในศตวรรษที่ 17 ปลายศตวรรษที่ 17 การผลิตมรกตจากเหมืองหลักทั้งสองแห่งลดลงอย่างมาก เหมือง Chivor ถูกทิ้งร้างและสูญหายไป แต่ถูกค้นพบอีกครั้งในอีก 200 ปีให้หลัง หลังจากโคลอมเบียได้รับเอกราชจากสเปน ซึ่งเหมืองมรกตอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทเอกชนและรัฐบาล

        - ปัญหาความไม่สงบในศตวรรษที่ 19 และ 20 ในช่วงนี้โคลอมเบียเกิดการใช้ความรุนแรง และความขัดแย้งทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อเหมืองมรกตและอุตสาหกรรมมรกตเป็นอย่างมาก

        - สงครามสีเขียว (Green Wars) ในทศวรรษ 1980 เกิดสงครามแย่งชิงพื้นที่เหมืองมรกตที่เรียกว่า Green Wars ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปล้นสะดมและความรุนแรง โดยมีการต่อสู้ระหว่างกลุ่มค้ายาเสพติดและผู้ควบคุมเหมือง จนกระทั่งในปี 1991 กระบวนการสันติภาพถูกเจรจาโดยคริสตจักรคาทอลิก หลังจากนั้นเหมืองต่าง ๆ จึงได้ดำเนินการโดยกลุ่มผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นที่เรียกว่า Emerald Barons

        - Victor Carranza จักรพรรดิมรกตแห่งโคลอมเบีย หนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์มรกตโคลอมเบีย ซึ่งเป็นผู้ควบคุมตลาดมรกตของโคลอมเบียมากถึงร้อยละ 40 และก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี 2013 เขามีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงในอุตสาหกรรมมรกตหลังสงครามสีเขียว

        อย่างที่กล่าวไปในต้นว่า โคลอมเบียคือแหล่งผลิตมรกตที่สำคัญและใหญ่ที่สุดของโลก โดยสามารถผลิตมรกตได้สูงถึงร้อยละ 70-90 อีกทั้งมูลค่าการส่งออกมรกตนั้นยังมีมูลค่ากว่าครึ่งของการส่งออกของประเทศ และจากข้อมูลของ Fedesmeraldas (สมาพันธ์มรกตแห่งโคลอมเบีย) ยังระบุอีกว่า โคลอมเบียสามารถผลิตมรกตเฉลี่ยสูงถึง 2 ล้านกะรัตต่อปี อีกทั้งยังคาดการณ์ว่าการผลิตจะเติบโตขึ้นร้อยละ 10 จากการลงทุนใหม่ในเหมือง St. Paul of Borbur ในเขต Boyacá ซึ่งเป็นเหมืองที่จะมีการผลิตเพิ่มขึ้น โดยในปัจจุบันมรกตจากโคลอมเบียมาจากแหล่งผลิตสำคัญสามแห่ง ได้แก่ Muzo, Chivor และ Coscuez

        - เหมือง Muzo เป็นแหล่งเหมืองที่เก่าแก่ที่สุด โดยมีการทำเหมืองตั้งแต่ก่อนยุคของนักสำรวจชาวสเปนในศตวรรษที่ 14 เหมืองอยู่ห่างจากโบโกตาไปทางเหนือประมาณ 100 กิโลเมตร และเป็นเหมืองของรัฐบาล โดยมีบริษัทเช่าเหมือง Muzo อยู่ในป่าฝนที่ร้อนและชื้น ทำให้ยากต่อการทำเหมือง จึงทำให้มรกตจาก Muzo มีสีเข้มและเขียวกว่าที่อื่น และมักมีจุดสีดำปรากฏให้เห็น ซึ่งแตกต่างจากมรกตจาก Chivor

        - เหมือง Chivor ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของโบโกตาประมาณ 75 กิโลเมตร บางส่วนของเหมืองเป็นกรรมสิทธิ์ของเอกชน เหมืองนี้จึงเป็นเหมืองแห่งเดียวในโคลอมเบียที่ไม่ได้อยู่ภายใต้รัฐบาล Chivor ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง มีป่าทึบและพืชพันธุ์หนาแน่น และมีความชื้นสูงที่เรียกว่า "ป่าหมอก" (ป่าที่มีความชื้นเฉลี่ยร้อยละ 60-80) ทำให้มรกตจาก Chivor ขึ้นชื่อเรื่องความใสและสีเขียวอมฟ้าสดใส 

        - เหมือง Coscuez ตั้งอยู่ใกล้กับเหมือง Muzo ทางตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นทรัพย์สินของรัฐบาลเช่นเดียวกับ Muzo และมีบริษัทเช่าเหมืองมรกตที่ได้จากเหมือง Coscuez มีสีที่หลากหลาย ตั้งแต่สีเขียวอมเหลืองไปจนถึงสีเขียวอมฟ้า โดยเฉพาะมรกตสีเขียวอมเหลืองที่สว่างสดใสจนถึงขั้นได้รับฉายาว่า “เปลวไฟสีเขียว” (Green Fire)

        นอกจากเหมืองขนาดใหญ่และคุณภาพสูงแล้ว โคลอมเบียยังมีตลาดการค้าขายมรกตที่สำคัญไม่แพ้กันคือ Emerald District และ Emerald Trade Center ที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการค้ามรกตที่สำคัญระดับโลกเลยทีเดียว ตลาดทั้งสองแห่งนี้ถือเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อมรกตในโคลอมเบีย 

        - Emerald District เป็นศูนย์กลางการค้าขายมรกตที่สำคัญที่สุดในโคลอมเบียและได้รับการยอมรับในระดับโลก ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้ La Candelaria ย่านเมืองเก่าทางวัฒนธรรมของโบโกตา โดยพื้นที่หลักของย่านนี้อยู่ระหว่างถนนสายที่ 12 และถนนสายที่ 6 บริเวณใกล้กับ Plaza del Rosario และ Avenida Jiménez ที่นี่ประกอบไปด้วยร้านขายมรกตทั้งแบบดั้งเดิมและร้านสมัยใหม่ รวมถึงผู้ค้าส่งและผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินราคามรกต 

ไม่ว่าจะเป็นมรกตแบบดิบและมรกตที่ถูกเจียระไน หรือมรกตที่ทำเป็นเครื่องประดับแล้ว

        - Emerald Trade Center เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งสำหรับการค้าขายมรกตในโบโกตา ตั้งอยู่บน Avenida Jiménez ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญในเมือง Emerald Trade Center ถือเป็นศูนย์รวมของร้านค้า ผู้ค้า และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมมรกตที่มีการให้บริการทั้งผู้ค้าส่งและผู้ซื้อรายย่อย โดยมีการรับรองคุณภาพมรกตจากแหล่งผลิต ไม่ว่าจะเป็น Muzo, Chivor หรือ Coscuez อีกทั้ง Emerald Trade Center ยังเป็นสถานที่ที่มีมาตรฐานและปลอดภัยสำหรับการซื้อขายมรกต เนื่องจากมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพและความโปร่งใสในการซื้อขาย

          ความแตกต่างของมรกตจากโคลอมเบียทำให้มรกตของที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะและมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสี ความบริสุทธิ์ และขนาด เหล่านี้ถือเป็นจุดเด่นเฉพาะของมรกตโคลอมเบียเลยทีเดียว

        - สีที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ มรกตโคลอมเบียมีชื่อเสียงในเรื่องสีเขียวเข้มที่สดใส ซึ่งมีตั้งแต่สีเขียวมรกตสดใสไปจนถึงสีเขียวเข้ม และทุกสีคงไว้ซึ่งความอิ่มตัวของสีที่ดูโดดเด่น สีเขียวของมรกตโคลอมเบียนี้ถือว่าเป็นสีที่ผู้คนต้องการมากที่สุดในวงการอัญมณีทั่วโลก

        - ความโปร่งใสและความบริสุทธิ์ มรกตโคลอมเบียมักจะมีความโปร่งใสที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับมรกตจากประเทศอื่น แม้ว่ามรกตทุกชนิดจะมีตำหนิตามธรรมชาติ แต่มรกตจากโคลอมเบียมักมีตำหนิน้อยกว่าและสะอาดกว่า ทำให้มีความงดงามมากขึ้นเมื่อมองด้วยตาเปล่า