นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงพาณิชย์ กล่าวขณะเป็นประธานเปิดงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair (BGJF) Special Edition-On Ground to Online Exhibition งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในรูปแบบออน ไลน์เต็มรูปแบบที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียว่า จากวิกฤติ โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าทั่วโลกอย่างมาก ในมิติของการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติก็ได้รับผล กระทบเนื่องจากมาตรการควบคุมการ เดินทางและการกักตัวของประเทศต่างๆ ทำให้ผู้เข้าเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าจากต่างประเทศไม่สามารถเดินทางเข้าร่วมงานได้เหมือนเช่นที่ผ่านมา จึงให้นโยบายปรับการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ให้หันมาใช้ระบบออนไลน์ในการทำกิจกรรมด้านการตลาดมากขึ้น รูปแบบงานแสดงสินค้าเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ที่จำลองบรรยากาศเหมือนเดินอยู่ในงานแสดง สินค้าจริง ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยได้รับโอกาสทางธุรกิจแม้ในห้วงเวลาที่ไม่ปกติ โดยมียุทธศาสตร์สำคัญคือการรักษาและขยายตลาดส่งออกเดิม เปิดตลาดใหม่ รวมถึงฟื้นตลาดเก่าที่เคยเป็นตลาดสำคัญ ภายใต้ตลาดนำการผลิต

"นับเป็นครั้งแรกที่รวบรวมผู้แสดงสินค้าจากงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับกว่า 600 บริษัทสู่แพลต ฟอร์มออนไลน์ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ซื้อจากทั่วโลกในช่วงเวลาที่นักธุรกิจยังไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ คาดว่าจะเกิดมูลค่าการซื้อขายออนไลน์ในช่วงการจัดงาน 1,200 ล้านบาท มีการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ไม่น้อยกว่า 1,000 คู่ และผู้เข้าชมแพลตฟอร์มไม่น้อยกว่า 50,000 ราย" นายจุรินทร์กล่าว และว่าธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับไทยได้รับการยอมรับจากผู้ซื้อจากทั่วโลก ทั้งในเรื่องวัตถุดิบพลอยสี ช่างฝีมือ และดีไซน์ที่สวยงาม ทำให้ไทยกลายเป็นหนึ่งในศูนย์ กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของโลก โดยในปี 2562 ไทยส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับรวม ทองคำเป็นอันดับ 3 คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 6.37 ของมูลค่าการส่งออกรวมของไทย สามารถทำรายได้ให้กับประเทศถึงกว่า 486,000 ล้านบาท