ทองปีวัวร่วงหนักแตะ25,000บาท
ราคาทองหล่นตุ้บ ต้นปีทองคำแท่งร่วงแล้ว 2,200 บาทต่อบาททองคำ ทองรูปพรรณหลุด 26,000 บาท ขายออกเหลือ 25,900 บาท เหตุตลาดโลกราคาร่วงหนัก หลุด 1,800 ดอลล์/ออนซ์ หลายปัจจัยกดดัน ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดีเกินคาด กองทุน SPDR เทขาย 5.54 ตัน แม่ทองสุกไม่แนะนำไล่ซื้อเพื่อลดขาดทุน เหตุแนวโน้มยังเป็นขาลง
ผู้สื่อข่าวรายงานการซื้อขายทองคำวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ว่า ทันทีที่เปิดตลาดราคาทองในประเทศปรับลดลงทันที 300 บาทต่อบาททองคำ จากการรายงานความเคลื่อนไหวราคาทองคำโดยสมาคมค้าทองคำ เทียบบาททองคำ ทองแท่งรับซื้อที่ 25,400 บาท ขายออก 25,500 บาท ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อ 24,938.20 บาท และขายออก 26,000 บาท กระทั่งเวลา 12.49 น. ราคาปรับลดงอีก 50 บาท โดยทองแท่งรับซื้อ 25,300 บาท และขายออก 25,400 บาท ทองรูปพรรณรับ
ซื้อ 24,847.24 และขายออก 25,900.00 บาท ก่อนที่ราคาจะกลับมาที่เดิม โดยราคาขยับขึ้น 50 บาท และปรับลงอีก 50 บาท 2ครั้ง (เวลา 16.20 น.) รวมปรับลดลง 400บาท และหากเทียบตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาขายออกของทองคำแท่งปรับลดลงแล้ว 2,200 บาท จากราคาทองคำแท่งที่เคยขายออกสูงสุดเมื่อเดือนมกราคม อยู่ที่ 27,650 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงาน ราคาทองคำแท่งเทียบต้นปี 2564 ปรับตัวลดลงแล้ว 2,200 บาท เมื่อเทียบกับราคาขายออกสูงสุดที่ 27,650 บาท เมื่อเดือนมกราคม
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และห้างทองแม่ทองสุก MTS ออกบทวิเคราะห์ไปในทางเดียวกันว่า เป็นผลต่อเนื่องจากการซื้อขายในตลาดต่างประเทศเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ราคาทองคำโลกปิดลดลง 23.56 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แม้ระหว่างวันจะมีแรงซื้อหนุนให้ราคาปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,826 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถรักษาราคาไว้ได้ ค่อยๆ ปรับตัวลดลงจากแรงขายทางเทคนิคหลังราคาทองคำหลุดกรอบแนวรับ สาเหตุจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐดีเกินคาด ทั้งดัชนีภาคการผลิตเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 12.1 ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 และเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9 ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.29% ส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,789.44 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้จะมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาทองคำให้เกิดการดีดตัวกลับมาเคลื่อนไหวเหนือ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง แต่โดยรวมแล้วยังมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเป็นระยะ
รายงานระบุว่า นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจากสภาคองเกรสสหรัฐจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลให้นักลงทุนโยกเงินออกจากการลงทุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น เห็นได้จากดัชนีดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้น 64.35 จุด หรือ 0.20% โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคารมีการซื้อขายปรับตัวนำตลาด และยังเกิดแรงเทขายของกองทุน SPDR ออกมาถึง 5.54 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,136.68 ตัน
บทวิเคราะห์ของแม่ทองสุก MTS มองภาพรวมทองคำยังถูกกดดันในทิศทางขาลง และยังเห็นภาพราคาแกว่งตัวสลับกันแบบขาขึ้นและ ขาลง กลับไปกลับมา จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนว่าให้เน้นเรื่องการลงทุนตามแนวโน้มขาลง ไม่ควรซื้อเฉลี่ยเพื่อลดขาดทุน สำหรับนักลงทุนที่ถือยาว ไม่แนะนำให้ถือครองสถานะ แต่เน้นบริหารพอร์ตสมดุลกับทิศทางมากกว่า ส่วนนักลงทุนที่ถือสั้น แนะนำให้หาจังหวะขายเมื่อราคารีบาวน์และรอซื้อทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว
ข้อมูลอ้างอิง