เทรนด์การออกแบบเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมในขณะนี้มีอยู่หลายกระแส ขึ้นอยู่ความชื่นชอบของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่แต่ละเจนเนอเรชัน ซึ่งดีไซน์ที่กำลังมาแรงคงหนีไม่พ้นกระแสงานฝังประดับ งานลงยา เครื่องประดับค็อกเทล รูปทรงคลื่น และโลหะหนาหนัก ซึ่งได้กล่าวถึงในบทความตอนที่ 1 และตอนที่ 2 ไปแล้ว นอกจากนี้ กระแสงานออกแบบเครื่องประดับยุคใหม่ที่ฮอตฮิตติดเทรนด์อย่างต่อเนื่องยังมีแหวนอัญมณีสองเม็ด งานออกแบบแนวย้อนอดีตที่สนุกสดใส และเครื่องประดับที่ไม่แบ่งเพศ (Unisex) นั่นเอง โดยแต่ละแบรนด์เครื่องประดับรังสรรค์ชิ้นงานตามเทรนด์เหล่านี้ออกมาเป็นคอลเลกชันในรูปแบบใดบ้าง ติดตามรายละเอียดดังนี้

เครื่องประดับจากแบรนด์ State Property

แหวนอัญมณีสองเม็ด

        การใช้อัญมณีสองเม็ดประดับบนแหวนเป็นเทรนด์สำคัญที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครื่องประดับแทนคำมั่นสัญญาอย่างแหวนหมั้น และแหวนแต่งงาน โดยได้รับอิทธิพลจากกระแสเครื่องประดับของคนดังอย่าง Ariana Grande และ Megan Fox ซึ่งได้โชว์แหวนหมั้นที่ใช้อัญมณีสองเม็ดในปี 2021 และ 2022 ตามลำดับ ซึ่งเมื่อสไตล์นี้กลายเป็นกระแสนิยมทางวัฒนธรรม คู่รักจำนวนมากจึงตัดสินใจซื้อแหวนอัญมณีสองเม็ดหรือที่เรียกว่า toi et moi ของตัวเอง

        ข้อดีของเทรนด์แหวนอัญมณีสองเม็ดนี้คือมันสามารถนำไปดัดแปลงให้เข้ากับรูปแบบความงามของแบรนด์ใดก็ได้ โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ทั้งหมด แหวนเพชรเม็ดเดียวสามารถกลายเป็นแหวนเพชรสองเม็ดได้อย่างง่ายดาย

คอลเลกชัน "Anniversary Bypass Ring" แบรนด์ Jemma Wynne

        เทรนด์แหวนอัญมณีสองเม็ดจึงกลายเป็นชิ้นงานพื้นฐานของแบรนด์ Jemma Wynne โดยพบได้บ่อยครั้งในงานของนักออกแบบ Jenny Klatt และ Stephanie Wynne ซึ่งมีเอกลักษณ์เป็นการผสมผสานเพชรสีขาวกับมรกต และได้ดีไซน์แหวนรูปแบบอื่นๆ อีกมากมาย แหวนอัญมณีสองเม็ดรุ่นใหม่ๆ ของทางแบรนด์มักจะเป็นแหวนแบบต่อเชื่อม (Bypass Ring) ที่มีก้านแหวนเป็นแบบปลายเปิด

แหวนจากนักออกแบบ Darius

        Darius ผู้สร้างสรรค์เครื่องประดับที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องประดับแนวโบราณ ก็ได้นำอัญมณีหายากอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาใช้ในแหวนอัญมณีสองเม็ด รวมถึงต่างหูห่วงด้วย 

        ขณะเดียวกันแบรนด์ Uniform Object ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำสไตล์แหวนประดับอัญมณีสองเม็ดมาใช้ในงานออกแบบของตัวเอง โดยในงานดีไซน์ของแบรนด์นี้ อัญมณีหลักสองเม็ดมักไม่ได้อยู่ในระนาบเดียวกัน เม็ดหนึ่งอาจฝังอยู่ด้านข้างของตัวแหวน ขณะที่อัญมณีเม็ดเล็กๆ หลายเม็ดฝังแบบจิกไข่ปลากระจายอยู่ทั่วทั้งชิ้นงาน

แหวนแบรนด์ Uniform Object

        เครื่องประดับสไตล์อัญมณีสองเม็ดของ Briony Raymond เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใส่ในชีวิตประจำวัน โดยได้นำเอาตัวเรือนทองฝังหุ้มขนาดใหญ่เป็นพิเศษมารวมกับกระแสความนิยมแหวนแบบ toi et moi

แหวนจากนักออกแบบ Briony Raymond 

งานออกแบบแนวย้อนอดีตที่สนุกสดใส

        นักออกแบบรุ่นมิลเลนเนียลมักชอบรำลึกถึงอดีตเมื่อครั้งตนเองยังเป็นเด็กและย้อนกลับไปหาแรงบันดาลใจจากยุค 1980, 1990 และ 2000 งานดีไซน์เครื่องประดับที่ออกมาจึงดูสดใสร่าเริง แต่ก็ชวนให้ซาบซึ้งด้วยความหมายในอดีตที่แฝงอยู่ เทรนด์นี้อาจได้รับการตีความแบบตรงไปตรงมาหรือในแบบที่เป็นนามธรรมก็ได้

แหวนจากแบรนด์ Boochier

        ตัวอย่างเช่นแบรนด์ Boochier ได้นำเอาของเล่นรูปสปริงสุดคลาสสิกอย่าง Slinky มาจินตนาการใหม่ให้เก๋ไก๋มีระดับในรูปแบบต่างหูห่วง แหวน และสร้อยคอ คอลเลกชันนี้เป็นเครื่องประดับทองตกแต่งเพชร รวมถึงใช้โรเดียมชุบสีในบางชิ้นงาน โดยมีลักษณะรูปทรงเชิงนามธรรมมากกว่า

คอลเลกชัน “First Love” ของดีไซเนอร์ Aisha Baker

        คอลเลกชัน “First Love” ของดีไซเนอร์ Aisha Baker ผสมผสานอัญมณีหลากสีเข้ากับงานลงยาเป็นรูปสัญลักษณ์ที่ดูน่ารัก เช่น ดอกไม้ หัวใจ ใบโคลเวอร์สี่แฉก และปลา สีสันและรูปทรงสะท้อนถึงวัยเยาว์อย่างไม่อาจปฏิเสธได้

        แม้กระทั่งงานที่นำเสนอมุมมองอนาคตอย่างแหวน “Alien” ของนักออกแบบ Alina Abegg ก็ยังมีรากฐานมาจากภาพผู้มาเยือนจากต่างดาวในแบบเด็กๆ ซึ่งคนรุ่นก่อนจะนึกออกว่าเป็นภาพจำของมนุษย์ต่างดาวในช่วงกลางศตวรรษที่แล้ว

คอลเลกชัน "Alien" ของนักออกแบบ Alina Abegg

        โดยรวมแล้วเทรนด์นี้เน้นความสนุกสนานและสะท้อนให้เห็นแนวทางความคิดในโลกแฟชั่นว่าสินค้าหรูไม่จำเป็นที่จะต้องมีดีไซน์ที่ดูจริงจังเสมอไป

เครื่องประดับที่ไม่แบ่งเพศ (Unisex)

        ในมุมของเครื่องประดับชาย เทรนด์สำคัญที่สุดน่าจะเป็นการทำลายกำแพงกั้นระหว่างเพศมากกว่าที่จะเป็นการสร้างสไตล์ใหม่ๆ ด้วยแรงบันดาลใจจากนักกีฬาอาชีพและผู้นำสไตล์รุ่นใหม่อย่าง Harry Styles และ Timothée Chalamet ผู้ชายโดยเฉพาะคนรุ่น Gen Z จึงหันมาแต่งตัวด้วยสไตล์ที่ในยุคทศวรรษก่อนๆ ถูกมองว่าเป็นสไตล์แบบผู้หญิง เช่น การใส่สร้อยไข่มุกแบบคลาสสิก เป็นต้น

        ฉะนั้น เมื่อลูกค้านึกภาพรูปลักษณ์นั้นๆ เช่น เมื่อได้เห็นนักกีฬาเบสบอลอาชีพใส่สร้อยคอไข่มุกระหว่างการแข่งขันเวิลด์ซีรีส์ ลูกค้าสามารถจินตนาการออกว่าเมื่อตนเองใส่เครื่องประดับนั้นแล้วจะเป็นอย่างไรและซื้อสินค้าตาม ทำให้แบรนด์ต่างๆ พากันขานรับกระแสนี้ หลายแบรนด์มองว่าผลิตภัณฑ์ของตนทั้งหมดหรือส่วนใหญ่ไม่ได้จำกัดเพศอยู่แล้ว เพียงแค่แต่เดิมนั้นคนซื้อมักจะเป็นผู้หญิง ดังนั้น แบรนด์จึงต้องวางกรอบมุมมองใหม่

        เมื่อได้เห็นผู้ชายใส่สายสร้อยที่หรูหรา แหวนตราสัญลักษณ์ และเครื่องประดับมุกอันสร้างสรรค์ของแบรนด์ State Property เสน่ห์ที่ไม่ขึ้นอยู่กับเพศของเครื่องประดับเหล่านี้ก็สะท้อนออกมาให้เห็นได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น แทนที่จะเปิดตัวคอลเลกชันโดยกำหนดว่าเป็นเครื่องประดับของผู้ชาย แบรนด์นี้ซึ่งออกแบบโดยดีไซเนอร์ชายหญิงอย่าง Lin Ruiyin และ Afzal Imram จึงได้เปิดตัวแคมเปญเครื่องประดับโดยให้นายแบบมานำเสนอเครื่องประดับ

เครื่องประดับจากแบรนด์ State Property

        แบรนด์อย่าง Lizzie Mandler ก็ใช้ทั้งนางแบบผู้หญิงและผู้ชายในการนำเสนอแคมเปญเครื่องประดับที่ไม่แบ่งเพศ ขณะที่แหวนนิ้วก้อยแบบคลาสสิกและจี้ทองสุดหรูจากแบรนด์ The One I Love ก็กลายเป็นเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับคนทุกเพศ

คอลเลกชัน " Linked Necklace " แบรนด์ Lizzie Mandler

จัดทำโดย นางสาวกวินิตา กฤตาภาสกรวงค์

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)