อินเดียปรับขึ้นภาษีนำเข้าชิ้นส่วนเครื่องประดับทองและเงิน

Mar 4, 2024
1042 views
0 share

        เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 2567 กระทรวงการคลังอินเดียได้ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าชิ้นส่วนเครื่องประดับทองและเงินที่ใช้ผลิตเครื่องประดับและเหรียญโลหะมีค่า จาก 11% เป็น 15% และมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา รวมถึงจะมีการปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสารเร่งปฏิกิริยาซึ่งมีสารประกอบเป็นโลหะมีค่า จากระดับ 10.1% เป็น 14.35% ภายในปีนี้อีกด้วย โดยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีทองคำแท่งและเงินแท่ง หลังจากมีการนำเข้าชิ้นส่วนทองคำพุ่งสูงขึ้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เช่น ตะขอ ตะขอเกี่ยว และส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ใช้ทำเครื่องประดับ

        ทั้งนี้ อินเดียเป็นผู้บริโภคทองคำเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจีน โดยในปี 2566 อินเดียบริโภคทองคำราว 745 ตันลดลง 3% จากปี 2565 และมีความต้องการบริโภคเครื่องประดับทองคำราว 562 ตัน ลดลด 6% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากราคาทองคำตลาดโลกอยู่ในระดับสูง ประกอบกับอินเดียนำเข้าทองคำทั้งหมดจากต่างประเทศ และต้องเสียภาษีสินค้าและบริการ (GST) 3% ทำให้ราคาทองคำในอินเดียเพิ่มขึ้น 15% จึงทำให้ความต้องการบริโภคทองคำและเครื่องประดับทองลดลง


        อย่างไรก็ดี เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม 2567 สภาส่งเสริมการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับอินเดีย (GJEPC) ได้เรียกร้องให้รัฐบาลลดภาษีนำเข้าทองคำทุกประเภทลงเหลือ 5% จาก 15% และลดภาษีนำเข้าสำหรับเพชรเจียระไน เพื่อลดต้นทุนสำหรับผู้ค้าอัญมณีของอินเดีย เพิ่มการส่งออกเครื่องประดับทองและลดการหลีกเลี่ยงการนำเข้าทองคำและเพชรเจียระไนไม่ถูกกฎหมาย

        เนื่องจากอินเดียเป็นคู่ค้าใน 5 อันดับแรกของไทย การปรับภาษีไม่ว่าจะขึ้นหรือลง อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย แต่จากการปรับขึ้นภาษีชิ้นส่วนทองคำและเงินดังกล่าวข้างต้น ไม่ส่งผลกระทบต่อไทยมากนัก เนื่องจากไทยส่งออกสินค้าดังกล่าวไปยังอินเดียน้อยมากไม่ถึง 0.5% ของการส่งออกทั้งหมด ส่วนการที่อินเดียจะปรับลดภาษีนำเข้าทั้งทองคำและเพชรเจียระไนในอนาคต จะส่งผลบวกต่อไทย เนื่องจากเป็นสินค้าส่งออกหลักของไทยไปยังอินเดีย ฉะนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับนโยบายและกฎระเบียบของอินเดียอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้เตรียมพร้อมรับโอกาสและวางแผนกลยุทธ์ให้การส่งออกสินค้าไปยังอินเดียมีความราบรื่นและเติบโตได้ต่อไป


จัดทำโดย นางสาววาสนา สมเนตร์

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

มีนาคม 2567


ข้อมูลอ้างอิง


1) อินเดียขึ้นภาษีนำเข้าชิ้นส่วนเครื่องประดับ หวังป้องกันการเลี่ยงภาษีทองคำ-เงินแท่ง [ออนไลน์]. แหล่งที่มา https://www.infoquest.co.th/2024/368891. (สืบค้นเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567)
2) India's gold consumption in 2023 dropped by 3%: WGC [Online]. Available at https://shorturl.asia/pLG45. (Retrieved February 7, 2024).
3) India commerce ministry backs import tax cuts on gold bars -officials [Online]. Available at https://www.reuters.com/world/india/india-commerce-ministry-backs-import-tax-cuts-gold-bars-officials-2024-01-25/ (Retrieved February 7, 2024).

เอกสารแนบ


ความคิดเห็น


อินเดียปรับขึ้นภาษีนำเข้าชิ้นส่วนเครื่องประดับทองและเงิน

Mar 4, 2024
1042 views
0 share

        เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 2567 กระทรวงการคลังอินเดียได้ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าชิ้นส่วนเครื่องประดับทองและเงินที่ใช้ผลิตเครื่องประดับและเหรียญโลหะมีค่า จาก 11% เป็น 15% และมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา รวมถึงจะมีการปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสารเร่งปฏิกิริยาซึ่งมีสารประกอบเป็นโลหะมีค่า จากระดับ 10.1% เป็น 14.35% ภายในปีนี้อีกด้วย โดยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีทองคำแท่งและเงินแท่ง หลังจากมีการนำเข้าชิ้นส่วนทองคำพุ่งสูงขึ้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เช่น ตะขอ ตะขอเกี่ยว และส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ใช้ทำเครื่องประดับ

        ทั้งนี้ อินเดียเป็นผู้บริโภคทองคำเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจีน โดยในปี 2566 อินเดียบริโภคทองคำราว 745 ตันลดลง 3% จากปี 2565 และมีความต้องการบริโภคเครื่องประดับทองคำราว 562 ตัน ลดลด 6% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากราคาทองคำตลาดโลกอยู่ในระดับสูง ประกอบกับอินเดียนำเข้าทองคำทั้งหมดจากต่างประเทศ และต้องเสียภาษีสินค้าและบริการ (GST) 3% ทำให้ราคาทองคำในอินเดียเพิ่มขึ้น 15% จึงทำให้ความต้องการบริโภคทองคำและเครื่องประดับทองลดลง