เสน่ห์ชวนหลงใหลของพลอยสี “Big 3”
พลอยสี Big 3 ได้แก่ ทับทิม แซปไฟร์ และมรกต ยังคงครองตำแหน่งสูงสุดในตลาดอัญมณีของโลก ด้วยคุณค่า ความหายาก และความงามที่เหนือกาลเวลา พลอยสีทั้งสามชนิดนั้นนับเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ โดยความสนใจของผู้ซื้อในอัญมณีเหล่านี้ระดับพรีเมียมยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าราคากำลังสูงขึ้นก็ตาม
ตลาดของอัญมณีสีทั้งสามชนิด ได้แก่ ทับทิม แซปไฟร์ และมรกต ยังคงมีเสถียรภาพท่ามกลางความท้าทายต่างๆ รวมถึงยอดขายที่ซบเซาในจีน ข้อจำกัดด้านอุปทาน และราคาที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงความผันผวนทางเศรษฐกิจมหภาคและการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ด้วยความงาม ความหายาก และมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้นตามกาลเวลา จึงยังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะอัญมณีคุณภาพสูงซึ่งมีน้ำหนักระหว่าง 2 – 10 กะรัต
สีเขียวที่ดึงดูดใจของมรกต สีแดงอันร้อนแรงของทับทิม หรือสีน้ำเงินที่สะกดใจของแซปไฟร์ เป็นที่ชื่นชอบในตลาดเครื่องประดับมาอย่างยาวนานและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งยังคงมีโอกาสใหม่ๆ เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ซื้อรุ่นใหม่ที่เริ่มพัฒนาความชื่นชมและหลงใหลในอัญมณีเหล่านี้ ส่งผลให้อนาคตของพลอยสีทั้งสามชนิดเติบโตอย่างสดใส
ภาพ: www.klenota.com
มรกต
ยังคงมีความต้องการมรกตโคลอมเบียอย่างแข็งแกร่งในตลาดอัญมณีโลก ในขณะที่อุปทานจำกัด ส่งผลให้ราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งราคาของมรกตโคลอมเบียปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10 – 15% ต่อปี โดยเอเชียเป็นตลาดที่มั่นคงสำหรับมรกต รองลงมาคือยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยผู้ซื้อเลือกซื้อสินค้าคุณภาพดีขึ้น อินเดียยังเป็นหนึ่งในผู้ซื้อหลัก โดยเฉพาะสำหรับอัญมณีขนาดใหญ่แต่คุณภาพต่ำกว่า ในขณะที่ลูกค้าชาวจีนมักชื่นชอบอัญมณีคุณภาพสูงในขนาดเล็ก
ชาวจีนชื่นชอบมรกตที่แกะสลักลวดลายและเจียระไนแบบหลังเบี้ยขนาด 1 – 5 กะรัต ที่มาจากโคลอมเบีย อย่างไรก็ดี มีแนวโน้มที่ชื่นชอบมรกตจากแซมเบียเพิ่มมากขื้นด้วย ส่วนราคานิยมซื้อในช่วงราคา 400 – 800 ดอลลาร์สหรัฐต่อกะรัต ส่วนชาวอินเดียชื่นชอบมรกตขนาดใหญ่ 50 – 300 กะรัต อินเดียมีแนวโน้มในการลงทุนในอัญมณีขนาดใหญ่เนื่องจากความต้องการเครื่องประดับชุดใหญ่และชิ้นงานที่โดดเด่น
มรกตแกะสลัก ภาพ: https://myearthstone.com/
ทับทิม
ยอดขายของทับทิมคุณภาพดียังคงมีสม่ำเสมอแม้ว่าอุปทานจะตึงตัว ความต้องการที่แข็งแกร่งยังทำให้ราคาทับทิมพุ่งสูงขึ้น โดยราคาของทับทิมได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยอย่างน้อย 30% ตั้งแต่ปี 2566 ทั้งนี้ ตลาดหลักของทับทิมคุณภาพดีคือ สหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งต้องการทับทิมทั้งแบบปรับปรุงและไม่ปรับปรุงคุณภาพด้วยความร้อน ในขณะที่ผู้ซื้อจากจีนกำลังมองหาทับทิมที่คุณภาพปานกลางไม่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพด้วยความร้อน ขนาด 1 – 2 กะรัต เนื่องจากเศรษฐกิจที่ซบเซาและกำลังซื้อของผู้บริโภคอ่อนแอลง
ความต้องการทับทิมจากเมียนมายังมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เหมืองได้หยุดการผลิตลงเนื่องจากสงครามกลางเมือง ทำให้ความต้องการทับทิมเมียนมามีมากกว่าปริมาณในตลาด ส่งผลให้ราคาทับทิมจากเมียนมาพุ่งสูงขึ้น 5 เท่านับตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา
ทับทิมเมียนมา ภาพจาก www.researchgate.net
แซปไฟร์
ราคาของแซปไฟร์สีน้ำเงินที่ไม่ผ่านการให้ความร้อน ยังคงแข็งแกร่งและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยผู้ซื้อส่วนใหญ่มีความต้องการแซปไฟร์สีน้ำเงินคุณภาพสูง มีความใสที่ยอดเยี่ยมขนาด 2 - 10 กะรัต ซึ่งแรงขับเคลื่อนหลักของการเพิ่มขึ้นของราคาแซปไฟร์สีน้ำเงินเกิดจากความต้องการที่แข็งแกร่งจากยุโรปและเอเชีย ในขณะที่ตลาดจีนมีความต้องการชะลอตัวลง
ความนิยมแซปไฟร์ส่วนหนึ่งก็มาจากตลาดแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานที่ผู้คนหันมาเลือกซื้อสำหรับใส่ในงานสำคัญ นอกจากนี้ แซปไฟร์สีแฟนซี เช่น สีชมพู สีเขียว หรือสีม่วง ก็เริ่มได้รับความนิยมในตลาดมากขึ้น ทั้งนี้ แซปไฟร์ที่จำหน่ายในตลาดโลกราว 90-95% มาจากศรีลังกาและมาดากัสการ์
เครื่องประดับแซปไฟร์ซีลอน ภาพ: www.chamathkajewellers.lk
จะเห็นได้ว่า อนาคตของพลอยสี Big 3 ยังคงเติบโตอย่างสดใส นอกจากผู้บริโภคจะซื้อเพื่อการลงทุนแล้วยังได้รับความนิยมในกลุ่มคู่หมั้นและคู่แต่งงาน ซึ่งผู้ซื้อเลือกใช้อัญมณีสีมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นทางเลือกแทนเพชรสีขาว โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ฉะนั้น จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะยังสามารถขยายตลาดพลอยสีในกลุ่มเป้าหมายในตลาดโลกได้
จัดทำโดย นางสาววาสนา สมเนตร์
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
กันยายน 2567