ความร่วมมือระหว่าง G7 และบอตสวานา เพื่อการตรวจสอบเพชร

Jan 3, 2025
263 views
0 share

        นับแต่การออกมาตรการคว่ำบาตรเพชรรัสเซียตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ประเทศกลุ่ม G7 และสหภาพยุโรป ได้ร่วมกันออกมาตรการห้ามนำเข้าเพชรที่มีแหล่งกำเนิดในรัสเซีย ต่อเนื่องมาถึงวันที่ 1 มีนาคม ได้เพิ่มมาตรการห้ามนำเข้าเพชรรัสเซียที่ผ่านการตัดหรือเจียระไนในประเทศอื่น กระทั่งขยายข้อจำกัดไปถึงเพชรขนาดตั้งแต่ 0.50 กะรัตขึ้นไป เมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา โดยใช้การตรวจสอบก่อนนำเข้าที่เมืองแอนต์เวิร์ป ในเบลเยียม เป็นศูนย์หลักเพียงแห่งเดียว

        ที่ผ่านมานั้น หลายหน่วยงานพยายามเรียกร้องให้ขยายการยอมรับการตรวจสอบจากแหล่งอื่นๆ ที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับเพื่อให้สามารถรับรองเพชรของตนเองในการค้ากับประเทศกลุ่ม G7 ได้ เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดความล่าช้าในการตรวจสอบและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดทีมตรวจสอบทางเทคนิคของ G7 และบอตสวานา ได้เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันในการพัฒนาขีดความสามารถ และปรับปรุงขั้นตอนการตรวจสอบย้อนกลับของห่วงโซ่อุปทานเพชร เพื่อให้บอตสวานามีความพร้อมในการตรวจสอบ รับรองเพชรให้สอดคล้องกับมาตรฐานและข้อกำหนดตามที่กลุ่ม G7 ได้วางไว้ โดยมีเป้าหมายจะทำให้บอตสวานาเป็นแหล่งตรวจสอบอย่างเต็มประสิทธิภาพได้ภายในปีหน้า  

 

ภาพจาก https://news.jewellerynet.com/

        บอตสวานานั้นเป็นประเทศผู้ผลิตเพชรรายใหญ่ที่สุดในแอฟริกาและเป็นอันดับสองรองจากรัสเซีย อีกทั้งบอตสวานายังเป็นสมาชิกภายใต้กรอบความตกลง Kimberley Process Certification Scheme (KPCS) ดังนั้น การนำเข้าเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไน (Rough Diamond) เข้าประเทศจะต้องดำเนินการและมีเอกสารที่ถูกต้องตามกรอบความตกลง Kimberley Process ซึ่ง Duma Boko ประธานาธิบดีบอตสวานา ได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นในความร่วมมือดังกล่าวจะเสริมสร้างชื่อเสียงของบอตสวานาในฐานะผู้นำระดับโลกที่รับผิดชอบในการผลิตเพชร สร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อและผู้มีส่วนได้เสียระหว่างประเทศ โครงการนี้คาดว่าจะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนแนวปฏิบัติที่มีจริยธรรมตลอดห่วงโซ่อุปทานเพชร นอกจากนี้ 

        ทีมตรวจสอบทางเทคนิคของ G7 จะส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับประเทศผู้ผลิตเพชรในแอฟริกาอื่นๆ เช่น นามิเบีย และแองโกลา เพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์การตรวจสอบเพื่อการรับรองการส่งออกเพิ่มเติมในอนาคตต