ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ลดลง กระทบต่อการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย

Jul 24, 2025
1331 views
0 share

        ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ กลับลดลงอีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2568 หลังจากฟื้นตัวเล็กน้อยในเดือนพฤษภาคม สะท้อนถึงความกังวลของประชาชนต่อสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน โดยเฉพาะด้านเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และความไม่มั่นคงของตลาดแรงงาน ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการจับจ่ายสินค้าและบริการในอนาคต

        รายงานจาก The Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence Index) เดือนมิถุนายนลดลงเหลือ 100.4 จากระดับ 101.3 ในเดือนพฤษภาคม ขณะที่ดัชนีย่อยด้านการคาดการณ์อนาคต (Expectations Index) ลดลงเช่นกัน และยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 80 ซึ่งในเชิงสถิติถือเป็นระดับที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย

        ความกังวลด้านเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ โดยผู้บริโภคหลายรายระบุว่า ราคาสินค้าที่สูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง กำลังจำกัดความสามารถในการใช้จ่าย โดยเฉพาะสินค้าราคาแพง เช่น รถยนต์ บ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่บริการบางประเภท เช่น การรับประทานอาหารนอกบ้าน หรือกิจกรรมทางวัฒนธรรม ยังมีแนวโน้มที่ผู้บริโภคจะใช้จ่ายต่อเนื่อง 

        ข้อมูลยังเผยให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงเกิดในทุกกลุ่มอายุ รายได้ และแนวคิดทางการเมือง โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม (Republicans) ที่แสดงความวิตกมากกว่าค่าเฉลี่ย อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้บริโภคบางส่วนยังคงมีความคาดหวังบวกต่อแนวโน้มราคาหุ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า และมองว่าเศรษฐกิจจะสามารถฟื้นตัวได้ในระยะยาว

        อีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตาคือ ความตั้งใจซื้อบ้านที่ยังคงลดลงต่อเนื่อง สะท้อนถึงผลกระทบจากราคาบ้านที่สูงและอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบหลายปี ขณะที่แผนการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่การท่องเที่ยวในประเทศกลับลดลง

        สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าไม่จำเป็น (non-essential goods) หรือสินค้าฟุ่มเฟือย รวมถึงอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ความเปลี่ยนแปลงในระดับความเชื่อมั่นผู้บริโภคดังกล่าวถือเป็นสัญญาณเตือน โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าหลักของอัญมณีและเครื่องประดับจากประเทศไทย

        เมื่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง ผู้บริโภคย่อมชะลอการใช้จ่ายในสินค้าหรูหรา ซึ่งรวมถึงอัญมณีและเครื่องประดับ อุตสาหกรรมอัญมณีไทยจึงอาจเผชิญกับคำสั่งซื้อนำเข้าที่ชะลอตัวลงจากตลาดสหรัฐฯ ในระยะสั้น ผู้ประกอบการไทยควรจับตาความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเร่งขยายตลาดใหม่ในประเทศที่มีศักยภาพ เช่น ตะวันออกกลาง อินเดีย และจีน เพื่อกระจายความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพของรายได้จากการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง


จัดทำโดย นางสาววาสนา สมเนตร์

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

 กรกฎาคม 2568



เอกสารแนบ


ความคิดเห็น


ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ลดลง กระทบต่อการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย

Jul 24, 2025
1331 views
0 share

        ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ กลับลดลงอีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2568 หลังจากฟื้นตัวเล็กน้อยในเดือนพฤษภาคม สะท้อนถึงความกังวลของประชาชนต่อสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน โดยเฉพาะด้านเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และความไม่มั่นคงของตลาดแรงงาน ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการจับจ่ายสินค้าและบริการในอนาคต

        รายงานจาก The Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence Index) เดือนมิถุนายนลดลงเหลือ 100.4 จากระดับ 101.3 ในเดือนพฤษภาคม ขณะที่ดัชนีย่อยด้านการคาดการณ์อนาคต (Expectations Index) ลดลงเช่นกัน และยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 80 ซึ่งในเชิงสถิติถือเป็นระดับที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย

        ความกังวลด้านเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ โดยผู้บริโภคหลายรายระบุว่า ราคาสินค้าที่สูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง กำลังจำกัดความสามารถในการใช้จ่าย โดยเฉพาะสินค้าราคาแพง เช่น รถยนต์ บ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่บริการบางประเภท เช่น การรับประทานอาหารนอกบ้าน หรือกิจกรรมทางวัฒนธรรม ยังมีแนวโน้มที่ผู้บริโภคจะใช้จ่ายต่อเนื่อง 

        ข้อมูลยังเผยให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงเกิดในทุกกลุ่มอายุ รายได้ และแนวคิดทางการเมือง โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม (Republicans) ที่แสดงความวิตกมากกว่าค่าเฉลี่ย อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้บริโภคบางส่วนยังคงมีความคาดหวังบวกต่อแนวโน้มราคาหุ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า และมองว่าเศรษฐกิจจะสามารถฟื้นตัวได้ในระยะยาว

        อีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตาคือ ความตั้งใจซื้อบ้านที่ยังคงลดลงต่อเนื่อง สะท้อนถึงผลกระทบจากราคาบ้านที่สูงและอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบหลายปี ขณะที่แผนการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่การท่องเที่ยวในประเทศกลับลดลง

        สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าไม่จำเป็น (non-essential goods) หรือสินค้าฟุ่มเฟือย รวมถึงอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ความเปลี่ยนแปลงในระดับความเชื่อมั่นผู้บริโภคดังกล่าวถือเป็นสัญญาณเตือน โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าหลักของอัญมณีและเครื่องประดับจากประเทศไทย

        เมื่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง ผู้บริโภคย่อมชะลอการใช้จ่ายในสินค้าหรูหรา ซึ่งรวมถึงอัญมณีและเครื่องประดับ อุตสาหกรรมอัญมณีไทยจึงอาจเผชิญกับคำสั่งซื้อนำเข้าที่ชะลอตัวลงจากตลาดสหรัฐฯ ในระยะสั้น ผู้ประกอบการไทยควรจับตาความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเร่งขยายตลาดใหม่ในประเทศที่มีศักยภาพ เช่น ตะวันออกกลาง อินเดีย และจีน เพื่อกระจายความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพของรายได้จากการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง


จัดทำโดย นางสาววาสนา สมเนตร์

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

 กรกฎาคม 2568



เอกสารแนบ


ความคิดเห็น


เราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายคุกกี้   ตั้งค่า ยอมรับ

×
140 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ชั้น 4 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
โทรศัพท์: 0 2634 4999 ต่อ 444
โทรสาร: 0 2634 4970