ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

กลยุทธ์ในธุรกิจอัญมณีจากเหมืองสู่ตลาด

Oct 10, 2022
2117 views
0 share

            ผู้ทำเหมืองอัญมณีกำลังเร่งการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการพลอยสีที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ดังจะเห็นได้จากการประมูลในปีนี้ซึ่งสร้างผลงานทำลายสถิติที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันแหล่งอัญมณีใหม่ๆ ก็ได้เปิดโอกาสความเป็นไปได้มากมายให้แก่ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ

            ความต้องการพลอยสีแซงหน้าปริมาณสินค้าอัญมณีประเภทอื่นที่เข้าสู่ตลาด เนื่องจากผู้ประกอบการต้องการเติมสินค้าหลังผ่านพ้นวิกฤติการระบาดของโควิด 19 อันส่งผลให้เกิดอุปสรรคด้านการผลิตและข้อจำกัดในการเดินทาง ผู้ทำเหมืองอัญมณีรายงานว่าการประมูลในปี 2022 ทำยอดขายสูงและหลายครั้งทำลายสถิติ ขณะที่อัญมณีชนิดใหม่ๆ ก็พร้อมสนองความต้องการพลอยสีที่หลากหลายยิ่งขึ้นทั้งในฝั่งธุรกิจและฝั่งผู้บริโภค


ทับทิมจากเหมือง Montepuez ในโมซัมบิก

            เหมืองมรกต Kagem ของ Gemfields ในแซมเบียและเหมืองทับทิม Montepuez ในโมซัมบิกได้กลับมาดำเนินการผลิตในระดับเดิมก่อนเกิดโรคระบาด Sean Gilbertson ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Gemfields คาดการณ์ว่าเหมือง Kagem น่าจะผลิตมรกตและเบริลได้ 37,993,000 กะรัตในปีนี้ ขณะที่เหมือง Montepuez มีเป้าหมายการผลิตทับทิมและคอรันดัมในปี 2022 อยู่ที่ 1,073,648 กะรัต

            เหมืองทั้งสองแห่งหยุดดำเนินงานชั่วคราวในเดือนมีนาคม 2020 และค่อยๆ กลับมาดำเนินงานส่วนหลักในอีกหนึ่งปีต่อมาจนกระทั่งมีกำลังการผลิตเท่าระดับปกติเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมปี 2021

สถิติยอดขายพลอยผ่านการประมูลพุ่ง

            การจำกัดการเดินทาง ระยะเวลากักตัว และข้อจำกัดในการรวมกลุ่มเนื่องจากโรคระบาดส่งผลกระทบต่อกำหนดการประมูลของ Gemfields ทางบริษัทจึงต้องหันไปพึ่งการประมูลทางออนไลน์และจัดตารางกำหนดการใหม่

            ในปี 2020 Gemfields จัดงานประมูลอัญมณีเชิงพาณิชย์จากเหมือง Kagem ในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 จากนั้นจึงเปลี่ยนไปจัดงานประมูลขนาดเล็กในหลายๆ เมืองระหว่างเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมปี 2020 เพื่อดำเนินธุรกิจต่อไปในช่วงล็อคดาวน์ท่ามกลางความท้าทายจากสถานการณ์โรคระบาด แต่แล้วในปีต่อมาบริษัทกลับทำรายได้จากงานประมูลในระดับทำลายสถิติ และแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อเนื่องในปี 2022 “ความสำเร็จจากงานประมูลในหลายเมืองบวกกับการเริ่มใช้ระบบเสนอราคาประมูลทางออนไลน์ช่วยให้เรารับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาได้ดียิ่งขึ้น” Gilbertson เผย


มรกตจากเหมือง Kagem ในแซมเบีย

            ยอดขายปี 2022 นี้แซงหน้าช่วงก่อนโควิดไปแล้ว รายได้ของ Gemfields จากงานประมูลมรกตจากเหมือง Kagem สองครั้งและงานประมูลทับทิมหนึ่งครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 ขึ้นไปแตะระดับ 181 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่าสถิติก่อนหน้าที่ 93 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปี 2018

            ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา งานประมูลมรกตของเหมือง Kagem ที่กรุงเทพซึ่งเป็นการประมูลมรกตครั้งที่สองของบริษัทในปี 2022 สร้างสถิติใหม่ด้วยการทำรายได้สูงสุดและราคาเฉลี่ยต่อกะรัตสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในงานประมูลอัญมณีจากเหมือง Kagem ของ Gemfields ทั้ง 41 ครั้งนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2009

            รายได้จากการประมูลมรกตของเหมือง Kagem ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 อยู่ที่ 85.7 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิมที่ 92.3 ล้านเหรียญสหรัฐตลอดปี 2021 ในขณะที่งานประมูลทับทิมของ Gemfields ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาสร้างรายได้ 95.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นสถิติใหม่ในงานประมูลของ Gemfields เท่าที่เคยมีมา

            “ตัวเลขเหล่านี้ช่วยยืนยันว่าตลาดมรกตและทับทิมมีความต้องการสูงเป็นพิเศษ โดยปัจจัยผลักดันมาจากการที่ลูกค้าสามารถเดินทางและพบปะกันได้อีกครั้งหลังจากเผชิญความท้าทายระหว่างการระบาดของโควิด 19” Gilbertson กล่าว

            ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่บริษัท มรกตแซมเบียและทับทิมโมซัมบิกของ Gemfields ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในตลาด “สินค้าเป็นที่ต้องการสูงในจีนซึ่งตลาดสินค้าหรูหราเติบโตอย่างต่อเนื่อง จีนกลายเป็นตลาดที่แข็งแกร่งสำหรับอัญมณีของเรา เนื่องจากตลาดจีนเชื่อมั่นว่า Gemfields เป็นบริษัทผู้จัดหาอัญมณีที่มีความมั่นคงและเชื่อถือได้” เขาเสริม

อัญมณีสีน้ำเงินแหล่งใหม่ในแทนซาเนีย

            อัญมณีสองชนิดที่ได้รับความนิยมสูงอย่างสปิเนลและเพริดอตกำลังจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นจากการค้นพบแหล่งอัญมณีคุณภาพแห่งใหม่ Mahenge Gems นำเสนอโคบอลต์สปิเนลจากแหล่งอัญมณีใหม่ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองมาเฮนจ์ในแทนซาเนียไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 12.5 ไมล์

            ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 ผู้ทำเหมืองเริ่มนำเสนอตัวอย่างผลึกสีน้ำเงินขนาดใหญ่ซึ่งคาดกันว่าเป็นโคบอลต์สปิเนลที่หายาก ไม่ใช่สปิเนลสีน้ำเงินธรรมดา สถาบันอัญมณีศาสตร์ของสวิตเซอร์แลนด์ (SSEF) ได้ทำการวิเคราะห์ตัวอย่างอย่างละเอียด และยืนยันว่าผลึกดังกล่าวมีโคบอลต์เป็นองค์ประกอบที่ทำให้เกิดสี (Chromophore) ผสมกับเหล็ก


โคบอลต์สปิเนลในแทนซาเนีย

            SSEF พบว่ามลทินในสปิเนลสีน้ำเงินโคบอลต์จากแทนซาเนียนี้คล้ายคลึงกับสปิเนลสีแดงจากโมโรโกโร (Morogoro) ในแทนซาเนียตะวันออก กล่าวคือเป็นชั้นบางรูปเรขาคณิตโดยมีสีสอดแทรกและเส้นอนุภาคบางๆ เมื่อตรวจด้วยวิธีรามานสเปกโทรสโคปี (Raman Spectroscopy) ก็จะพบอะพาไทต์ที่ไม่มีสีและกลุ่มมลทินเซอร์คอนขนาดเล็กอีกด้วย

            “สปิเนลสีน้ำเงินโคบอลต์จากแหล่งใหม่ในแทนซาเนียนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในแวดวงธุรกิจ” Dr. Michael Krzemnicki ผู้อำนวยการ SSEF กล่าว “อีกทั้งยังเป็นอัญมณีที่ควรค่าแก่การศึกษาจากมุมมองของนักอัญมณีศาสตร์ด้วย เนื่องจากเป็นสปิเนลที่มีคุณสมบัติเฉพาะทางอัญมณีอันเป็นประโยชน์ต่อการบ่งชี้แหล่งที่มา”

            แม้ว่าโคบอลต์สปิเนลจากแทนซาเนียมีคุณสมบัติทางเคมีคล้ายคลึงกับโคบอลต์สปิเนลจากแหล่งอื่นๆ ในเวียดนาม แต่อัญมณีจากแทนซาเนียมีขนาด 1 ถึง 40 กะรัต และมีสีตั้งแต่สีน้ำเงินอิเล็กทริกนีออนจนถึงน้ำเงินเดนิม ในขณะที่สปิเนลสีน้ำเงินโคบอลต์จากเขต Luc Yen ในเวียดนามนั้นมักมีขนาดไม่เกิน 1 กะรัต และแม้ว่าอัญมณีจากเวียดนามจะได้รับคำบรรยายว่ามีสี “น้ำเงินนีออนคล้ายน้ำยาเช็ดกระจก” แต่ก็มักมีสีอ่อนค่อนไปทางสีพาสเทลเมื่อเทียบกับสีน้ำเงินอิเล็กทริกแบบอัญมณีที่พบในมาเฮนจ์ สปิเนลสีน้ำเงินโคบอลต์ที่เพิ่งค้นพบบางส่วนมีสีน้ำเงินนีออนและน้ำเงินบริสุทธิ์โดยไม่มีสีเทามาเจือปนเลย

            Wez Barber ผู้อำนวยการของ Mahenge Gems กล่าวว่าโคบอลต์สปิเนลจากแทนซาเนียดึงดูดความสนใจของนักสะสม นักลงทุน และนักออกแบบเครื่องประดับ “เป้าหมายหลักของเราคือญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตเต็มที่แล้ว อีกทั้งมีผู้สนใจและผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีจำนวนมากที่เข้าใจถึงความหายากของอัญมณีชนิดนี้” เขาให้ความเห็น

            ราคาขายของสปิเนลสีน้ำเงินโคบอลต์ธรรมชาติจาก Mahenge Gems เริ่มต้นที่ 2,000 เหรียญสหรัฐจนถึงราคาต่อกะรัตที่ใกล้เคียงกับโคบอลต์สปิเนลจาก Luc Yen ในเวียดนาม อัญมณีกลุ่มนี้ไม่ได้ผ่านการปรับปรุงคุณภาพใดๆ และได้รับการรับรองโดย SSEF, GRS GemResearch Swisslab AG และ ICA GemLab

ทางเลือกอัญมณีสีเขียว

            เพริดอตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ Fuli Gemstones ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โครงการเหมืองแร่ Yiqisong Nanshan ของทางบริษัทตั้งอยู่ที่เชิงเขาฉางไป๋ซานในจีน โดยมีกำหนดเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2024 และจะค่อยๆ เพิ่มกำลังการผลิตตลอดระยะเวลาหกปีจนบรรลุเป้าหมายสูงสุดที่ 300,000 ตันต่อปีตั้งแต่ปี 2030 เป็นต้นไป

            “Fuli Gemstones จะเป็นผู้จัดหาเพริดอตรายหลักในตลาดโลกเมื่อเหมืองของเราเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต” Pia Tonna ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัทกล่าว “การทดสอบตัวอย่างในขั้นตอนการสำรวจเหมืองแสดงให้เห็นว่าเหมือง Yiqisong Nanshan สามารถผลิตเพริดอตได้หลายขนาด ซึ่งจะช่วยให้เราส่งมอบอัญมณีได้อย่างต่อเนื่องสำหรับการผลิตเครื่องประดับทุกรูปแบบ ตั้งแต่อัญมณีเม็ดเดี่ยวขนาดใหญ่ที่ใช้ในชุดเครื่องประดับระดับคุณภาพสูง ไปจนถึงอัญมณีขนาดไม่ถึง 1 กะรัตสำหรับเครื่องประดับมาตรฐานขนาดเล็ก”


เพริดอตจากเหมืองแร่ Yiqisong Nanshan

            Tonna ระบุว่าโครงสร้างธุรกิจของ Fuli Gemstones มีลักษณะบูรณาการ กล่าวคือมีตั้งแต่การทำเหมือง การคัดแยก การจัดเกรด การตัดแต่งและเจียระไน ไปจนถึงการขายและการตลาด บริษัทไม่ได้ขายอัญมณีก้อน ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ เพริดอตที่ตัดแต่งและเจียระไนแล้ว เพริดอตเม็ดกลม และอัญมณีเพริดอตแบบไม่เจียระไน อัญมณีของ Fuli มีสีตั้งแต่สีเขียวบริสุทธิ์จนถึงเขียวอมเหลือง เหลืองอมเขียว เขียวอมน้ำตาล และน้ำตาล

            “เพริดอตเป็นอัญมณีธรรมชาติอย่างแท้จริง เพราะมักจะไม่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพด้วยความร้อนซึ่งแตกต่างจากอัญมณีส่วนใหญ่ที่ขายกันอยู่ทุกวันนี้ ความงามของเพริดอตระดับคุณภาพอัญมณีที่หลายคนชื่นชอบกันนั้นเป็นความงามตามธรรมชาติ โดยทั่วแล้วการปรับปรุงเพริดอตจะมีแค่การตัดแต่งเจียระไนและการนำไปตกแต่งในชิ้นงานเครื่องประดับเท่านั้น” เธออธิบาย

            ระหว่างเตรียมเริ่มต้นการผลิตอัญมณีเชิงพาณิชย์ บริษัทได้กระตุ้นความสนใจที่มีต่อเพริดอตและนำเสนอเพริดอตในฐานะอัญมณีที่แปลกใหม่และมีชีวิตชีวา “ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เราได้ให้ความรู้แก่ภาคอุตสาหกรรมและผู้บริโภคปลายทางเกี่ยวกับประวัติและความเป็นมาของเพริดอตผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย การร่วมงานกับนักออกแบบ และการเป็นผู้สนับสนุนในโครงการต่างๆ จะเห็นได้ว่าผู้ผลิตเครื่องประดับอิสระชั้นนำเริ่มหันมาใช้เพริดอตในผลงานสร้างสรรค์ของตน ตัวอย่างเช่น Taffin, Verdura และ Hemmerle รวมถึงนักออกแบบรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรงด้วย” Tonna กล่าว

            Fuli Gemstones ยังได้ทำงานร่วมกับนักออกแบบเครื่องประดับทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ในการผลิตเครื่องประดับที่ใช้อัญมณีจากตัวอย่างเบื้องต้นของทางบริษัทเพื่อให้เพริดอตเป็นที่รู้จักมากขึ้น โครงการในระยะหลังมานี้ ได้แก่ สร้อยคอสำหรับการเดินบนพรมแดง Magnipheasant โดย Stephen Webster และแหวน Toi et Moi โดย Aurelia & Pierre


ต่างหูเพริดอต โดย Annoushka ร่วมกับ Fuli Gemstones

            นอกจากเข้าร่วมในงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับสำคัญๆ แล้ว Fuli Gemstones จะมีแพลตฟอร์มออนไลน์ของตนเองให้ผู้เกี่ยวข้องในธุรกิจอัญมณีสามารถเข้าถึงคลังสินค้าของทางบริษัทได้ นอกจากนี้ บริษัทกำลังพัฒนาโครงการติดตามแหล่งที่มาสำหรับเพริดอตของตนอีกด้วย

ความยั่งยืนประเด็นสำคัญในธุรกิจอัญมณี

            นอกจากความสำเร็จเชิงพาณิชย์และปริมาณสินค้าอัญมณีป้อนเข้าที่เพียงพอแล้ว บริษัทอัญมณียังต้องกำหนดให้การทำเหมืองอย่างถูกต้องและความยั่งยืนเป็นวัตถุประสงค์หลักอีกประการหนึ่งอีกด้วย Gilbertson ระบุว่านับตั้งแต่ช่วงล็อคดาวน์ ลูกค้าหันมาสนใจประเด็นเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น เช่น การติดตามแหล่งที่มาและความโปร่งใสของวงจรอุปทาน

            เขากล่าวว่า Gemfields เป็นพันธมิตรนำร่องของเทคโนโลยีติดตามแหล่งที่มาของ Gubelin และมุ่งมั่นที่จะช่วยพัฒนาชุมชนในบริเวณที่ตั้งเหมือง

            “ในแง่การดำเนินงาน เหมือง Montepuez ของ Gemfields สร้างตำแหน่งงานให้คนราว 1,426 คน ในจำนวนนี้ร้อยละ 95 เป็นชาวโมซัมบิก คนงานเหล่านี้ได้รับเงินเดือนสูงกว่าระดับค่าจ้างที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต และมีสภาพการทำงานที่ช่วยปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัย นอกจากนี้ ประชากรในท้องถิ่นยังมีโอกาสเข้าทำงานในตำแหน่งอื่นๆ อีกหลายพันตำแหน่งภายในวงจรอุปทานและบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหมือง” Gilbertson ให้ข้อมูล

            โครงการเพื่อชุมชนของ Gemfields ได้แก่ ศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพสำหรับเยาวชนชายและหญิงอายุเจ็ดปีขึ้นไปราว 2,100 คน การให้เงินทุนสนับสนุนการก่อสร้างโรงเรียน การก่อตั้งคลินิกสุขภาพเคลื่อนที่ และการช่วยเหลือประชากรในหมู่บ้านระหว่างเกิดโรคระบาด

            Tonna จาก Fuli Gemstones ระบุว่า ความยั่งยืนและการทำเหมืองอย่างถูกต้องถือเป็นความรับผิดชอบของอุตสาหกรรมพลอยสีต่อโลกใบนี้และผู้อยู่อาศัย


เหมือง Montepuez ในโมซัมบิก

             “การทำเหมืองของเราใช้วิธีการทำอุโมงค์ขุดและถมเป็นหลัก โดยแทบทุกอย่างที่สกัดออกมาจากอุโมงค์เหมืองจะถูกนำไปใช้ต่อ หินบะซอลต์และทรายโอลิวีนมีประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลายในภาคอุตสาหกรรมเช่นเดียวกับอัญมณี หินบะซอลต์สามารถนำไปใช้ในการก่อสร้าง ส่วนทรายโอลิวีนก็เป็นวัสดุขัดถูทางเลือกแบบธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” เธอกล่าว

หนทางข้างหน้าของธุรกิจอัญมณี

            Gilbertson กล่าวว่า หลังจาก Gemfields ทำผลงานโดดเด่นในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ทางบริษัทก็คาดว่าจะทำรายได้เพิ่มอีกในช่วงครึ่งปีหลัง 2022 เช่นกัน แม้ว่ามูลค่าอาจไม่สูงเท่าก็ตาม 

            บริษัทจะยังคงเสริมสร้างสถานะการเป็นผู้ทำเหมืองชั้นนำระดับโลกที่จัดหามรกต ทับทิม และแซปไฟร์จากแอฟริกาอย่างมีความรับผิดชอบ Gemfields วางแผนเปิดโรงงานปรับปรุงคุณภาพอัญมณีแห่งที่สองที่ Montepuez โดยตั้งเป้าว่าจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตของเหมืองเป็นสามเท่า นอกจากนี้ Gilbertson เผยว่า บริษัทยังวางเป้าหมายที่จะขอสัมปทานแซปไฟร์ในแอฟริกาเพื่อให้กิจการของบริษัทครอบคลุมอัญมณีสามอันดับแรกทั้งหมด 

            “ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เราได้เดินหน้าปรับสัดส่วนการลงทุนในกิจการของเราให้มุ่งเน้นไปยังพลอยสีสามอันดับแรก ได้แก่ ทับทิม มรกต และแซปไฟร์ จากแหล่งอัญมณีในแอฟริกา เรามุ่งหวังว่าจะดำเนินกิจการที่ครอบคลุมอัญมณีทั้งสามชนิดนี้ และกำลังค้นหาโอกาสที่เหมาะสมสำหรับการทำเหมืองแซปไฟร์ในแอฟริกาเพิ่มเติม จากเดิมที่มีเหมืองทับทิมและเหมืองมรกตซึ่งประสบความสำเร็จอยู่แล้ว” Gilbertson เผย

            เขาเสริมว่า Gemfields ตั้งใจจะขยายกิจกรรมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นความต้องการพลอยสีและพัฒนากิจกรรมของมูลนิธิ Gemfields Foundation เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชนและโครงการอนุรักษ์ในภูมิภาคแอฟริกาส่วนใต้ของทะเลทรายซาฮารา

            ในขณะที่ Mahenge Gems พบว่าธุรกิจขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วหลังจากยอดขายของธุรกิจอัญมณีตกต่ำลงมากในช่วงที่การระบาดรุนแรง Barber กล่าวว่าบริษัททำยอดขายได้จำกัดในช่วงล็อคดาวน์ เนื่องจากบริษัทไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจ Mahenge Gems ไม่ขายสินค้าทางออนไลน์และทำธุรกิจกับลูกค้าประจำที่ทำกิจการมานานแล้วเท่านั้น

            ธุรกิจอัญมณีกระเตื้องขึ้นมากหลังจากสถานการณ์ดีขึ้นในปี 2021 “เราเชี่ยวชาญด้านอัญมณีจากแทนซาเนียและแอฟริกาตะวันออก สปิเนลสีชมพูและสีแดงได้รับความนิยมสูงอย่างต่อเนื่องและตลาดทุกแห่งก็กำลังเติบโต” Barber กล่าว

            Tonna จาก Fuli Gemstones คาดว่าธุรกิจจะมีแนวโน้มที่ดีและราคาเพริดอตน่าจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เธอระบุว่าราคาเพริดอตเพิ่มขึ้น โดยราคาเพริดอตขนาดใหญ่มีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้นอยู่ที่ราวร้อยละ 5.4 จากช่วงปี 2010 จนมาถึงปี 2021 เธอเสริมว่าความต้องการในตลาดยังได้รับแรงกระตุ้นจากการที่ผู้ผลิตและนักออกแบบเครื่องประดับมองหาอัญมณีอื่นๆ นอกเหนือจากมรกต แซปไฟร์ และทับทิม เพื่อนำมาสร้างสรรค์ผลงานของตน




ข้อมูลอ้างอิง


JNA. 2022. Gemstones: Strategies from mine to market. [Online]. Available at https://news.jewellerynet.com/en/jnanews/features/24766.

เอกสารแนบ


ความคิดเห็น


ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

กลยุทธ์ในธุรกิจอัญมณีจากเหมืองสู่ตลาด

Oct 10, 2022
2117 views
0 share

            ผู้ทำเหมืองอัญมณีกำลังเร่งการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการพลอยสีที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ดังจะเห็นได้จากการประมูลในปีนี้ซึ่งสร้างผลงานทำลายสถิติที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันแหล่งอัญมณีใหม่ๆ ก็ได้เปิดโอกาสความเป็นไปได้มากมายให้แก่ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ

            ความต้องการพลอยสีแซงหน้าปริมาณสินค้าอัญมณีประเภทอื่นที่เข้าสู่ตลาด เนื่องจากผู้ประกอบการต้องการเติมสินค้าหลังผ่านพ้นวิกฤติการระบาดของโควิด 19 อันส่งผลให้เกิดอุปสรรคด้านการผลิตและข้อจำกัดในการเดินทาง ผู้ทำเหมืองอัญมณีรายงานว่าการประมูลในปี 2022 ทำยอดขายสูงและหลายครั้งทำลายสถิติ ขณะที่อัญมณีชนิดใหม่ๆ ก็พร้อมสนองความต้องการพลอยสีที่หลากหลายยิ่งขึ้นทั้งในฝั่งธุรกิจและฝั่งผู้บริโภค


ทับทิมจากเหมือง Montepuez ในโมซัมบิก

            เหมืองมรกต Kagem ของ Gemfields ในแซมเบียและเหมืองทับทิม Montepuez ในโมซัมบิกได้กลับมาดำเนินการผลิตในระดับเดิมก่อนเกิดโรคระบาด Sean Gilbertson ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Gemfields คาดการณ์ว่าเหมือง Kagem น่าจะผลิตมรกตและเบริลได้ 37,993,000 กะรัตในปีนี้ ขณะที่เหมือง Montepuez มีเป้าหมายการผลิตทับทิมและคอรันดัมในปี 2022 อยู่ที่ 1,073,648 กะรัต

            เหมืองทั้งสองแห่งหยุดดำเนินงานชั่วคราวในเดือนมีนาคม 2020 และค่อยๆ กลับมาดำเนินงานส่วนหลักในอีกหนึ่งปีต่อมาจนกระทั่งมีกำลังการผลิตเท่าระดับปกติเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมปี 2021

สถิติยอดขายพลอยผ่านการประมูลพุ่ง

            การจำกัดการเดินทาง ระยะเวลากักตัว และข้อจำกัดในการรวมกลุ่มเนื่องจากโรคระบาดส่งผลกระทบต่อกำหนดการประมูลของ Gemfields ทางบริษัทจึงต้องหันไปพึ่งการประมูลทางออนไลน์และจัดตารางกำหนดการใหม่

            ในปี 2020 Gemfields จัดงานประมูลอัญมณีเชิงพาณิชย์จากเหมือง Kagem ในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 จากนั้นจึงเปลี่ยนไปจัดงานประมูลขนาดเล็กในหลายๆ เมืองระหว่างเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมปี 2020 เพื่อดำเนินธุรกิจต่อไปในช่วงล็อคดาวน์ท่ามกลางความท้าทายจากสถานการณ์โรคระบาด แต่แล้วในปีต่อมาบริษัทกลับทำรายได้จากงานประมูลในระดับทำลายสถิติ และแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อเนื่องในปี 2022 “ความสำเร็จจากงานประมูลในหลายเมืองบวกกับการเริ่มใช้ระบบเสนอราคาประมูลทางออนไลน์ช่วยให้เรารับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาได้ดียิ่งขึ้น” Gilbertson เผย


มรกตจากเหมือง Kagem ในแซมเบีย

            ยอดขายปี 2022 นี้แซงหน้าช่วงก่อนโควิดไปแล้ว รายได้ของ Gemfields จากงานประมูลมรกตจากเหมือง Kagem สองครั้งและงานประมูลทับทิมหนึ่งครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 ขึ้นไปแตะระดับ 181 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่าสถิติก่อนหน้าที่ 93 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปี 2018

            ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา งานประมูลมรกตของเหมือง Kagem ที่กรุงเทพซึ่งเป็นการประมูลมรกตครั้งที่สองของบริษัทในปี 2022 สร้างสถิติใหม่ด้วยการทำรายได้สูงสุดและราคาเฉลี่ยต่อกะรัตสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในงานประมูลอัญมณีจากเหมือง Kagem ของ Gemfields ทั้ง 41 ครั้งนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2009

            รายได้จากการประมูลมรกตของเหมือง Kagem ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 อยู่ที่ 85.7 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิมที่ 92.3 ล้านเหรียญสหรัฐตลอดปี 2021 ในขณะที่งานประมูลทับทิมของ Gemfields ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาสร้างรายได้ 95.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นสถิติใหม่ในงานประมูลของ Gemfields เท่าที่เคยมีมา

            “ตัวเลขเหล่านี้ช่วยยืนยันว่าตลาดมรกตและทับทิมมีความต้องการสูงเป็นพิเศษ โดยปัจจัยผลักดันมาจากการที่ลูกค้าสามารถเดินทางและพบปะกันได้อีกครั้งหลังจากเผชิญความท้าทายระหว่างการระบาดของโควิด 19” Gilbertson กล่าว

            ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่บริษัท มรกตแซมเบียและทับทิมโมซัมบิกของ Gemfields ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในตลาด “สินค้าเป็นที่ต้องการสูงในจีนซึ่งตลาดสินค้าหรูหราเติบโตอย่างต่อเนื่อง จีนกลายเป็นตลาดที่แข็งแกร่งสำหรับอัญมณีของเรา เนื่องจากตลาดจีนเชื่อมั่นว่า Gemfields เป็นบริษัทผู้จัดหาอัญมณีที่มีความมั่นคงและเชื่อถือได้” เขาเสริม

อัญมณีสีน้ำเงินแหล่งใหม่ในแทนซาเนีย

            อัญมณีสองชนิดที่ได้รับความนิยมสูงอย่างสปิเนลและเพริดอตกำลังจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นจากการค้นพบแหล่งอัญมณีคุณภาพแห่งใหม่ Mahenge Gems นำเสนอโคบอลต์สปิเนลจากแหล่งอัญมณีใหม่ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองมาเฮนจ์ในแทนซาเนียไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 12.5 ไมล์

            ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 ผู้ทำเหมืองเริ่มนำเสนอตัวอย่างผลึกสีน้ำเงินขนาดใหญ่ซึ่งคาดกันว่าเป็นโคบอลต์สปิเนลที่หายาก ไม่ใช่สปิเนลสีน้ำเงินธรรมดา สถาบันอัญมณีศาสตร์ของสวิตเซอร์แลนด์ (SSEF) ได้ทำการวิเคราะห์ตัวอย่างอย่างละเอียด และยืนยันว่าผลึกดังกล่าวมีโคบอลต์เป็นองค์ประกอบที่ทำให้เกิดสี (Chromophore) ผสมกับเหล็ก


โคบอลต์สปิเนลในแทนซาเนีย

            SSEF พบว่ามลทินในสปิเนลสีน้ำเงินโคบอลต์จากแทนซาเนียนี้คล้ายคลึงกับสปิเนลสีแดงจากโมโรโกโร (Morogoro) ในแทนซาเนียตะวันออก กล่าวคือเป็นชั้นบางรูปเรขาคณิตโดยมีสีสอดแทรกและเส้นอนุภาคบางๆ เมื่อตรวจด้วยวิธีรามานสเปกโทรสโคปี (Raman Spectroscopy) ก็จะพบอะพาไทต์ที่ไม่มีสีและกลุ่มมลทินเซอร์คอนขนาดเล็กอีกด้วย

            “สปิเนลสีน้ำเงินโคบอลต์จากแหล่งใหม่ในแทนซาเนียนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในแวดวงธุรกิจ” Dr. Michael Krzemnicki ผู้อำนวยการ SSEF กล่าว “อีกทั้งยังเป็นอัญมณีที่ควรค่าแก่การศึกษาจากมุมมองของนักอัญมณีศาสตร์ด้วย เนื่องจากเป็นสปิเนลที่มีคุณสมบัติเฉพาะทางอัญมณีอันเป็นประโยชน์ต่อการบ่งชี้แหล่งที่มา”

            แม้ว่าโคบอลต์สปิเนลจากแทนซาเนียมีคุณสมบัติทางเคมีคล้ายคลึงกับโคบอลต์สปิเนลจากแหล่งอื่นๆ ในเวียดนาม แต่อัญมณีจากแทนซาเนียมีขนาด 1 ถึง 40 กะรัต และมีสีตั้งแต่สีน้ำเงินอิเล็กทริกนีออนจนถึงน้ำเงินเดนิม ในขณะที่สปิเนลสีน้ำเงินโคบอลต์จากเขต Luc Yen ในเวียดนามนั้นมักมีขนาดไม่เกิน 1 กะรัต และแม้ว่าอัญมณีจากเวียดนามจะได้รับคำบรรยายว่ามีสี “น้ำเงินนีออนคล้ายน้ำยาเช็ดกระจก” แต่ก็มักมีสีอ่อนค่อนไปทางสีพาสเทลเมื่อเทียบกับสีน้ำเงินอิเล็กทริกแบบอัญมณีที่พบในมาเฮนจ์ สปิเนลสีน้ำเงินโคบอลต์ที่เพิ่งค้นพบบางส่วนมีสีน้ำเงินนีออนและน้ำเงินบริสุทธิ์โดยไม่มีสีเทามาเจือปนเลย

            Wez Barber ผู้อำนวยการของ Mahenge Gems กล่าวว่าโคบอลต์สปิเนลจากแทนซาเนียดึงดูดความสนใจของนักสะสม นักลงทุน และนักออกแบบเครื่องประดับ “เป้าหมายหลักของเราคือญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตเต็มที่แล้ว อีกทั้งมีผู้สนใจและผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีจำนวนมากที่เข้าใจถึงความหายากของอัญมณีชนิดนี้” เขาให้ความเห็น

            ราคาขายของสปิเนลสีน้ำเงินโคบอลต์ธรรมชาติจาก Mahenge Gems เริ่มต้นที่ 2,000 เหรียญสหรัฐจนถึงราคาต่อกะรัตที่ใกล้เคียงกับโคบอลต์สปิเนลจาก Luc Yen ในเวียดนาม อัญมณีกลุ่มนี้ไม่ได้ผ่านการปรับปรุงคุณภาพใดๆ และได้รับการรับรองโดย SSEF, GRS GemResearch Swisslab AG และ ICA GemLab

ทางเลือกอัญมณีสีเขียว

            เพริดอตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ Fuli Gemstones ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โครงการเหมืองแร่ Yiqisong Nanshan ของทางบริษัทตั้งอยู่ที่เชิงเขาฉางไป๋ซานในจีน โดยมีกำหนดเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2024 และจะค่อยๆ เพิ่มกำลังการผลิตตลอดระยะเวลาหกปีจนบรรลุเป้าหมายสูงสุดที่ 300,000 ตันต่อปีตั้งแต่ปี 2030 เป็นต้นไป

            “Fuli Gemstones จะเป็นผู้จัดหาเพริดอตรายหลักในตลาดโลกเมื่อเหมืองของเราเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต” Pia Tonna ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัทกล่าว “การทดสอบตัวอย่างในขั้นตอนการสำรวจเหมืองแสดงให้เห็นว่าเหมือง Yiqisong Nanshan สามารถผลิตเพริดอตได้หลายขนาด ซึ่งจะช่วยให้เราส่งมอบอัญมณีได้อย่างต่อเนื่องสำหรับการผลิตเครื่องประดับทุกรูปแบบ ตั้งแต่อัญมณีเม็ดเดี่ยวขนาดใหญ่ที่ใช้ในชุดเครื่องประดับระดับคุณภาพสูง ไปจนถึงอัญมณีขนาดไม่ถึง 1 กะรัตสำหรับเครื่องประดับมาตรฐานขนาดเล็ก”


เพริดอตจากเหมืองแร่ Yiqisong Nanshan

            Tonna ระบุว่าโครงสร้างธุรกิจของ Fuli Gemstones มีลักษณะบูรณาการ กล่าวคือมีตั้งแต่การทำเหมือง การคัดแยก การจัดเกรด การตัดแต่งและเจียระไน ไปจนถึงการขายและการตลาด บริษัทไม่ได้ขายอัญมณีก้อน ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ เพริดอตที่ตัดแต่งและเจียระไนแล้ว เพริดอตเม็ดกลม และอัญมณีเพริดอตแบบไม่เจียระไน อัญมณีของ Fuli มีสีตั้งแต่สีเขียวบริสุทธิ์จนถึงเขียวอมเหลือง เหลืองอมเขียว เขียวอมน้ำตาล และน้ำตาล

            “เพริดอตเป็นอัญมณีธรรมชาติอย่างแท้จริง เพราะมักจะไม่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพด้วยความร้อนซึ่งแตกต่างจากอัญมณีส่วนใหญ่ที่ขายกันอยู่ทุกวันนี้ ความงามของเพริดอตระดับคุณภาพอัญมณีที่หลายคนชื่นชอบกันนั้นเป็นความงามตามธรรมชาติ โดยทั่วแล้วการปรับปรุงเพริดอตจะมีแค่การตัดแต่งเจียระไนและการนำไปตกแต่งในชิ้นงานเครื่องประดับเท่านั้น” เธออธิบาย

            ระหว่างเตรียมเริ่มต้นการผลิตอัญมณีเชิงพาณิชย์ บริษัทได้กระตุ้นความสนใจที่มีต่อเพริดอตและนำเสนอเพริดอตในฐานะอัญมณีที่แปลกใหม่และมีชีวิตชีวา “ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เราได้ให้ความรู้แก่ภาคอุตสาหกรรมและผู้บริโภคปลายทางเกี่ยวกับประวัติและความเป็นมาของเพริดอตผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย การร่วมงานกับนักออกแบบ และการเป็นผู้สนับสนุนในโครงการต่างๆ จะเห็นได้ว่าผู้ผลิตเครื่องประดับอิสระชั้นนำเริ่มหันมาใช้เพริดอตในผลงานสร้างสรรค์ของตน ตัวอย่างเช่น Taffin, Verdura และ Hemmerle รวมถึงนักออกแบบรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรงด้วย” Tonna กล่าว

            Fuli Gemstones ยังได้ทำงานร่วมกับนักออกแบบเครื่องประดับทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ในการผลิตเครื่องประดับที่ใช้อัญมณีจากตัวอย่างเบื้องต้นของทางบริษัทเพื่อให้เพริดอตเป็นที่รู้จักมากขึ้น โครงการในระยะหลังมานี้ ได้แก่ สร้อยคอสำหรับการเดินบนพรมแดง Magnipheasant โดย Stephen Webster และแหวน Toi et Moi โดย Aurelia & Pierre


ต่างหูเพริดอต โดย Annoushka ร่วมกับ Fuli Gemstones

            นอกจากเข้าร่วมในงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับสำคัญๆ แล้ว Fuli Gemstones จะมีแพลตฟอร์มออนไลน์ของตนเองให้ผู้เกี่ยวข้องในธุรกิจอัญมณีสามารถเข้าถึงคลังสินค้าของทางบริษัทได้ นอกจากนี้ บริษัทกำลังพัฒนาโครงการติดตามแหล่งที่มาสำหรับเพริดอตของตนอีกด้วย

ความยั่งยืนประเด็นสำคัญในธุรกิจอัญมณี

            นอกจากความสำเร็จเชิงพาณิชย์และปริมาณสินค้าอัญมณีป้อนเข้าที่เพียงพอแล้ว บริษัทอัญมณียังต้องกำหนดให้การทำเหมืองอย่างถูกต้องและความยั่งยืนเป็นวัตถุประสงค์หลักอีกประการหนึ่งอีกด้วย Gilbertson ระบุว่านับตั้งแต่ช่วงล็อคดาวน์ ลูกค้าหันมาสนใจประเด็นเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น เช่น การติดตามแหล่งที่มาและความโปร่งใสของวงจรอุปทาน

            เขากล่าวว่า Gemfields เป็นพันธมิตรนำร่องของเทคโนโลยีติดตามแหล่งที่มาของ Gubelin และมุ่งมั่นที่จะช่วยพัฒนาชุมชนในบริเวณที่ตั้งเหมือง

            “ในแง่การดำเนินงาน เหมือง Montepuez ของ Gemfields สร้างตำแหน่งงานให้คนราว 1,426 คน ในจำนวนนี้ร้อยละ 95 เป็นชาวโมซัมบิก คนงานเหล่านี้ได้รับเงินเดือนสูงกว่าระดับค่าจ้างที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต และมีสภาพการทำงานที่ช่วยปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัย นอกจากนี้ ประชากรในท้องถิ่นยังมีโอกาสเข้าทำงานในตำแหน่งอื่นๆ อีกหลายพันตำแหน่งภายในวงจรอุปทานและบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหมือง” Gilbertson ให้ข้อมูล

            โครงการเพื่อชุมชนของ Gemfields ได้แก่ ศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพสำหรับเยาวชนชายและหญิงอายุเจ็ดปีขึ้นไปราว 2,100 คน การให้เงินทุนสนับสนุนการก่อสร้างโรงเรียน การก่อตั้งคลินิกสุขภาพเคลื่อนที่ และการช่วยเหลือประชากรในหมู่บ้านระหว่างเกิดโรคระบาด

            Tonna จาก Fuli Gemstones ระบุว่า ความยั่งยืนและการทำเหมืองอย่างถูกต้องถือเป็นความรับผิดชอบของอุตสาหกรรมพลอยสีต่อโลกใบนี้และผู้อยู่อาศัย


เหมือง Montepuez ในโมซัมบิก

             “การทำเหมืองของเราใช้วิธีการทำอุโมงค์ขุดและถมเป็นหลัก โดยแทบทุกอย่างที่สกัดออกมาจากอุโมงค์เหมืองจะถูกนำไปใช้ต่อ หินบะซอลต์และทรายโอลิวีนมีประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลายในภาคอุตสาหกรรมเช่นเดียวกับอัญมณี หินบะซอลต์สามารถนำไปใช้ในการก่อสร้าง ส่วนทรายโอลิวีนก็เป็นวัสดุขัดถูทางเลือกแบบธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” เธอกล่าว

หนทางข้างหน้าของธุรกิจอัญมณี

            Gilbertson กล่าวว่า หลังจาก Gemfields ทำผลงานโดดเด่นในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ทางบริษัทก็คาดว่าจะทำรายได้เพิ่มอีกในช่วงครึ่งปีหลัง 2022 เช่นกัน แม้ว่ามูลค่าอาจไม่สูงเท่าก็ตาม 

            บริษัทจะยังคงเสริมสร้างสถานะการเป็นผู้ทำเหมืองชั้นนำระดับโลกที่จัดหามรกต ทับทิม และแซปไฟร์จากแอฟริกาอย่างมีความรับผิดชอบ Gemfields วางแผนเปิดโรงงานปรับปรุงคุณภาพอัญมณีแห่งที่สองที่ Montepuez โดยตั้งเป้าว่าจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตของเหมืองเป็นสามเท่า นอกจากนี้ Gilbertson เผยว่า บริษัทยังวางเป้าหมายที่จะขอสัมปทานแซปไฟร์ในแอฟริกาเพื่อให้กิจการของบริษัทครอบคลุมอัญมณีสามอันดับแรกทั้งหมด 

            “ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เราได้เดินหน้าปรับสัดส่วนการลงทุนในกิจการของเราให้มุ่งเน้นไปยังพลอยสีสามอันดับแรก ได้แก่ ทับทิม มรกต และแซปไฟร์ จากแหล่งอัญมณีในแอฟริกา เรามุ่งหวังว่าจะดำเนินกิจการที่ครอบคลุมอัญมณีทั้งสามชนิดนี้ และกำลังค้นหาโอกาสที่เหมาะสมสำหรับการทำเหมืองแซปไฟร์ในแอฟริกาเพิ่มเติม จากเดิมที่มีเหมืองทับทิมและเหมืองมรกตซึ่งประสบความสำเร็จอยู่แล้ว” Gilbertson เผย

            เขาเสริมว่า Gemfields ตั้งใจจะขยายกิจกรรมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นความต้องการพลอยสีและพัฒนากิจกรรมของมูลนิธิ Gemfields Foundation เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชนและโครงการอนุรักษ์ในภูมิภาคแอฟริกาส่วนใต้ของทะเลทรายซาฮารา

            ในขณะที่ Mahenge Gems พบว่าธุรกิจขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วหลังจากยอดขายของธุรกิจอัญมณีตกต่ำลงมากในช่วงที่การระบาดรุนแรง Barber กล่าวว่าบริษัททำยอดขายได้จำกัดในช่วงล็อคดาวน์ เนื่องจากบริษัทไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจ Mahenge Gems ไม่ขายสินค้าทางออนไลน์และทำธุรกิจกับลูกค้าประจำที่ทำกิจการมานานแล้วเท่านั้น

            ธุรกิจอัญมณีกระเตื้องขึ้นมากหลังจากสถานการณ์ดีขึ้นในปี 2021 “เราเชี่ยวชาญด้านอัญมณีจากแทนซาเนียและแอฟริกาตะวันออก สปิเนลสีชมพูและสีแดงได้รับความนิยมสูงอย่างต่อเนื่องและตลาดทุกแห่งก็กำลังเติบโต” Barber กล่าว

            Tonna จาก Fuli Gemstones คาดว่าธุรกิจจะมีแนวโน้มที่ดีและราคาเพริดอตน่าจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เธอระบุว่าราคาเพริดอตเพิ่มขึ้น โดยราคาเพริดอตขนาดใหญ่มีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้นอยู่ที่ราวร้อยละ 5.4 จากช่วงปี 2010 จนมาถึงปี 2021 เธอเสริมว่าความต้องการในตลาดยังได้รับแรงกระตุ้นจากการที่ผู้ผลิตและนักออกแบบเครื่องประดับมองหาอัญมณีอื่นๆ นอกเหนือจากมรกต แซปไฟร์ และทับทิม เพื่อนำมาสร้างสรรค์ผลงานของตน




ข้อมูลอ้างอิง


JNA. 2022. Gemstones: Strategies from mine to market. [Online]. Available at https://news.jewellerynet.com/en/jnanews/features/24766.

เอกสารแนบ

เราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายคุกกี้   ตั้งค่า ยอมรับ

×
140 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ชั้น 4 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
โทรศัพท์: 0 2634 4999 ต่อ 444
โทรสาร: 0 2634 4970
external-site