กระแสความเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรม ในตลาดเครื่องประดับจีน
ภาคธุรกิจเครื่องประดับกำลังเผชิญความท้าทายในโลกยุคหลังการล็อคดาวน์ โดยผู้ผลิตและแบรนด์ต่างๆ ล้วนอาศัยประโยชน์จากศิลปะทางวัฒนธรรมจีน การปรับเปลี่ยนสินค้าให้ทันสมัย และการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
ปี 2022 ภาคธุรกิจเครื่องประดับของจีนยังคงชะงักงันด้วยผลกระทบอันยาวนานจากโรคระบาด ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกสถานการณ์โควิด-19 ในจีนรุนแรงขึ้น รัฐบาลจึงจำเป็นต้องประกาศล็อคดาวน์อย่างเข้มงวด ศูนย์การค้าและร้านค้าตามเมืองใหญ่ๆ ต้องปิดทำการ ขณะที่ธุรกิจเครื่องประดับแบบอีคอมเมิร์ซซึ่งเติบโตอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงสองปีที่แล้ว กลับต้องเผชิญความท้าทายในเชิงลอจิสติกส์ การแข่งขันที่รุนแรง และกำไรที่ลดต่ำลง ในขณะที่ผู้ขายเครื่องประดับแบบดั้งเดิมก็ต้องพบกับราคาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น ผลกระทบต่อเนื่องจากโควิด-19 และการแข่งขันอย่างดุเดือดกับธุรกิจออนไลน์
แบรนด์ Shenzhen Ganlu Jewelry
โรคระบาดยังได้ส่งผลให้ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อและบริษัทต่างๆ ก็ต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการรับมือกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นหลังการล็อคดาวน์
การสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง
Lukfook Jewellery Group ในฮ่องกง ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1991 และเข้าสู่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ในปี 1994 บริษัทมีผลิตภัณฑ์เครื่องประดับทองและเครื่องประดับอัญมณีมากมาย รวมถึงจุดวางจำหน่ายกว่า 2,800 แห่งทั่วโลก Nancy Wong กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Lukfook ยังคงเล็งเห็นโอกาสในโลกยุคหลังการระบาด เธอให้ความเห็นว่า “เมื่อสถานการณ์ในจีนมั่นคงแล้ว เราคาดว่าความต้องการของผู้บริโภคจะฟื้นตัวดีขึ้นอีกครั้ง เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ การบริโภคภายในประเทศจึงเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน”
Wong ระบุว่า เครื่องประดับหรูน้ำหนักเบาสำหรับใส่ในชีวิตประจำวันเป็นที่ต้องการเพิ่มสูงขึ้น จึงถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต รูปแบบการบริโภคก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน โดยลูกค้าเริ่มคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น อุตสาหกรรมนี้ยังคงมีอัตราการเข้าสู่ตลาดออนไลน์โดยรวมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบริษัทต่างๆ ก็หันมาใช้กลยุทธ์การขายทางออนไลน์ผสานกับออฟไลน์กันมากยิ่งขึ้น
แบรนด์ Lukfook Jewellery
ในขณะเดียวกัน ผู้ซื้อรุ่นใหม่ก็กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย Lukfook จึงได้พัฒนาแบรนด์ย่อยและสายผลิตภัณฑ์ที่เน้นนวัตกรรมและความทันสมัยเพื่อตอบสนองรสนิยมที่แตกต่างกันไปของลูกค้าและเสริมสร้างส่วนแบ่งทางการตลาด ตัวอย่างเช่น แหวนเพชร Code of Light ซึ่งใช้เอฟเฟ็กต์แสงและเงามาฉายคำลงไปบนกล่องของขวัญ ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าที่มีเอกลักษณ์ของผู้บริโภครุ่นใหม่ นอกจากนี้ บริษัทยังใช้แนวคิด NEW 365 ซึ่งหมายถึงการเผยโฉมเครื่องประดับชิ้นใหม่เป็นประจำทุกวันและวิธีนี้ก็ได้ผลเป็นอย่างดี
เครื่องประดับเงินอันเก๋ไก๋ล้ำยุค คุ้มค่า และปรับเปลี่ยนตามความต้องการของแต่ละบุคคลก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ Lukfook เปิดตัวซีรีส์ Silververse เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่นี้ ในปี 2021 บริษัทได้เปิดร้านสาขาแบบอิสระและจุดวางจำหน่ายภายในร้านใหญ่ให้กับแบรนด์ Lukfook Joaillerie ซึ่งมุ่งเป้าหมายไปยังผู้บริโภคเครื่องประดับในตลาดบน โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายในกลุ่มเครื่องประดับระดับคุณภาพสูงและเครื่องประดับที่ได้รับรางวัล
Wong เผยว่า ปัจจุบันบริษัทได้เปิดร้านสำหรับแบรนด์ย่อยไปแล้วกว่า 100 แห่งซึ่งจะนำเสนอสายผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันไป
ในขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์เพชรก็ยังคงได้รับความนิยมแม้ในช่วงเวลาที่ท้าทาย ดังจะเห็นได้จากการที่เครื่องประดับเพชรหลากหลายชนิดของ Lukfook เป็นที่ต้องการอย่างสูง
Wong ระบุว่า “เรามุ่งมั่นที่จะขยายผลิตภัณฑ์และเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าเสมอมา นอกจากชิ้นงานที่เราออกแบบและผลิตเองแล้ว เรายังได้ร่วมงานกับแบรนด์เครื่องประดับอิตาเลียน DIRCE และร่วมงานกับพิพิธภัณฑ์ Dunhuang Museum เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์จากวัฒนธรรมและศิลปะจีนโดยได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง”
Shenzhen Ganlu Jewelry Co Ltd ผู้ประกอบการรายสำคัญในอุตสาหกรรมเครื่องประดับจีน ก็ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย โดยครอบคลุมเครื่องประดับทองหลากกะรัต เครื่องประดับเพชร เครื่องประดับแพลทินัม เครื่องประดับลงยา และเครื่องประดับหยกระดับคุณภาพสูง
แบรนด์ Shenzhen Ganlu Jewelry
Zheng Shengsheng รองประธานของ Ganlu อธิบายว่า ด้วยสถานการณ์ความไม่แน่นอนทั้งในแง่การเมือง เศรษฐกิจ และโควิด-19 ผู้บริโภคจึงใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น ตัวอย่างเช่น Gen Z มักจะหันไปหาตัวเลือกซึ่งสะท้อนรสนิยมที่มีระดับ ในขณะที่เครื่องประดับดีไซน์ทันสมัยสำหรับซื้อมาใส่เองและมีสไตล์ที่ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับแต่ละบุคคลก็เป็นที่ต้องการเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน “นี่คือความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับความต้องการเครื่องประดับตั้งแต่เกิดโควิด-19” Zheng ระบุ
การสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญในตลาดผู้บริโภคที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว Ganlu ให้ความสำคัญเป็นพิเศษแก่การวิจัยและพัฒนา Zheng กล่าวว่าระบบแบบครบวงจรซึ่งประกอบด้วยการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การส่งเสริมทางการตลาด การสร้างช่องทาง การอบรมและให้ความรู้ ตลอดจนกลไกการสร้างแรงจูงใจนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสิ่งที่เธอเรียกว่าการทำยอดขายอย่างร้อนแรง
ผลิตภัณฑ์ควรสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค พร้อมกันนั้นบริษัทก็ควรใช้กลยุทธ์การกำหนดราคาที่ช่วยให้ผู้บริโภคได้รับความคุ้มค่าจากเงินที่จ่ายไป
ในปัจจุบัน Ganlu มีสายงานการผลิตรวมเก้าสายที่เน้นการผลิตในด้านต่างๆ เช่น การลงยา การผลิตชิ้นส่วนจำนวนมาก การขึ้นรูปโลหะด้วยไฟฟ้า (Fine Electroforming) และอื่นๆ โดย Ganlu นำเสนอบริการผลิตสินค้าแบบพิเศษสุดแก่ลูกค้ากลุ่มแบรนด์เครื่องประดับผ่านบริการด้านการออกแบบเพื่อสร้างความแตกต่าง ความสามารถในการรองรับการผลิตปริมาณมาก และเทคโนโลยีการผลิตด้วยคุณภาพสูง
แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมจีน
Beijing Guohua Shopping Center ได้รับการก่อตั้งขึ้นเมื่อกว่า 30 ปีก่อนเพื่อเป็นศูนย์กลางการค้าปลีกที่ครอบคลุมสินค้ามากมาย โดยหลักๆ ได้แก่ เครื่องประดับทอง เครื่องประดับแพลทินัม เครื่องประดับเพชร และเครื่องประดับหยก ที่ตั้งบนถนน Xuanwumen West Street ช่วยให้อาคารแห่งนี้มีความได้เปรียบทางธุรกิจอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
Wang Yi ผู้จัดการทั่วไปของ Beijing Guohua Shopping Mall มองว่าสถานการณ์โรคระบาดส่งผลให้ความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป เธออธิบายว่า “ความต้องการสินค้าเครื่องประดับทองในปักกิ่งเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับหมวดอื่นๆ ผู้บริโภคชาวจีนมองว่าทองเป็นทั้งเครื่องประดับตกแต่งร่างกายและสินค้าเพื่อการลงทุน”
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ชิ้นงานเครื่องประดับตามแบบจีนดั้งเดิมได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยยอดขายของเครื่องประดับทองโบราณได้ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจนี้ คอลเล็กชันที่ได้รับสิทธิ์ถูกต้องและผลิตภัณฑ์สไตล์จีนก็เป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับทอง 5G, ตัวเรือนทอง 9999 ประดับเพชร, ทองลงยา, ทองลายโปร่ง และชิ้นงานทองสามมิติรูปทรงเรขาคณิต เครื่องประดับทองค่อยๆ หลุดออกจากภาพลักษณ์แบบดั้งเดิม เนื่องจากผู้ซื้อรุ่นใหม่เริ่มโพสต์เครื่องประดับทองดีไซน์ทันสมัยลงในแพลตฟอร์มสื่อโซเชียลมีเดียกันมากขึ้น
กำไลทองจาก Beijing Guohua Shopping Center
Wang กล่าวว่า “ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 เครื่องประดับทองซึ่งมีค่ากำเหน็จต่ำกลับมียอดขายสูงขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แสดงให้เห็นว่ารายได้ของผู้บริโภคส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อเครื่องประดับซึ่งเป็นสินค้าที่ไม่ใช่สิ่งจำเป็น”
ในขณะเดียวกัน Wang ตั้งข้อสังเกตว่าความต้องการเครื่องประดับอัญมณีกลับมีส่วนแบ่งตลาดตามรายได้ของผู้ซื้อ เครื่องประดับราคาต่ำน้ำหนักเบาเป็นที่นิยมสูงในตลาดแอคเซสเซอรี ขณะที่ผู้บริโภคสินค้าหรูยังคงต้องการอัญมณีขนาดหลายกะรัตเพื่อสะสมมูลค่า ส่วนการซื้ออัญมณีในกลุ่มผู้ซื้อรายได้ปานกลางยังคงได้รับผลกระทบจากโควิดในช่วงสองปีที่ผ่านมา
Wong จาก Lukfook เห็นตรงกันในเรื่องเครื่องประดับทอง นอกจากเครื่องประดับทองอย่างคอลเล็กชัน Heirloom Fortune และซีรีส์ 5G ทางบริษัทยังนำเสนอของตกแต่งที่ทันสมัยและน่ารักด้วย “ช่วงปีใหม่บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทองที่หลากหลาย เช่น Golden Windmill ซึ่งมีชิ้นส่วนที่ขยับได้และเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี” Wong เผย
Shenzhen Yuehao Jewelry Co Ltd ระบุว่า ผู้บริโภคจีนดูจะปรับตัวได้ดีกับการใช้ชีวิตในสถานการณ์โรคระบาดและการซื้อเครื่องประดับก็กลายเป็นสิ่งที่มีความหมายมากยิ่งขึ้น โดยกล่าวว่า “ผู้บริโภคไม่ได้ซื้อเครื่องประดับเพียงเพื่อแสดงตัวตนหรือตกแต่งร่างกาย เครื่องประดับถือเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีและความปลอดภัย เครื่องประดับทองยอดนิยมที่เป็นงานฝีมือแบบดั้งเดิมนั้นเป็นการผสมผสานระหว่างโชคลาภกับมรดกทางวัฒนธรรม”
ห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจเครื่องประดับ
โรคระบาดได้เปลี่ยนแปลงกลไกห่วงโซ่อุปทานโดยส่งผลทางอ้อมต่อโครงสร้างผลิตภัณฑ์ของกิจการค้าปลีก ก่อนช่วงโควิด-19 ทีมจัดซื้อของ Beijing Guohua จะเดินทางไปยังฮ่องกง ญี่ปุ่น และอิตาลีเพื่อเจรจาทางธุรกิจ ติดตามความเคลื่อนไหวจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ เรียนรู้เกี่ยวกับพัฒนาการในอุตสาหกรรมเครื่องประดับโลก ตลอดจนศึกษาแนวโน้มด้านการออกแบบ ทว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมาทางทีมงานไม่สามารถเดินทางได้และระบบ
โลจิสติกส์ระหว่างประเทศก็ยังไม่แน่นอน Wang กล่าวว่าอุตสาหกรรมนี้จำเป็นต้องรอให้ประเทศกลับมาเปิดพรมแดนและมาตรการด้านการเดินทางผ่อนคลายลง เพื่อที่ผู้ขายเครื่องประดับจะได้เดินทางไปร่วมงานแสดงเครื่องประดับในต่างประเทศเหมือนที่เคยเป็นมา
Ganlu เล็งเห็นโอกาสจากการกลับมาของห่วงโซ่อุปทานในต่างประเทศ ช่วงไม่กี่ปีมานี้ Ganlu ตั้งใจสำรวจพัฒนาการด้านการออกแบบและผลิตเครื่องประดับ โชว์รูมของบริษัททำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มค้าส่ง โดยมีการปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่องให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า บริษัทได้ร่วมงานกับโรงงานเครื่องประดับรายใหญ่ในอิตาลีและตุรกี รวมทั้งอีกหลายประเทศ เพื่อพัฒนาโชว์รูมของทางบริษัทให้เป็นแพลตฟอร์มการจัดซื้อแบบรวมศูนย์สำหรับลูกค้า
การผลิตแบบอัจฉริยะ
Ganlu วางเป้าหมายที่จะเป็นผู้ผลิตเครื่องประดับอัจฉริยะ ที่เข้าใจผู้บริโภคและคาดเดาความต้องการของลูกค้า โดยอาศัยกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ที่สร้างความแตกต่างและนำเสนอเครื่องประดับที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
ในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว Ganlu ได้ตั้งทีมงานพิเศษเพื่อสร้างโซลูชันผลิตภัณฑ์ให้แบรนด์ชั้นแนวหน้าในวงการเครื่องประดับโดยเฉพาะ โดยจะดูแลตั้งแต่เรื่องผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการตลาดและการออกแบบ นอกจากนี้ Ganlu ยังได้ทุ่มทุนสร้างสถาบันวิจัยเครื่องประดับของตนเองเพื่อศึกษาโลหะมีค่า นวัตกรรมทางเทคโนโลยี การกำหนดมาตรฐาน สิทธิบัตรประเภทผลิตภัณฑ์อรรถประโยชน์ (Utility Model Patent) ซึ่งเป็นระบบการให้สิทธิคุ้มครองสิ่งประดิษฐ์ที่มีความใหม่ในเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับรูปร่าง และ/หรือโครงสร้างของผลิตภัณฑ์ซึ่งสามารถปฏิบัติตามได้ และอื่นๆ
หลังจากทำงานด้านการพัฒนามานานห้าปี สถาบันวิจัยเครื่องประดับทำหน้าที่เป็นช่องทางนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลลัพธ์สุดท้ายออกสู่ตลาด บริษัทยังได้สร้างทีม “ผู้จัดการผลิตภัณฑ์” ซึ่ง Ganlu ระบุว่าเป็นตำแหน่งงานที่เพิ่งเริ่มมีในสายงานการผลิตเครื่องประดับ โดยความรับผิดชอบหลักของผู้จัดการคือการแก้ไขปัญหาความซ้ำซ้อนและความกลมกลืนเข้าด้วยกันของผลิตภัณฑ์ อีกทั้งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ด้วย
แบรนด์ Zhejiang Mingr Jewelry
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีก็เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานของ Zhejiang Mingr Jewelry Co Ltd บริษัทมีประสบการณ์ด้านการผลิตเครื่องประดับมานานสองทศวรรษ และได้ปรับปรุงเทคโนโลยีและการออกแบบเครื่องประดับทอง 24 กะรัตให้ทันสมัยมาตลอดห้าปีที่ผ่านมา ผลลัพธ์ที่ได้คือผลิตภัณฑ์ทองที่เน้นการนำเสนอวัฒนธรรมจีน ซึ่งสามารถดึงดูดผู้ซื้อรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดีในปัจจุบัน
ส่วนทางด้าน Yuehao Jewelry ก็เน้นตอบสนองลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทางบริษัทกล่าวว่าแต่ละแบรนด์ล้วนมีความต้องการด้านการวิจัยและพัฒนาแตกต่างกันไป Yuehao Jewelry มุ่งมั่นนำเสนอโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้แบรนด์ต่างๆ เป็นการเฉพาะ โดยอาศัยการสื่อสารที่เพียงพอและการวิจัยตลาดที่ครอบคลุมร่วมกับกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ
ข้อมูลอ้างอิง