ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

เรื่องเล่าจากผู้ประกอบการเครื่องประดับที่ยึดหลักความยั่งยืน กรณีศึกษา Jewelarc International Ltd.

Sep 24, 2024
1280 views
0 share

        Jewelarc International Ltd. ในประเทศไทยเป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ที่สนับสนุนนโยบายความยั่งยืน ขณะที่ตลาดก้าวเข้าสู่แนวทางเพื่อความยั่งยืนมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ประกอบการดำเนินการในส่วนของตนอย่างจริงจังมากขึ้นด้วยการริเริ่มและความคาดหวังที่แตกต่างอย่างชัดเจน 

        การขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืนของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับมีบทบาทอย่างแท้จริงในช่วงวิกฤติโควิด-19 ซึ่งทำให้สาธารณชนเกิดความตระหนักในคุณค่าของสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกกิจการที่จำเป็นต้องเร่งรัดดำเนินการเพื่อให้ผ่านการรับรอง ESG เนื่องจากบางกิจการได้วางเรื่องนี้เป็นหลักในการดำเนินงานอยู่ก่อนแล้ว 

วิสัยทัศน์รักษ์โลก

        Jewelarc International Ltd. ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2543 ได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางความยั่งยืนเมื่อปี 2561 ก่อนการเกิดโรคระบาด และยังคงมุ่งหน้าดำเนินการโครงการต่างๆ ที่ผ่านการคิดและวางแผนมาเป็นอย่างดี

        บริษัทฯ แห่งนี้เป็นผู้ผลิตเครื่องประดับหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการผลิตเครื่องประดับตกแต่งอัญมณีมูลค่าสูงให้กับแบรนด์เครื่องประดับชั้นนำ ไปจนถึงต่างหูเงินประดับคิวบิกเซอร์โคเนียสำหรับลูกค้าที่ต้องการสินค้าปริมาณมาก ผลงานชิ้นสำคัญของบริษัทฯ  ได้แก่ ‘Thalassa’ สร้อยคอประดับแทนซาไนต์ 600 กะรัต และ ‘Zimbaqua’ สร้อยคอประดับอะความารีนจากเหมืองอะความมารีนแห่งแรกที่ดำเนินกิจการทั้งหมดโดยผู้หญิง

        Jewelarc ดำเนินธุรกิจโดยตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดต่อสิ่งแวดล้อมและต่อโลกมาตั้งแต่แรกเริ่ม ความยั่งยืนเป็นหลักในการวางแนวปรัชญาขององค์กรมาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ดำเนินกิจการบนพื้นที่กว้างขวาง ปลอดพลาสติก มีทั้งพื้นที่สีเขียวและกิจกรรมกลางแจ้งตลอดจนพื้นที่พักผ่อนสำหรับพนักงาน อีกทั้งยังได้กันพื้นที่ในบริเวณบริษัทฯ เอาไว้สำหรับปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสินค้าที่จัดส่งออกไปทั้งหมดถูกใส่ในบรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ในครัวเรือนแทนที่จะเป็นพลาสติกชีวภาพ หากบรรจุภัณฑ์เหล่านี้ถูกทิ้งลงในบ่อฝังกลบก็จะย่อยสลายอย่างสมบูรณ์ภายใน 8-12 สัปดาห์โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม


ความกังวลเรื่องวัตถุดิบ

        การดูแลสิ่งแวดล้อมของ Jewelarc ครอบคลุมไปถึงเรื่องวัตถุดิบด้วย โดยวัตถุประสงค์หลักของบริษัทฯ ไม่ใช่แค่เรื่องการตรวจสอบย้อนกลับผ่านบล็อคเชนเท่านั้น แต่เป็นการรู้ถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเครื่องประดับ โดยบริษัทฯ เลือกใช้ทองคำจากเหมืองในมาลีตามหลักการจัดหาวัตถุดิบจากเหมืองเดียว (Single Mine Origin: SMO) โดยแหล่งดังกล่าวมีความรับผิดชอบ ตรวจสอบได้ และปลอดสารปรอทที่ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐานด้านสังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมระดับสูงสุด ทองทุกออนซ์มี QR Code ที่ระบุเหมืองที่มาของทองคำ เส้นทางที่ทองคำเดินทางมาและผลกระทบเชิงบวกระหว่างทางที่เกิดจากทองคำเหล่านี้

        ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่ใช้ทองรีไซเคิล เพราะอาจมาจากแหล่งใดก็ได้ที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานทางจริยธรรมของกิจการ แต่หากคำสั่งซื้อระบุว่าต้องการทองรีไซเคิล บริษัทฯ ก็จะรีไซเคิลทองของกิจการเองเพื่อให้สามารถรักษามาตรฐานทางจริยธรรมและการทวนสอบกลับได้อย่างสมบูรณ์

        บริษัทมีแผนที่จะสต็อกเฉพาะเพชรที่ตรวจสอบย้อนกลับได้เท่านั้นในปีนี้ และในขณะเดียวกันก็กำลังเจรจากับแหล่งเพชรเพื่อจัดหาในลักษณะ SMO เช่นเดียวกับโลหะมีค่า ทั้งนี้ บริษัทซื้อเพชรจากแหล่งที่สามารถพิสูจน์ว่ามาจากเซียร์ราลีโอนและบอตสวานา ซึ่งมีโครงการสนับสนุนที่เข้มแข็งสำหรับคนงานเหมืองพื้นบ้านและชุมชนของพวกเขา

        นอกจากนี้ Jewelarc ยังสนับสนุน Provenance Proof Blockchain ที่ตรวจสอบแหล่งที่มาของพลอยสีอย่างโปร่งใสและถูกจริยธรรม และแม้บริษัทจะใช้โลหะเงินรีไซเคิลอยู่ในขณะนี้ แต่ก็กำลังเร่งหาแหล่ง SMO ในตลาดอยู่เช่นกัน


(ซ้าย) แหวนตกแต่งอัญมณีที่ผลิตโดย Jewelarc International Ltd. (ขวา) ‘Zimbaqua’ สร้อยคอประดับ

อะความารีนจากเหมืองที่ดำเนินกิจการทั้งหมดโดยผู้หญิง

สถานการณ์การค้า

        ในขณะที่ความยั่งยืนกำลังเติบโตในอุตสาหกรรมเครื่องประดับ Matthew Triglone กรรมการผู้จัดการของ Jewelarc กลับเห็นว่า ความคืบหน้าในประเด็นนี้ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า อีกทั้งยังมีความเห็นค้านกับคนทั่วไปที่ว่าการดำเนินการแบบยั่งยืนเป็นการลงทุนราคาแพง “เมื่อการดำเนินการเพื่อความยั่งยืนไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ดังนั้นจึงไม่มีการส่งต่อค่าใช้จ่ายไปยังลูกค้า ความยั่งยืนเป็นเรื่องของกรอบความคิดมากกว่าการได้มาซึ่งใบรับรองตามกฏเกณฑ์ มันคือการบอกให้ตลาดทราบว่า บริษัทฯ รับผิดชอบต่อผลกระทบที่มีต่อผู้คนและโลกใบนี้”

        นอกจากนี้ Triglone ยังไม่แน่ใจถึงความทุ่มเทของอุตสาหกรรมในการดำเนินการโดยยึดหลักการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น การได้รับข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุดิบที่ชัดเจนและครบถ้วนแทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากข้อมูลออนไลน์ล้าสมัย และผู้จัดหาวัตถุดิบมักจะไม่ค่อยจริงจังเมื่อต้องตอบคำถามเรื่องความยั่งยืน 

        การเติบโตขององค์กรต่างๆ เช่น Provenance Proof และ SMO จึงสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับบริษัทฯ ที่มีเป้าหมายที่จะก้าวเข้าสู่แนวทางความยั่งยืนทางนิเวศวิทยา อีกทั้งหน่วยงานราชการ สมาคมอัญมณีและเครื่องประดับระดับภูมิภาค องค์กรมาตรฐานและกลุ่มบุคคลด้านความยั่งยืนควรจะร่วมมือกันในการปรับปรุงคุณภาพชีวิต สภาวะทางการศึกษาและสุขภาพในชุมชนที่มีการทำเหมืองขนาดเล็กเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง

        บริษัทต่างๆ ที่กำลังหาแนวทางการใช้แนวปฏิบัติในการผลิตอย่างมีความรับผิดชอบต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่ให้กับเรื่องนี้ “อย่าเข้าร่วมองค์กรมาตรฐานเพียงเพื่อให้ได้โลโก้มาประดับหัวจดหมายของบริษัทฯ ลองพิจารณากลุ่มสินค้าของตนเองและเริ่มลงมือทบทวนห่วงโซ่อุปทาน โดยตั้งคำถาม ซึ่งหมายถึง การศึกษาหาข้อมูล จงเชื่อใจผู้ที่คุณทำธุรกิจด้วยตลอดเส้นทาง การดำเนินกิจการอย่างมีความรับผิดชอบไม่ได้ทำให้คุณต้องจ่ายเพิ่มขึ้น” Triglone แสดงความคิดเห็น


แปลและเรียบเรียงโดย ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) 

กันยายน 2567


ข้อมูลอ้างอิง


อ้างอิงเนื้อหาและภาพประกอบจาก JNA. 2024. "A Tale of Two Sustainable Jewellers." [Online] Available at: https://news.jewellerynet.com/en/jnanews/features/25745/051524-A-tale-of-two-sustainable-jewellers (Retrieved June 24, 2024).

เอกสารแนบ


ความคิดเห็น


ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

เรื่องเล่าจากผู้ประกอบการเครื่องประดับที่ยึดหลักความยั่งยืน กรณีศึกษา Jewelarc International Ltd.

Sep 24, 2024
1280 views
0 share

        Jewelarc International Ltd. ในประเทศไทยเป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ที่สนับสนุนนโยบายความยั่งยืน ขณะที่ตลาดก้าวเข้าสู่แนวทางเพื่อความยั่งยืนมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ประกอบการดำเนินการในส่วนของตนอย่างจริงจังมากขึ้นด้วยการริเริ่มและความคาดหวังที่แตกต่างอย่างชัดเจน 

        การขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืนของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับมีบทบาทอย่างแท้จริงในช่วงวิกฤติโควิด-19 ซึ่งทำให้สาธารณชนเกิดความตระหนักในคุณค่าของสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกกิจการที่จำเป็นต้องเร่งรัดดำเนินการเพื่อให้ผ่านการรับรอง ESG เนื่องจากบางกิจการได้วางเรื่องนี้เป็นหลักในการดำเนินงานอยู่ก่อนแล้ว 

วิสัยทัศน์รักษ์โลก

        Jewelarc International Ltd. ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2543 ได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางความยั่งยืนเมื่อปี 2561 ก่อนการเกิดโรคระบาด และยังคงมุ่งหน้าดำเนินการโครงการต่างๆ ที่ผ่านการคิดและวางแผนมาเป็นอย่างดี

        บริษัทฯ แห่งนี้เป็นผู้ผลิตเครื่องประดับหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการผลิตเครื่องประดับตกแต่งอัญมณีมูลค่าสูงให้กับแบรนด์เครื่องประดับชั้นนำ ไปจนถึงต่างหูเงินประดับคิวบิกเซอร์โคเนียสำหรับลูกค้าที่ต้องการสินค้าปริมาณมาก ผลงานชิ้นสำคัญของบริษัทฯ  ได้แก่ ‘Thalassa’ สร้อยคอประดับแทนซาไนต์ 600 กะรัต และ ‘Zimbaqua’ สร้อยคอประดับอะความารีนจากเหมืองอะความมารีนแห่งแรกที่ดำเนินกิจการทั้งหมดโดยผู้หญิง

        Jewelarc ดำเนินธุรกิจโดยตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดต่อสิ่งแวดล้อมและต่อโลกมาตั้งแต่แรกเริ่ม ความยั่งยืนเป็นหลักในการวางแนวปรัชญาขององค์กรมาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ดำเนินกิจการบนพื้นที่กว้างขวาง ปลอดพลาสติก มีทั้งพื้นที่สีเขียวและกิจกรรมกลางแจ้งตลอดจนพื้นที่พักผ่อนสำหรับพนักงาน อีกทั้งยังได้กันพื้นที่ในบริเวณบริษัทฯ เอาไว้สำหรับปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสินค้าที่จัดส่งออกไปทั้งหมดถูกใส่ในบรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ในครัวเรือนแทนที่จะเป็นพลาสติกชีวภาพ หากบรรจุภัณฑ์เหล่านี้ถูกทิ้งลงในบ่อฝังกลบก็จะย่อยสลายอย่างสมบูรณ์ภายใน 8-12 สัปดาห์โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม


ความกังวลเรื่องวัตถุดิบ

        การดูแลสิ่งแวดล้อมของ Jewelarc ครอบคลุมไปถึงเรื่องวัตถุดิบด้วย โดยวัตถุประสงค์หลักของบริษัทฯ ไม่ใช่แค่เรื่องการตรวจสอบย้อนกลับผ่านบล็อคเชนเท่านั้น แต่เป็นการรู้ถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเครื่องประดับ โดยบริษัทฯ เลือกใช้ทองคำจากเหมืองในมาลีตามหลักการจัดหาวัตถุดิบจากเหมืองเดียว (Single Mine Origin: SMO) โดยแหล่งดังกล่าวมีความรับผิดชอบ ตรวจสอบได้ และปลอดสารปรอทที่ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐานด้านสังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมระดับสูงสุด ทองทุกออนซ์มี QR Code ที่ระบุเหมืองที่มาของทองคำ เส้นทางที่ทองคำเดินทางมาและผลกระทบเชิงบวกระหว่างทางที่เกิดจากทองคำเหล่านี้

        ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่ใช้ทองรีไซเคิล เพราะอาจมาจากแหล่งใดก็ได้ที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานทางจริยธรรมของกิจการ แต่หากคำสั่งซื้อระบุว่าต้องการทองรีไซเคิล บริษัทฯ ก็จะรีไซเคิลทองของกิจการเองเพื่อให้สามารถรักษามาตรฐานทางจริยธรรมและการทวนสอบกลับได้อย่างสมบูรณ์

        บริษัทมีแผนที่จะสต็อกเฉพาะเพชรที่ตรวจสอบย้อนกลับได้เท่านั้นในปีนี้ และในขณะเดียวกันก็กำลังเจรจากับแหล่งเพชรเพื่อจัดหาในลักษณะ SMO เช่นเดียวกับโลหะมีค่า ทั้งนี้ บริษัทซื้อเพชรจากแหล่งที่สามารถพิสูจน์ว่ามาจากเซียร์ราลีโอนและบอตสวานา ซึ่งมีโครงการสนับสนุนที่เข้มแข็งสำหรับคนงานเหมืองพื้นบ้านและชุมชนของพวกเขา

        นอกจากนี้ Jewelarc ยังสนับสนุน Provenance Proof Blockchain ที่ตรวจสอบแหล่งที่มาของพลอยสีอย่างโปร่งใสและถูกจริยธรรม และแม้บริษัทจะใช้โลหะเงินรีไซเคิลอยู่ในขณะนี้ แต่ก็กำลังเร่งหาแหล่ง SMO ในตลาดอยู่เช่นกัน