
นวัตกรรมในปี 2025
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเครื่องประดับกำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีทั้งการปฏิวัติทางด้านการผลิต การดำเนินการ และประสิทธิภาพในการค้า นำโดยแพลตฟอร์มการตรวจสอบแหล่งที่มาและปัญญาประดิษฐ์
แพลตฟอร์มการตรวจสอบแหล่งที่มาและปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังพลิกโฉมอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ โดยการเปลี่ยนแปลงกระบวนการและการจัดลำดับความสำคัญในโลกที่มีความเป็นดิจิทัลมากขึ้น และยังมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองตลอดจนความนิยมของตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
Blockchain เข้ามามีบทบาทอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรกในวงการเพชรเมื่อปี 2018 ครั้งหนึ่งเคยถูกตีกรอบไว้ในฐานะกลไกในเรื่องความโปร่งใสและแหล่งที่มา เพื่อเพิ่มคุณภาพในการบรรยายคุณลักษณะของเพชร จากนั้นได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นเครื่องมือสำหรับคุณธรรม ความยั่งยืน และความชอบด้วยกฎหมายในระบบนิเวศน์ที่ได้รับผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์และสังคมที่มีความตระหนักต่อสังคม
ตัวอย่างเช่น เนื่องจากมีการเฝ้าระวังเพิ่มมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมาต่อการนำเข้าเพชรจากรัสเซียในตลาดสำคัญ โซลูชันการตรวจสอบที่มาโดย blockchain ได้กลายเป็นเครื่องป้องกันที่เป็นไปได้ในการต่อต้านสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้
Wesley Tucker CEO ของ Tracr ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจาก De Beers สำหรับการติดตามเพชรจากเหมืองไปยังผู้บริโภค บอกกับ JNA ว่า “เราไม่ได้สร้าง Tracr ขึ้นมาเพื่อดูแลตรวจตรากฎระเบียบการค้า แต่ระบบของเรามีการถ่วงดุลย์ ความแน่นอน และการปฏิบัติตามที่ดีที่สุด จึงเป็นวิธีการพิสูจน์แหล่งกำเนิดของเพชรที่ราบรื่น มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่า”
ภูมิหลังแหล่งที่มา
สิ่งที่สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมากคือแอปพลิเคชันพาณิชย์ของแพลตฟอร์มในการตรวจสอบแหล่งกำเนิดของเพชรเพื่อความโปร่งใส ภูมิหลังแหล่งที่มา และการจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ ขณะนี้ระบบดังกล่าวเป็นเครื่องมือทรงประสิทธิภาพในการจัดการกับความเคลือบแคลงในตลาดถึงแหล่งกำเนิดของสินค้าและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม แพลตฟอร์มการติดตามมีหลากหลายรูปแบบ และเพชรที่สามารถติดตามสืบค้นแหล่งที่มาได้อาจกลายเป็นสินค้าที่มีหมวดหมู่เป็นของตนเอง แม้จะมีความกังวลเรื่องค่าบริการเพิ่มเติมที่อาจเกิดขึ้นสำหรับสินค้าประเภทนี้
ก่อนที่จะกลายมาเป็นแพลตฟอร์มที่แพร่หลายในอุตสาหกรรมในปี 2023 แรกเริ่มเดิมที Tracr เป็นการดำเนินงานของ De Beers ที่ครอบคลุมห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดของเพชร โดยในเดือนกันยายน 2024 มี fingerprint แบบดิจิทัลที่ปราศจากการเปลี่ยนแปลงหรือแทรกแซงของเพชรที่ยังไม่เจียระไนจำนวน 2.8 ล้านเม็ด
Tucker กล่าวว่า “ทุกเดือน เราโหลดเพชรประมาณ 1 ใน 4 ของปริมาณเพชรทั่วโลกลงบน Tracr นับเป็นสัดส่วนที่มากพอดู และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีผู้ผลิตเข้าร่วมมากขึ้น รายล่าสุด คือ Mountain Province Diamonds ในแคนาดา และ Petra Diamonds ในแอฟริกาใต้ ในอีก 12 ถึง 15 เดือนข้างหน้าเราน่าจะมีสินค้าประมาณร้อยละ 40 ถึง 50 ของผลผลิตทั่วโลก”
Tracr สามารถลงทะเบียนเพชรที่ยังไม่เจียระไนที่มีขนาดเล็กได้ถึง 3 grain (ประมาณ 0.75 กะรัต) ซึ่งอาจจะได้เพชรเจียระไนขนาด 30 สตางค์ “ฟีเจอร์การจับคู่ด้วยอัลกอริธึมของเราช่วยให้เราติดตามเพชรที่ยังไม่เจียระไนผ่านการสแกนในพื้นที่ต่างๆ ได้ในปริมาณมาก โดยสามารถจับคู่การสแกนในบอตสวานาเข้ากับการสแกนทที่อินเดียเพื่อติดตามเพชรเม็ดนั้นได้ตลอดการเดินทางย้อนกลับไปยังแหล่งที่มา” Tucker กล่าว
เนื่องจากการขยายตัวออกไปสู่กลางน้ำและปลายน้ำมีความสำคัญเป็นอันดับแรก ดังนั้น Tracr จึงมุ่งมั่นพัฒนาเครือข่ายและสร้างเทคโนโลยีที่ใช้งานได้ในปริมาณมาก จะมีการส่งเครื่องสแกนไปยังผู้ประกอบการเหมือง ผู้ผลิต และผู้ค้าปลีกเพื่อให้พวกเขาเพิ่มสินค้าลงไปยังแพลตฟอร์ม ทั้งนี้ พันธมิตรปลายน้ำมีทั้งผู้ค้าปลีกเครื่องประดับเพชรรายใหญ่ เช่น Signet และ Brilliant Earth
“ผู้ผลิตที่อยู่บน Tracr มีจำนวนครึ่งหนึ่งของศักยภาพการผลิตเพชรของโลกแล้ว และจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อไป นอกจากนี้ เรายังอยากเห็นผู้ค้าปลีกสต็อกเพชรที่ตรวจสอบแหล่งกำเนิดได้ในสัดส่วนที่มากขึ้นด้วย” Tucker กล่าว
นอกจากนี้ Tracr ยังจับมือกับห้องปฏิบัติการตรวจสอบและผู้จัดหาโซลูชันเกี่ยวกับเพชรทั่วโลก เช่น Gemological Institute of America, Sarine Technology Group และ Innovseed ในเรื่องมาตรฐานในการทำงานร่วมกัน (interoperability) กับใบรายงานผลการจัดระดับเพชรและผลิตภัณฑ์ของพวกเขา
การตรวจสอบที่ไม่มีการแทรกแซงและเปลี่ยนแปลง
ในส่วนของแพลตฟอร์มบล็อคเชนที่ได้รับการสนับสนุนสิทธิบัตรอย่าง Authentia ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจัง เพื่อรับรองเรื่องการตรวจสอบและการยืนยันเพชร โดยขับเคลื่อนด้วยหลักการกำกับดูแลทรัพย์สินทางปัญญา 26 ประการ แพลตฟอร์มนี้จึงมอบ “หลักนิติธรรม” ในการตรวจสอบรายการบล็อคเชนและรับประกันจุดกำเนิดด้วยนาโนมาร์กเกอร์ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง และใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าที่ได้รับสิทธิบัตร จากนั้น เครื่องมือเหล่านี้จะเชื่อมโยงเข้ากับมาตรวัดด้านความปลอดภัย 12 มาตรวัดที่อนุญาตให้นำเพชรที่ยังไม่เจียระไนไปรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายที่เจียระไนแล้ว
Bruno Scarselli ซีอีโอของ Authentia กล่าวว่า “หากไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลหรือหน่วยงานที่มีอำนาจในการตรวจสอบข้อมูลที่เขียนบนบล็อค เราจะสามารถมั่นใจได้อย่างไรว่าข้อมูลนั้นไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงหรือแทรกแซง กรอบตามกฎหมายที่ได้รับสิทธิบัตรเป็นวิธีเดียวที่จะกำหนดมูลค่าของข้อมูลและการพิสูจน์ตัวตนได้ Authentia เป็นระบบเก็บข้อมูลในรุ่นต่อไปซึ่งเหมาะจะเป็นวาระของรัฐบาล”
Scarselli กล่าวว่า Authentia ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 เริ่มต้นด้วยเหมืองจำนวน 90 เหมืองในแอฟริกาใต้ และบริษัทประมูลอัญมณีที่ยังไม่เจียระไนหนึ่งแห่ง ขณะนี้บนแพลตฟอร์มมีเหมืองเพิ่มขึ้นอีก 30 เหมือง และในไม่ช้านี้จะมีการลงนามในข้อตกลงกับรัฐบาลแอฟริกาใต้ในการทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบแหล่งกำเนิดให้กับเหมืองที่ดำเนินการอยู่ทั้งหมด
เขาเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า “ตั้งแต่เริ่มเปิดตัวมาเป็นเวลา 8 เดือน เราได้ดูแลจัดการอัญมณีที่ยังไม่เจียระไนถึง 200,000 เม็ด นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบอีก 4 รายการเพื่อเพิ่มจำนวนอัญมณีที่ยังไม่เจียระไนอีกหลายล้านเม็ดภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025”
ในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 Authentia เริ่มเจาะกลุ่มผู้ประกอบการระดับกลางน้ำและหารือโครงการนำร่องสำหรับอุตสาหกรรมค้าปลีก
DelGatto Finance Fund ได้ลงนามในสัญญาเมื่อเดือนตุลาคม โดยได้รับการสนับสนุนจากเครื่องมือที่ได้รับสิทธิบัตรของระบบ โดยตกลงที่จะเสนอสินเชื่อสำหรับเพชรดิบพร้อมใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าของ Authentia ตลอดจนสินเชื่อสำหรับเพชรเจียระไนพร้อมเอกสารสิทธิ์การเป็นเจ้าของของ Authentia นอกจากนี้ยังมี Dalumi Diamonds และ Dison Gems เข้าร่วมแพลตฟอร์มในเดือนพฤศจิกายนด้วย
จากคำบอกเล่าของ Scarselli Authentia เป็นเพียงบริษัทเดียวที่รับรองจุดเข้าและออกในตลาดโลกโดยการใช้ตัวอ่านสำหรับอัญมณีที่ยังไม่เจียระไนและแอปพลิเคชันสำหรับสมาร์ทโฟนในการตรวจสอบความถูกต้องของเพชรที่เจียระไนแล้ว
เขากล่าวต่อไป “ในฐานะแพลตฟอร์มการตรวจสอบแหล่งกำเนิดตามกฎหมายที่มีสิทธิบัตรโดยเป็นทรัพย์สินทางปัญญาในแทบจะทุกเขตอำนาจศาล ผมเห็น Authentia เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเพชรและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไปข้างหน้า”
ความเกี่ยวข้องกับ AI
AI เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยในการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมเครื่องประดับ ในงาน Jewellery & Gem WORLD Hong Kong ในเดือนกันยายน 2024 ช่วง “Practical Applications of Artificial Intelligence (AI) in the Jewellery and Gemstone Industry” ได้เจาะลึกถึงนวัตกรรมใหม่ๆ ของ AI ในการทดสอบเพชรและพลอยสี การออกแบบเครื่องประดับและการตลาด
Sarine Technology Group บริษัทผู้ให้บริการโซลูชันด้านเพชร ได้เปิดตัวระบบการจัดระดับเพขรเจียระไนแล้วที่ทำงานโดย AI บนฐานเทคโนโลยี ในปี 1992 และในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ได้ลงทุนกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการพัฒนาเทคโนโลยีและบริการใหม่ๆ สำหรับการค้าเพชร
David Block CEO ของ Sarine อธิบายว่า “เพชรส่วนใหญ่ได้รับการจัดระดับด้วยมือโดยนักอัญมณีศาสตร์ในห้องปฏิบัติการจัดระดับ ตอนนี้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ ซึ่งเราเชื่อว่าจะปฏิวัติวิธีการจัดระดับเพชรในอีก 5 ถึง 10 ปีข้างหน้า”
ความท้าทายที่สำคัญในการใช้เทคโนโลยี AI ในการจัดระดับเพชรคือการเก็บสะสมข้อมูล Block กล่าวว่าจำเป็นต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากเพื่อฝึกฝนและสอนระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในตอนแรกนั้น Sarine ใช้ AI จัดระดับเพชรทรงกลม ดังนั้นบริษัทจึงเก็บข้อมูลเพชรปริมาณมหาศาลโดยรวบรวมข้อมูลเพชรที่มีสีสัน การเจียระไน และความใสในแบบต่างๆ เพื่อสร้างตัวแทนของกลุ่มเพชรทรงกลมในโลก
Block กล่าวว่า “หนึ่งในข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของเราคือการมีเพชรจำนวน 100 ล้านเม็ดผ่านเข้าระบบในแต่ละปีและนั่นเท่ากับข้อมูลปริมาณมหาศาล ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ในการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่โดยใช้ข้อมูลเหล่านี้”
พลอยสี
เทคโนโลยี AI ยังก่อให้เกิดกระแสในอุตสาหกรรมพลอยสีอีกด้วย โดยในปี 2023 Gübelin Gem Lab เผยโฉม GemtelligenceTM, ซอฟต์แวร์ที่ทำงานโดย AI ซึ่งระบุแหล่งกำเนิดของทับทิม แซปไฟร์ และมรกต รวมทั้งการปรับปรุงคุณภาพด้วยความร้อนในทับทิมและแซปไฟร์
Daniel Nyfeler Managing Director ของ Gübelin Gem Lab กล่าวว่าการพัฒนา Gemtelligence เกิดจากความต้องการแปลงโฉมความเชี่ยวชาญทางอัญมณีศาสตร์ไปสู่เทคโนโลยีที่เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งสามารถให้ข้อมูลการวิเคราะห์ที่แม่นยำปราศจากความไม่สอดคล้องกันที่อาจเกิดขึ้นในผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์
อัลกอรีธึมของ Gemtelligence ซึ่งเป็นไปตามสถาปัตยกรรม deep learning ล่าสุด ที่จดจำรูปแบบที่สำคัญท่ามกลางรูปแบบในการรับรู้ข้อมูลต่างๆ ซึ่งเมื่อเทียบกับนักอัญมณีศาสตร์แล้ว ให้ความแม่นยำและสมบูรณ์มากขึ้น
“นี่เป็นอีกข้อได้เปรียบหนึ่ง เราสามารถลดปริมาณข้อมูลที่เราป้อนลงไปในซอฟต์แวร์ และมันจะยังคงทำงานได้ดีกว่าผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์” Nyfeler เสริม “มันสามารถตัดภาระงานอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีต้นทุนและใช้แรงงานมากที่สุด นั่นคือ การใช้กล้องจุลทรรศน์”
เขากล่าวว่า นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์นี้ยังสามารถพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ และจดจำรูปแบบใหม่ ซึ่งช่วยให้ห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณีลดทอนเส้นทางสำหรับอัญมณีบางชนิดและคิดค้นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการตรวจสอบอัญมณี
การออกแบบตามความต้องการเฉพาะ
การออกแบบเครื่องประดับก็มีการฟื้นฟูใหม่ด้วยการมาถึงของเทคโนโลยี generative AI technology เช่นกัน
Payal Shah ผู้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องประดับ L’Dezen แนะนำแพลตฟอร์มออกแบบเครื่องประดับด้วย AI ที่มีชื่อว่า L’Dezen By You AI ร่วมกับ Algoneering บริษัทโซลูชันทางเทคโนโลยีใหม่มุ่งเน้นอุตสาหกรรมเครื่องประดับ “ความร่วมมือนี้ช่วยให้ทุกคนสามารถสร้างสรรค์เครื่องประดับแบบเฉพาะบุคคล โดยการเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นงานออกแบบแบบ real-time” Shah อธิบาย “แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้คุณสามารถทำภาพในความคิดให้กลายเป็นจริงโดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะขั้นสูงเลย”
ผู้ใช้เพียงป้อนข้อความ prompt เช่น หมวดหมู่สินค้าและสไตล์ของผลิตภัณฑ์ เป็นต้น ลงในระบบเพื่อสร้างงานออกแบบเครื่องประดับแบบ customized แอปพลิเคชันนี้ใช้เวลาประมาณ 2 นาทีในการแสดงผลลัพธ์งานออกแบบตามข้อความ prompt ที่ระบุ
“คุณสามารถค้นหาอัญมณี วัสดุและโลหะที่หลากหลาย และอื่นๆ เพื่อจุดประกายความคิดใหม่ๆ ในการออกแบบเครื่องประดับของคุณเอง” Shah อธิบาย “AI ช่วยทำให้ความคิดของคุณกลายเป็นความจริง เวทมนตร์เบื้องหลังแพลตฟอร์มนี้คือความเรียบง่าย คุณป้อนความคิดของคุณลงไป และ AI จะสร้างงานออกแบบจำนวนหนึ่งออกมา โดยจะมีอย่างน้อย 4 แบบแบบ real-time”
ลูกค้าจะเป็นผู้ครอบครองสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของเครื่องประดับชิ้นที่ออกแบบ นอกจากนี้ ลูกค้ายังมีตัวเลือกในการเก็บรักษางานออกแบบในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์บนฐานข้อมูลของแอปพลิเคชันนี้ และสามารถดาวน์โหลดงานออกแบบในเวอร์ชันที่มีความละเอียดสูงได้
ฟีเจอร์ที่กำลังจะนำเสนอในไม่ช้ามีชื่อว่า Variation ซึ่งจะใช้หนึ่งในสี่งานออกแบบสร้างรูปแบบที่ต่างออกไปอีก 8 แบบในสไตล์เดียวกัน Shah กล่าว
“นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อจินตนาการพบกับเทคโนโลยี” เธอกล่าวเสริม “เป็นเรื่องของความรวดเร็วและเกิดขึ้นเองโดยสัญชาตญาณ เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการที่เราคิดในการออกแบบเครื่องประดับ และการคิดถึงความเป็นไปได้ใหม่ๆ ไม่ใช่แค่สำหรับมืออาชีพ แต่เพื่อทุกคนที่มีความชื่นชอบการแสดงออกถึงลักษณะเฉพาะบุคคล”
ผู้ช่วยทางการตลาด
Picup Media ซึ่งเชี่ยวชาญในการถ่ายภาพเครื่องประดับแบบไฮเทค มองว่าโซลูชันที่ทำงานโดย AI ช่วยให้บริษัทต่างๆ เข้าสู่ตลาดดิจิทัลได้สำเร็จ
จากคำบอกเล่าของ Rocky Yu Sales Director และสมาชิกผู้ก่อตั้งรุ่นแรกของบริษัท ผู้ผลิตเครื่องประดับกำลังเผชิญกับ 3 ความท้าทายหลักในการถ่ายภาพเครื่องประดับและขายออนไลน์ นั่นคือ เวลา เงินทุน และความเชี่ยวชาญ GemLightbox Pro ของ Picup Media ซึ่งทำงานด้วย AI จัดการความท้าทายทั้งสามนี้โดยการผสมผสานเนื้อหาและการตลาดในบริการถ่ายภาพ
AI เข้ามามีบทบาทเมื่อภาพของสินค้าถ่ายโดยอุปกรณ์นี้ “แทนที่จะคิดถึงคำบรรยายที่จะโพสต์ลงบน Instagram หรือเว็บไซต์ของคุณ AI สามารถจดจำความสุขที่เพิ่งเก็บภาพไว้และเขียนคำบรรยายให้คุณได้โดยอัตโนมัติ” เขาอธิบาย
“วิดีโอที่มีความละเอียดสูง ภาพ และคำบรรยายสินค้าจะพร้อมนำเสนอให้กับคุณภายใน 15 วินาที ประหยัดทั้งเวลาและต้นทุนของผู้ผลิตเครื่องประดับ
“AI มีไว้เพื่อช่วยเหลือและไม่ได้เข้ามาแทนที่สิ่งที่มนุษย์ทำได้อย่างสมบูรณ์” Yu กล่าว “AI ไม่ได้มีความคิดสร้างสรรค์จนสามารถแทนที่ความคิดสร้างสรรค์ตามธรรมชาติของมนุษย์ได้ AI ทำงานให้คุณ ช่วยให้คุณขายสินค้าออนไลน์ และประหยัดเวลา”
เทรนด์เทคโนโลยีในปี 2025 และในอนาคตามความเห็นของ Wesley Tucker CEO ของ Tracr
• อุตสาหกรรมเปลี่ยนจากการดำเนินงานแบบลงมือปฏิบัติและแบบทำงานซ้ำไปสู่การใช้เทคโนโลยีและโครงสร้างที่มีมาตรฐาน
• การมีส่วนร่วมออนไลน์มีมากขึ้นโดยเน้นหนักที่โซเชียลมีเดี ยและความเข้าใจของผู้บริโภคเนื่องจากผู้บริโภควัยหนุ่มสาว ซึ่งให้ความสนใจแบรนด์ มีสัดส่วนในตลาดมากกว่า
• กิจกรรมออนไลน์หันเหไปสู่การศึกษาและการให้คำแนะนำ มากกว่าการซื้อจริง การสื่อสารแบบหลายช่องทางจะเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ conversion โดยการเล่าเรื่องมีบทบาทสำคัญ
• การมีเครื่องตรวจสอบเพชรในระดับปลายน้ำจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการซื้อสินค้า
• การจัดระดับแบบใช้ AI ที่รวดเร็ว จะเติบโตในหมู่สินค้าจากห้องปฏิบัติการ เนื่องจากราคาสินค้าที่ต่ำลงทำให้ใบรับรองคุณภาพราคาแพงไม่มีความจำเป็น
• การใช้งาน AI เพื่อความเข้าใจและการวางแผนการผลิตเพชรเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพจะเพิ่มมากขึ้น
• จะมีการใช้งาน Application Programming Interfaces (APIs) มากยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยให้อุปกรณ์สามารถคุยกันได้ เปิดเผย และแบ่งปันข้อมูลเพื่อการตรวจสอบย้อนกลับ แหล่งกำเนิด กระบวนมาตรฐาน และรายงานต่างๆ
แปลและเรียบเรียงโดยศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
พฤษภาคม 2568