
ญี่ปุ่นเร่งเสริมแกร่งความเชี่ยวชาญการผลิตเครื่องประดับ
ญี่ปุ่น ประเทศที่มีชื่อเสียงในการผลิตเครื่องประดับที่มีความประณีต ตั้งเป้าที่จะรักษาการขยายตัวของอุตสาหกรรมโดยการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสินค้าและคว้าโอกาสทางธุรกิจในตลาดต่างประเทศ
ผู้ผลิตเครื่องประดับญี่ปุ่นมองเห็นการเติบโตที่มั่นคงในช่วงไม่กี่ปีมานี้ โดยมีแรงหนุนจากความต้องการเครื่องประดับคุณภาพสูงและไม่เหมือนใครจากกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้สูงและกระแสการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นหลังวิกฤติโรคระบาด
เพื่อเป็นการรักษาสถานะนี้เอาไว้ ผู้ประกอบการเครื่องประดับกำลังพยายามปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการจัดลำดับความสำคัญด้านคุณภาพ โดยเน้นที่สินค้าที่มีเอกลักษณ์และขยายตลาดไปยังต่างประเทศ
นอกจากนี้ บรรดาผู้ประกอบการยังมองในแง่บวกถึงโอกาสของการเติบโตที่มั่นคงท่ามกลางความท้าทายต่างๆ เช่น ตลาดเครื่องประดับภายในประเทศที่อิ่มตัว ช่างฝีมือที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยชรา และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
โอกาสอันเรืองรอง
ผู้ผลิตชาวญี่ปุ่นกล่าวว่า เครื่องประดับตกแต่งด้วยมุก เพชร และพลอยสี รวมถึงสร้อยทองคำลายโซ่ และเหรียญทอง มียอดขายที่สูงในตลาดทั้งในและต่างประเทศตั้งแต่เดือนเมษายน 2023
Kengo Kajita ประธานของ Kajita Co. Ltd. อธิบายว่า “การอ่อนค่าของเงินเยนและราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นอย่างมากส่งผลกระทบต่อตลาดในประเทศ โดยผลักดันราคาเครื่องประดับให้พุ่งสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาหุ้นนิคเคอิ 225 ทำลายสถิติสูงที่สุดในรอบ 34 ปี ความต้องการจากผู้บริโภคที่ร่ำรวยยังคงสูงขึ้น เป็นแรงหนุนให้กับการขยายตัวของยอดขายอย่างมาก”
Kajita เป็นผู้ประกอบการธุรกิจพลอยสีซึ่งดำเนินกิจการค้าปลีกและค้าส่ง บริษัทฯ มองเห็นความสนใจอย่างต่อเนื่องในอะความารีน มอร์กาไนต์ แซปไฟร์สีน้ำเงินอมเขียว มรกต อะเล็กซานไดร์ต พาราอิบา ทัวร์มาลีน โดยความนิยมของผู้บริโภคเปลี่ยนจากสีสันสดใสจัดจ้านเป็นสีอ่อนและโทนสีควันบุหรี่เล็กน้อย
ในขณะที่ Isao Hori กรรมการผู้จัดการของ Kuwayama Corp. อธิบายว่า เครื่องประดับคุณภาพสูงที่แสดงถึงเสน่ห์ของโลหะมีค่าและพลอยสี รวมถึงสินค้าราคาสูงอย่างสร้อยลายโซ่และจี้ห้อยคอรูปเหรียญ Kihei กำลังได้รับความนิยมในหมู่ผู้ซื้อฐานะดี เครื่องประดับตามกระแสนิยมชิ้นบางและเครื่องประดับเงินก็กำลังมาแรงในตลาด สินค้าเหล่านี้ผลิตขึ้นมาเพื่อผู้ซื้อที่ชื่นชอบงานออกแบบตามสมัยนิยมซึ่งราคาไม่สูงเหมือนกับทองคำ ซึ่งที่กล่าวมานี้น่าจะเป็นผลมาจากราคาทองที่สูงขึ้นและความผันผวนของราคาเพชร
“ความท้าทายอยู่ที่การหาช่างฝีมือและนักออกแบบที่มีทักษะสูง ซึ่งสามารถผลิตเครื่องประดับไฮเอนด์และสินค้าที่เป็นแหล่งรายได้ของบริษัทให้ได้ และการสร้างความสมดุลย์ระหว่างการผลิตสินค้าเหล่านี้” Hori แสดงความคิดเห็น
กระแสนิยมมุก
การส่งออกมุกของญี่ปุ่นมีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงสองปีมานี้ท่ามกลางกระแสนิยมมุกที่แพร่หลายไปทั่วโลก จากสถิติของกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่น การส่งออกมุกธรรมชาติและมุกเลี้ยงมีมูลค่าสูงกว่า 4.55 หมื่นล้านเยน (ประมาณ 289.2 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในปี 2023 เพิ่มขึ้นจาก 2.38 หมื่นล้านเยน (ราว 151.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในปี 2022 โดยมีฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกมุกที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
Masayuki Sanada กรรมการผู้จัดการของ Nagahori Corp ให้ข้อมูลไว้ว่า มุกอาโกย่าและสินค้าเครื่องประดับที่เกี่ยวข้องช่วยกระตุ้นยอดขายโดยรวมของบริษัทฯ คาดว่าความนิยมมุกอาโกย่าจะขยายตัวแม้ผลผลิตต่อปีลดลงก็ตาม นอกจากนี้ มุกที่มีรูปทรงและสีสันแปลกตาก็ได้รับความนิยมสูงในตลาด เช่น มุกเซ้าท์ซีสีทองรูปหัวใจซึ่งจำหน่ายเฉพาะในญี่ปุ่น เป็นต้น
ขณะเดียวกัน Koji Isowa ประธานของ Seibido Pearl Co. Ltd. กล่าวว่าสร้อยคอมุกหลากสีจาก Black-Lipped South Sea Pearl เป็นที่ชื่นชอบของผู้ซื้อโดยเฉพาะผู้ซื้อจากประเทศจีน ยอดขายของบริษัทฯ เติบโตตลอดปีที่ผ่านมาและฝ่ายผลิตพยายามอย่างหนักเพื่อตอบสนองความต้องการมุกคุณภาพระดับพรีเมียมที่หลั่งไหลเข้ามา
นอกจากนี้ Isowa ยังกล่าวถึงความนิยมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปว่า “ในอดีต มุกกลมเกลี้ยงไร้ที่ติได้รับความนิยมแม้ว่ามุกนั้นจะไม่แวววาวก็ตาม แต่ปัจจุบันมุกที่มีความวาวสูงกำลังได้รับความนิยมมากกว่า ในขณะที่มุกที่มีพื้นผิวและรูปทรงไม่สมบูรณ์แบบเป็นที่ยอมรับมากขึ้น และผู้ซื้อยินดีที่จะจ่ายราคาสูงหากมุกมีคุณภาพดี”
เจาะตลาดนอกญี่ปุ่น
เดิมผู้ผลิตเครื่องประดับญี่ปุ่นเน้นที่ตลาดในประเทศ แต่กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง โดยปัจจุบันแม้ว่าญี่ปุ่นจะยังคงเป็นตลาดหลัก แต่ผู้ประกอบการต่างก็เร่งแสวงหาตลาดต่างประเทศไปในเวลาเดียวกัน
Sanada จาก Nagahori Corp ให้ข้อมูลว่า บริษัทฯ มองเห็นการเติบโตอย่างมากในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในตลาดจีน ฮ่องกง และไต้หวัน ซึ่งมียอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา ในอนาคตบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะขยายตลาดออกไปยังยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง
ส่วน Kuwayama Corp นั้นกำลังอบรมความรู้เกี่ยวกับตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความนิยมของผู้บริโภคโดยเฉพาะในเกาหลีใต้และไต้หวันมีความใกล้เคียงกับผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น ขณะที่ยอดขายของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในฟิลิปปินส์ เนื่องจากเครื่องประดับทอง 18k เป็นที่นิยมอย่างมากในตลาดนี้ เช่นเดียวกับตลาดอินเดียที่ยอดขายเครื่องประดับแพลทินัมลายโซ่ของบริษัทฯ เติบโตในระดับที่น่าพอใจ
สำหรับ Kajita นั้นประสบความสำเร็จในการสร้างการรับรู้ตัวตนในห้างสรรพสินค้าของสิงคโปร์ภายใต้แบรนด์ Fujimori Kajita มาตั้งแต่ปี 2019 โดยบริษัทมีเป้าหมายในการใช้สิงคโปร์เป็นฐานในการหาโอกาสเจาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป
นอกจากนี้ ยังเห็นว่า อุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับความท้าทายต่างๆ เช่น การที่ช่างฝีมือเข้าสู่วัยชราและการขาดแคลนผู้สืบทอด โดยช่างฝีมือชาวญี่ปุ่นมักถูกประเมินค่าต่ำเกินไป ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าที่มีมูลค่าสูงและการตลาดที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มค่าแรงของช่างฝีมือ การทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นในต่างประเทศและกำหนดราคาให้สอดคล้องกับมาตรฐานนานาชาติก็เป็นสิ่งจำเป็น
คุณภาพและเอกลักษณ์
ผู้ผลิตเน้นถึงความสำคัญของการนำเสนอสินค้าคุณภาพสูงที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นหลักในการขับเคลื่อนการขยายตัวของธุรกิจ
Junko Nakayama จาก Shimada Co. Ltd. กล่าวว่า ปัจจุบันลูกค้าให้ความสำคัญกับคุณภาพและยินดีที่จะจ่ายราคาสูงกว่าเพื่อสินค้าที่คุณภาพดีกว่า เธอเชื่อว่าการพัฒนาสินค้าคุณภาพสูงที่มีลักษณะเฉพาะตัวและคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าการนำเสนอราคาที่ต่ำมากเพียงครั้งเดียว
ขณะเดียวกัน Kuwayama Corp. กำลังเพิ่มความหลากหลายของเครื่องประดับทองและแพลทินัมเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ซื้อที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยแหวนของบริษัทฯ ที่มีรูปทรงละเอียดซับซ้อนผลิตขึ้นโดยใช้เครื่องกลึง CNC 5 แกน ร่วมกับการใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้อย่างทองคำและแพลทินัมบริสุทธิ์ที่มีความแข็ง ทำให้บริษัทฯ มีความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง
ผู้ผลิตยังคงมีความหวังถึงโอกาสของอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องประดับของญี่ปุ่นท่ามกลางความท้าทายบางเรื่อง ความแปลกใหม่และระดับราคาเป็นสิ่งสำคัญ แต่บริษัทฯ ต่างๆ ที่ขาดเงินทุนที่มั่นคง การดำเนินงานที่มีระบบ และความเชื่อถืออันยาวนานอาจประสบปัญหาในการเอาตัวรอด การสร้างความมั่นใจของผู้บริโภคผ่านวิธีการควบรวมธุรกิจ แทนที่จะเน้นเรื่องเทรนด์ที่เป็นกระแสไม่นานเพียงอย่างเดียว จำเป็นต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม” Sanada จาก Nagahori Corp. กล่าว
แปลและเรียบเรียงโดย ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
มิถุนายน 2568
ข้อมูลอ้างอิง