โอกาสใหม่ในอุตสาหกรรมมรกต
แนวโน้มของมรกตในปี 2025 ยังคงสดใส โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากผู้บริโภคที่มีรสนิยม โดยเฉพาะสำหรับอัญมณีที่มีสีสันสดใสและคุณภาพดีเยี่ยม
มรกตเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราและสถานะ มีชื่อเสียงในเรื่องความหายากและมลทินที่มีลักษณะเฉพาะตัว มรกตเฉิดฉายอยู่ในคอลเลกชันเครื่องประดับที่โด่งดังของเซเลบริตี้และราชวงศ์อยู่เสมอ นอกเหนือจากแหล่งหลักอยู่ในโคลอมเบีย ยังสามารถพบมรกตได้ในแซมเบีย บราซิล รัสเซีย ปากีสถาน เอธิโอเปีย และอัฟกานิสถาน
Sam Livian ผู่ก่อตั้ง Neli Gems Corp บริษัทค้ามรกตระดับไฮเอนด์ซึ่งตั้งอยู่ในนิวยอร์ก กล่าวว่า “สีเขียวของมรกตคือเสน่ห์อันโดดเด่นของอัญมณีชนิดนี้”
“สีของมรกตเป็นสัญลักษณ์ของความหวังเนื่องจากเป็นสีที่ทำให้สงบและผ่อนคลาย” เขากล่าว “ขณะที่เพชรส่องแสงระยิบระยับจากระยะไกลด้วยประกายของมัน ทับทิมและแซปไฟร์มีแนวโน้มจะสูญเสียความสดใสและดูมืดมัวในที่มีแสงน้อย ในทางตรงกันข้าม ยังคงสามารถมองเห็นมรกตได้อย่างชัดเจนจากระยะไกลโดยเฉพาะในตอนกลางคืน”
อุปทาน
ตามคำบอกเล่าของผู้ค้ามรกต อัญมณีสีเขียวอันเป็นที่รักยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับ Marcelo Ribeiro ประธานบริษัท Belmont Group ซึ่งเป็นผู้ขุดมรกตในบราซิล กล่าวว่า “มรกตกำลังได้รับส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นและห่วงโซ่อุปทานที่เป็นมืออาชีพ”
นอกจากนี้ ยังมีอุปทานมรกตอย่างต่อเนื่องในตลาด ต่างจากพลอยสีอื่นๆ ตัวอย่างเช่น เหมืองของ Belmont ในบราซิล และเหมือง Coscuez ของ Fura Gems ในช่วยให้เข้าถึงอัญมณีคุณภาพชั้นยอดได้อย่างสม่ำเสมอและเชื่อถือได้
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผลักดันธุรกิจมรกตท่ามกลางความถดถอยในอุตสาหกรรมเพชร ในขณะที่ความต้องการเพชรลดลง ทั้งผู้ผลิตเครื่องประดับและผู้บริโภคต่างพากันหันไปหาอัญมณีอื่น และมรกตเป็นหนึ่งในตัวเลือกแรก
ด้วยสีสันที่สดใสและความสำคัญทางวัฒนธรรม มรกตจึงยังคงเปล่งประกายสดใสในวงการเครื่องประดับหรูหรา ซึ่งถือเป็นโอกาสใหม่ๆ ที่มรกตจะได้ครองส่วนแบ่งตลาดระดับไฮเอนด์ได้มากขึ้น และดึงดูดใจผู้ที่มองหาทางเลือกที่แตกต่างจากเพชรแบบดั้งเดิม
Ribeiro กล่าวว่าความไม่ยืดหยุ่นในการผลิตมรกตบราซิลหมายถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นอาจจะนำไปสู่ราคาที่สูงขึ้นในไม่ช้า “เหมืองมรกตเป็นสิ่งหายาก ผลผลิตมีจำกัด” เขาอธิบาย “อุปทานที่จำกัดประกอบกับความสนใจที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค เป็นสัญญาณบอกว่ามรกตอาจจะกลายเป็นส่วนประกอบที่มีคุณค่าและความสำคัญมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมในเครื่องประดับแท้”
การจัดหามรกตจากโคลอมเบีย โดยเฉพาะมรกตคุณภาพสูง กลายเป็นเรื่องท้าทายเช่นกัน โดย Eric Sharabany จาก Emco Gem ในนิวยอร์กกล่าวว่า อุปทานมรกต “ไม่แน่นอนมาโดยตลอด” และเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์ได้ว่าเหมืองจะสามารถผลิตมรกตได้เมื่อไหร่และในคุณภาพระดับใด ปัจจัยนี้ยิ่งเพิ่มความลึกลับและความหายากของมรกตโคลอมเบียมากยิ่งขึ้นไปอีก เขากล่าวเสริม
ขณะเดียวกัน Livian ของ Neli Gems พูดถึงความต้องการมรกตที่ลดลงเล็กน้อย เขาอธิบายต่อไปว่า “เป็นสถานการณ์ที่แปลกประหลาดที่อุปทานมีจำกัด แต่ความต้องการก็มีน้อยด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ ราคาจึงไม่ลดลงแม้ว่าความต้องการจะลดลงกว่าปกติเล็กน้อยก็ตาม” ทั้งนี้ ตลาดหลักของ Neli Gems คือตะวันออกไกลและตะวันออกกลาง
ผู้เล่นหลักอย่าง Gemfields, Fura Gems และ Belmont Group ช่วยสร้างแนวทางที่มีโครงสร้างมากขึ้นในการทำเหมืองมรกต จึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด เนื่องจากผู้จัดหาแข่งขันกันเพื่อช่วงชิงการประมูลที่ทำกำไรงาม
Karan Rawat จาก Geminent ผู้ค้ามรกตที่ตั้งอยู่ในฮ่องกง อธิบายว่าในการประมูลแบบปิด ผู้ประมูลแต่ละรายส่งข้อเสนอที่ดีที่สุด ทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น และราคาที่สูงขึ้นในการประมูลส่งผลต่อเนื่องไปยังการตั้งราคาของผู้ค้าด้วย
“ถ้าฉันจ่ายแพงขึ้นกว่าเมื่อก่อนให้กับพลอยสีที่ยังไม่เจียระไน ก็ต้องสะท้อนต้นทุนเหล่านี้ในราคาสุดท้ายของสินค้า เมื่อราคาทะยานขึ้นอย่างฉับพลัน ในช่วงแรกมักจะมีแรงต่อต้านจากลูกค้าที่ต้องการเวลาในการปรับตัวกับระดับราคาใหม่เสมอ แต่ไม่นานพวกเขาจะเข้าใจและยอมรับความเปลี่ยนแปลงนี้” Rawat กล่าว
ความนิยมในตลาด
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 ประกอบกับการชะลอตัวในการซื้อสินค้าหรูในตลาดจีน ทำให้ความต้องการในอุตสาหกรรมอัญมณีลดลง ความเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลต่อรูปแบบการซื้อและกระทบการเคลื่อนไหวของตลาดโดยรวม โดยเฉพาะในสินค้ามูลค่าสูงอย่างอัญมณี
แต่สำหรับ Sharabany ความต้องการโดยรวมยังคงที่ โดยยังคงมีการใช้สินค้าเกรดอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวางในการผลิตเครื่องประดับทั่วโลก ในขณะที่อัญมณีคุณภาพสูงนั้นก็ยังคงเป็นที่ต้องการสูง
แม้การบริโภคในจีนจะลดลงในปี 2024 แต่เขายังคงมั่นใจในตลาดจีนแผ่นดินใหญ่และยังคงขายให้กับลูกค้าประจำในตลาด ยอดขายของเขาในตลาดอื่นของเอเชียก็ยังคงที่ Sharabany กล่าวว่า “ผู้บริโภคยังคงซื้อตามความต้องการและโมเดลธุรกิจ ความต้องการมรกต 5 กะรัต ถึง 7 กะรัต รวมถึงขนาดเกิน 10 กะรัตเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายมรกตขนาด 1 ถึง 3 กะรัต ไม่เปลี่ยนแปลง”
ส่วน Livian จาก Neli Gems มองเห็นความต้องการมรกตขนาดใหญ่ที่คึกคักในตลาดระดับบน โดยได้รับผลกระทบเป็นหลักจากเครื่องประดับมรกตในงานแต่งงานสุดหรูที่เต็มไปด้วยเหล่าเซเลบริตี้ของ Anant Ambani และ Radhika Merchant ในมุมไบเมื่อเดือนกรกฎาคม 2024
Livian เปิดเผยว่า “ในขณะที่พลอยขนาดใหญ่เป็นที่นิยมในตลาดตะวันออกกลางมาโดยตลอดอยู่แล้ว แต่งานแต่งงานของ Ambani ยิ่งกระตุ้นความต้องการมรกตขนาดใหญ่อย่างมาก โดยทำให้ตลาดของมรกตแข็งแกร่งมากขึ้น”
ขณะเดียวกัน Ribeiro จาก Belmont สังเกตเห็นความนิยมที่ชัดเจนของผู้ซื้อในพลอยขนาดเล็ก ซึ่งโดยทั่วไปต่ำกว่า 5 กะรัต มรกตบราซิลมีโทนสีเขียวที่มีชีวิตชีวา ซึ่งทำให้มรกตมีเสน่ห์สำหรับเครื่องประดับแท้และเครื่องประดับสำหรับงานหมั้นเนื่องจากสีสันและความใสที่สม่ำเสมอ” เขากล่าว
Ribeiro ชี้แจงว่า “ตลาดอินเดียและตะวันออกกลางมักจะนิยมพลอยเม็ดใหญ่สีเข้ม แต่คุณภาพและความสม่ำเสมอของมรกตบราซิลทำให้มรกตในขนาดต่างๆ เป็นที่โปรดปราน ความต้องการในภูมิภาคนี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมากสำหรับสีเขียวสด ซึ่งมีคุณค่าทางวัฒนธรรมสูงในตลาดเหล่านั้น”
แนวโน้มความต้องการ
ตลาดมรกตเองก็มีความหลากหลายและประโยชน์ในการใช้งานมากขึ้นเช่นกัน โดยมรกตแบบลูกปัด หลังเบี้ย และแกะสลัก เข้ามามีบทบาทในคอลเลกชันเครื่องประดับหรูมากขึ้น
ในคอลเลกชัน Nature Sauvage High Jewellery ของ Cartier ใช้ธีมจระเข้สำหรับสร้อย Sibaya โดยใช้มรกต sugarloaf 45 เม็ด และมรกตทรงหยดน้ำขนาด 7.96 กะรัต และในไฮไลท์ของคอลเลกชัน Aeterna High Jewellery ของ Bulgari คือ Monete Aeterna Augustus Emerald สร้อย Sautoir ประดับลูกปัดมรกต 149 เม็ด และมรกตเจียระไนแบบ buff-top จำนวน 80 เม็ด
Geminent บริษัทผู้ค้ามรกต วางตำแหน่งบริษัทต่างจากคู่แข่งโดยการมุ่งเน้นการเจียระไนตามคำสั่ง อย่างการแกะสลักหลังเบี้ย ลูกปัด และรูปทรงหยดน้ำ การเจียระไนรูปแบบเฉพาะเช่นนี้เพิ่มมูลค่าให้กับอัญมณี โดยทำให้มีความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งดึงดูดตลาดเฉพาะกลุ่มของนักสะสมและผู้ผลิตเครื่องประดับที่ต้องการสินค้าที่เป็นมากกว่าอัญมณีเจียระไนแบบดั้งเดิม
“เรามีประวัติศาสตร์ครอบครัวอันยาวนานในการค้ามรกต โดยเริ่มต้นจากชัยปุระ ในอินเดีย ผมเป็นรุ่นที่ 10 ดังนั้นมรดกจึงได้ส่งต่อมายังผม” Rawat เล่าให้ฟัง “มรกตของเรามีเสน่ห์แบบโลกเก่า ความรักในการเจียระไนแบบพิเศษฝังลึกอยู่ในปรัชญาการทำธุรกิจของเรา”
แม้ความต้องการพลอยเจียระไนแบบพิเศษยังไม่อยู่ในกระแสหลัก Rawat กล่าวว่ามีผู้ซื้อจำนวนมากขึ้นที่เริ่มเข้าใจว่าพลอยทำได้มากกว่าแค่เจียระไนแบบเหลี่ยม ผู้ที่เป็นเจ้าของอัญมณีที่มีการเจียระไนแบบดั้งเดิมมักจะต้องการให้คอลเลกชันของตนเองมีความหลากหลาย เขากล่าวต่อไป
การเติบโตของตลาดมรกตใหม่ๆ โดยเฉพาะในเอเชีย เป็นความก้าวหน้าที่น่าพอใจเช่นกัน ตัวอย่างเช่นการขยายตัวอย่างมากในอินเดียและไทย
Rawat กล่าวว่า “การแกะสลักรูปสัตว์ในอินเดียได้รับความนิยมอย่างมาก ส่วนหนึ่งมาจากความสำคัญเชิงวัฒนธรรมและศาสนา เรามีความเชี่ยวชาญในการแกะสลักสไตล์ Mughal รูปแบบที่มีความละเอียดอ่อนและฝีมือช่างที่ฝังลึกอยู่ในประเพณีอินเดีย และช่างฝีมือที่มีความสามารถสูงต้องสามารถทำให้งานแกะสลักนี้มีชีวิตขึ้นมา จึงทำให้พลอยแต่ละเม็ดยิ่งมีเอกลักษณ์และความน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น”
ในขณะเดียวกัน Sharabany ก็ได้เน้นย้ำถึงแนวโน้มในการมอบมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้เวลาศึกษาอัญมณีและเจียระไนพลอยดิบอย่างระมัดระวัง เพื่อนำเสนอศักยภาพที่แท้จริงของพลอยเม็ดนั้นออกมา แทนที่จะรีบเร่งผลิตสินค้าจำนวนมาก
เขากล่าวว่า “มีการเน้นย้ำคุณภาพอย่างมากในทุกส่วนของห่วงโซ่อุปทาน ความประณีตและความสวยงามเป็นเรื่องสำคัญ ความแม่นยำและการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมในการผลิตเครื่องประดับ มีความสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมา ผู้ซื้อมรกตต้องการที่จะสามารถไว้วางใจผู้จัดหาว่า พวกเขาจะได้รับสินค้าคุณภาพเยี่ยมและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป”
แปลและเรียบเรียงโดย ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
สิงหาคม 2568
ข้อมูลอ้างอิง