ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

เทรนด์จิวเวลรี่ 2025–2026: พิมพ์เขียวแห่งอนาคตสำหรับช่างฝีมือจิวเวลรี่ไทย

Sep 29, 2025
732 views
2 shares

ภูมิทัศน์ตลาดจิวเวลรี่โลก: ตัวเลขที่ต้องรู้

        อุตสาหกรรมจิวเวลรี่ในปี 2025 กำลังยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนสำคัญ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของค่านิยมผู้บริโภค เทคโนโลยีดิจิทัลที่ก้าวกระโดด และการกลับมาของความภาคภูมิใจในมรดกฝีมือ สำหรับช่างฝีมือและผู้นำในวงการที่สั่งสมประสบการณ์มายาวนาน โอกาสครั้งใหญ่อยู่ที่การนำพลังเหล่านี้มาสร้างคุณค่าใหม่อย่างยั่งยืน

ขนาดตลาดและสัดส่วนที่น่าจับตา:

     จีน ครองแชมป์ตลาดด้วยรายได้ 119.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2024 ตามด้วย อินเดีย (97.25 พันล้านเหรียญ) และ สหรัฐอเมริกา (61.24 พันล้านเหรียญ)

     ยุโรป และ แอฟริกา มีรายได้ 37.37 พันล้านเหรียญ และ 23.07 พันล้านเหรียญ ขณะที่ ญี่ปุ่น (20.01 พันล้านเหรียญ) และ ออสเตรเลีย (2.64 พันล้านเหรียญ) ตามลำดับ

     จิวเวลรี่ลักชัวรี่ ครองสัดส่วน 40% ของรายได้ตลาดโลก, แฟชั่นจิวเวลรี่ 30%, จิวเวลรี่ชั้นสูง 20% และ คอสตูมจิวเวลรี่ 10%

        ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงความต้องการทั้งในด้านความหรูหราและความเข้าถึงง่าย ผลักดันให้แบรนด์ต้องโดดเด่นทั้งฝีมือและนวัตกรรม

ผู้บริโภคยุคใหม่: มาตรฐานใหม่ของตลาด

        การเข้าใจผู้บริโภคปี 2025–2026 คือหัวใจสำคัญ

        ผู้ซื้อยุคนี้ไม่ได้มองหาแค่ความสวยงาม แต่ต้องการเครื่องประดับที่สะท้อนตัวตนและเรื่องราวของตนเอง ตลาดกลายเป็นภาพโมเสกของเจเนอเรชั่นที่มีพฤติกรรมและอิทธิพลแตกต่างกันอย่างชัดเจน

แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคที่สำคัญ:

     การปรับแต่งเฉพาะบุคคล (Personalization) กลายเป็นหัวใจ ผู้บริโภคต้องการเครื่องประดับที่บอกเล่าเรื่องราวและตัวตน

     ความยั่งยืนและความโปร่งใส ไม่ใช่แค่จุดขาย แต่เป็นมาตรฐานพื้นฐาน

     การมีส่วนร่วมทางดิจิทัล ทุกเจเนอเรชั่น โดยเฉพาะ Gen Z และ Millennials ใช้โซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์ในการค้นหาและตัดสินใจซื้อ

เทรนด์ดีไซน์หลัก: 4 เสาหลักแห่งปี 2025–2026

        1. Digital Nouveau: เมื่อศิลปะคลาสสิกผสานเทคโนโลยี

        Digital Nouveau คือเทรนด์ที่โดดเด่นในปี 2026 ผสมผสานความงามของ Art Nouveau ต้นศตวรรษที่ 20 กับความล้ำสมัยของยุคดิจิทัล สะท้อนสังคมที่ใส่ใจสุขภาพ ความงาม ความสบาย และความยั่งยืน

ลักษณะเด่น:

     AI Nouveau: ลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากอัลกอริทึมและดิจิทัล

     Winged Creatures: ผีเสื้อและนก เช่น สร้อยคอ CHRYSÉIS ของ Cartier ที่ใช้ลวดลายปีกผีเสื้อขาวดำกับพลอย rubellite 63.76 กะรัต

     Rough Luxe: การผสมผสานวัสดุดิบกับความประณีต สะท้อนความขัดแย้งระหว่างธรรมชาติและเทคโนโลยี

กลยุทธ์:

        แบรนด์ที่สามารถสร้างสรรค์งานดีไซน์ที่ผสมผสานดิจิทัลกับธรรมชาติ พร้อมเล่าเรื่องราวได้อย่างลึกซึ้ง จะครองใจผู้บริโภคยุคใหม่

        2. Opulent Extravaganza: ความทรงจำ ความหรูหรา และวัสดุชั้นสูง

        ในยุคที่โลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เครื่องประดับกลายเป็นสื่อกลางของความทรงจำและอัตลักษณ์ 

        เทรนด์ Opulent Extravaganza จึงเน้นความอลังการของราชวงศ์ ความงามแบบมหาราชา และพลังของมรดก

ลักษณะเด่น:

     Regency Opulence: พลอยเม็ดใหญ่ งานฝีมือประณีต

     The Power of Memory: ชิ้นงานที่เชื่อมโยงกับอดีตและเรื่องราวส่วนตัว

     Maharajas Magnificence: สีสันสดใส ขนาดใหญ่ และแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์

ตัวอย่าง:

     ซีรีส์ Bird on a Rock ของ Tiffany ที่นำสัญลักษณ์นกฮูกและนกฟีนิกซ์มาสร้างสรรค์ใหม่บนอัญมณีหายาก

     สร้อยคอ Star Burst ที่ใช้โอปอลกว่า 64 กะรัตและเพชรกว่า 69 กะรัต

กลยุทธ์:

        แบรนด์เก่าแก่ควรนำแรงบันดาลใจจากมรดกและอัญมณีหายากมาพัฒนา ส่วนแบรนด์ใหม่ควรเน้นการเล่าเรื่องและสร้างความผูกพันทางอารมณ์

        3. Street Coolness: พลังแห่งวัฒนธรรมและความเป็นตัวเอง

        การรวมตัวของชุมชนดิจิทัลทั่วโลกก่อให้เกิดเทรนด์ Street Coolness ที่ผสมผสานวัฒนธรรม ความกล้า และความเป็นตัวของตัวเองอย่างชัดเจน

ลักษณะเด่น:

     Cultural Connections: การนำแรงบันดาลใจจากหลากหลายวัฒนธรรม

     XL-Layering: การใส่เครื่องประดับหลายชั้น หลายเส้น

     Urban Tribe: ดีไซน์ที่กล้า ทรงพลัง และแปลงร่างได้

ตัวอย่าง:

     สร้อยคอ Shooting Star และ Arrow ที่นำเพชร Fancy Intense Yellow กว่า 18 กะรัตมาใช้ในดีไซน์ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้

     เข็มกลัดนกยูงที่ใช้ Tanzanite 13 กะรัตและทัวร์มาลีนสีเขียว

กลยุทธ์:

        กล้าเล่นกับรูปแบบและฟังก์ชัน ชิ้นงานที่ปรับแต่งหรือแปลงร่างได้จะตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล

        4. Wonderland: สีสัน แฟนตาซี และความสุข

        ท่ามกลางความเครียดในชีวิตสมัยใหม่ เครื่องประดับกลายเป็นสื่อกลางของความสุขและการหลีกหนี 

        เทรนด์ Wonderland เน้นดีไซน์เสมือนจริง สีสันจัดจ้าน และรูปทรงที่สนุกสนาน

ลักษณะเด่น:

     Hyper-realism: ลวดลายดอกไม้ สัตว์ และวัตถุสมจริง

     Pop Abstraction: รูปทรงเหนือจริง สีสันสดใส

     Wonder Shades: อัญมณีเปลี่ยนสีและเทคนิคเคลือบสีใหม่

กลยุทธ์:

        ออกแบบให้สนุก สดใส และเหมาะกับการถ่ายรูปลงโซเชียล ชิ้นงานที่สร้างรอยยิ้มจะได้รับความนิยมสูง

นวัตกรรมวัสดุและเทคนิค

     ความยั่งยืน: การใช้โลหะรีไซเคิล อัญมณีที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ และเพชรสังเคราะห์กลายเป็นมาตรฐานใหม่

     Phygital Experience: ผสานประสบการณ์จริงกับดิจิทัล เช่น AR ลองใส่เครื่องประดับ NFT และใบรับรองดิจิทัล

     AI-Driven Design: ปัญญาประดิษฐ์ช่วยออกแบบลวดลาย เลือกอัญมณี และสร้างชิ้นงานเฉพาะบุคคล

ข้อเสนอเชิงกลยุทธ์สำหรับผู้นำวงการ

    1. ลงทุนในเรื่องราวและมรดก:

    เรื่องราวและประวัติคือคุณค่าใหม่ ถ่ายทอดเส้นทางการสร้างสรรค์แต่ละชิ้นอย่างละเอียด

    2. โปร่งใสและตรวจสอบได้:

    สร้างความเชื่อมั่นด้วยการเปิดเผยแหล่งที่มาและกระบวนการผลิต

    3. เร่งทรานส์ฟอร์มดิจิทัล:

    ขยายช่องทางออนไลน์ ใช้โซเชียลมีเดีย และร่วมมือกับศิลปินดิจิทัล

    4. เน้นการปรับแต่งและจำกัดจำนวน:

     ชิ้นงานที่ปรับแต่งได้หรือผลิตจำนวนจำกัดจะมีมูลค่าสูง

    5. ทดลองวัสดุและเทคนิคใหม่:

        ผสมผสานอัญมณีดั้งเดิมกับวัสดุหรือเทคนิคสมัยใหม่เพื่อสร้างไอคอนแห่งอนาคต

สรุป

        ปี 2025–2026 ไม่ใช่ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่คือจุดเปลี่ยนของการสร้างสรรค์ใหม่อย่างกล้าหาญ ผู้นำและช่างฝีมือที่ประสบความสำเร็จจะเป็นผู้ที่ผสานมรดกกับนวัตกรรม เทคโนโลยีกับความหรูหรา และความเป็นสากลกับความเฉพาะตัว ตัวเลขและเทรนด์ชี้ชัด โอกาสอยู่ตรงหน้า อนาคตเป็นของ "ผู้กล้าสร้างสรรค์"

        สอบถามข้อมูลและความร่วมมือเพิ่มเติม ติดต่อ สิทธิชัย ปริญญานุสรณ์ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT)

จัดทำโดย สิทธิชัย ปริญญานุสรณ์ 

รองผู้อำนวยการด้านธุรกิจ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT)

กันยายน 2568


ข้อมูลอ้างอิง


1. https://acemijewelry.com/zh/blogs/blogg/jewelry-trend-2025-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89
2. https://thailand.prd.go.th/en/content/category/detail/id/48/iid/164750
3. https://www.thaigemjewelry.or.th/knowledge/post/jewelry-design-contest-2025-mixmedia
4. https://www.forbes.com/sites/laiafarrangraves/2025/05/05/jewelry-trends-mothers-day-2025/
5. https://www.mckinsey.com/~/media/mckinsey/industries/retail/our%20insights/state%20of%20fashion/2025/the-state-of-fashion-2025-v2.pdf
6. https://www.nationthailand.com/business/corporate/40024066
7. https://www.thailand.go.th/useful-information-detail/---103
8. https://www.indexbox.io/store/thailand-jewellery-market-analysis-forecast-size-trends-and-insights/
9. https://www.bangkokpost.com/business/general/2732340/jewellery-makers-nudged-to-adapt
10. https://bkkgems.com/newdetail/47

เอกสารแนบ


ความคิดเห็น


ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

เทรนด์จิวเวลรี่ 2025–2026: พิมพ์เขียวแห่งอนาคตสำหรับช่างฝีมือจิวเวลรี่ไทย

Sep 29, 2025
732 views
2 shares

ภูมิทัศน์ตลาดจิวเวลรี่โลก: ตัวเลขที่ต้องรู้

        อุตสาหกรรมจิวเวลรี่ในปี 2025 กำลังยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนสำคัญ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของค่านิยมผู้บริโภค เทคโนโลยีดิจิทัลที่ก้าวกระโดด และการกลับมาของความภาคภูมิใจในมรดกฝีมือ สำหรับช่างฝีมือและผู้นำในวงการที่สั่งสมประสบการณ์มายาวนาน โอกาสครั้งใหญ่อยู่ที่การนำพลังเหล่านี้มาสร้างคุณค่าใหม่อย่างยั่งยืน

ขนาดตลาดและสัดส่วนที่น่าจับตา:

     จีน ครองแชมป์ตลาดด้วยรายได้ 119.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2024 ตามด้วย อินเดีย (97.25 พันล้านเหรียญ) และ สหรัฐอเมริกา (61.24 พันล้านเหรียญ)

     ยุโรป และ แอฟริกา มีรายได้ 37.37 พันล้านเหรียญ และ 23.07 พันล้านเหรียญ ขณะที่ ญี่ปุ่น (20.01 พันล้านเหรียญ) และ ออสเตรเลีย (2.64 พันล้านเหรียญ) ตามลำดับ

     จิวเวลรี่ลักชัวรี่ ครองสัดส่วน 40% ของรายได้ตลาดโลก, แฟชั่นจิวเวลรี่ 30%, จิวเวลรี่ชั้นสูง 20% และ คอสตูมจิวเวลรี่ 10%

        ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงความต้องการทั้งในด้านความหรูหราและความเข้าถึงง่าย ผลักดันให้แบรนด์ต้องโดดเด่นทั้งฝีมือและนวัตกรรม

ผู้บริโภคยุคใหม่: มาตรฐานใหม่ของตลาด

        การเข้าใจผู้บริโภคปี 2025–2026 คือหัวใจสำคัญ

        ผู้ซื้อยุคนี้ไม่ได้มองหาแค่ความสวยงาม แต่ต้องการเครื่องประดับที่สะท้อนตัวตนและเรื่องราวของตนเอง ตลาดกลายเป็นภาพโมเสกของเจเนอเรชั่นที่มีพฤติกรรมและอิทธิพลแตกต่างกันอย่างชัดเจน

แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคที่สำคัญ:

     การปรับแต่งเฉพาะบุคคล (Personalization) กลายเป็นหัวใจ ผู้บริโภคต้องการเครื่องประดับที่บอกเล่าเรื่องราวและตัวตน

     ความยั่งยืนและความโปร่งใส ไม่ใช่แค่จุดขาย แต่เป็นมาตรฐานพื้นฐาน

     การมีส่วนร่วมทางดิจิทัล ทุกเจเนอเรชั่น โดยเฉพาะ Gen Z และ Millennials ใช้โซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์ในการค้นหาและตัดสินใจซื้อ

เทรนด์ดีไซน์หลัก: 4 เสาหลักแห่งปี 2025–2026

        1. Digital Nouveau: เมื่อศิลปะคลาสสิกผสานเทคโนโลยี

        Digital Nouveau คือเทรนด์ที่โดดเด่นในปี 2026 ผสมผสานความงามของ Art Nouveau ต้นศตวรรษที่ 20 กับความล้ำสมัยของยุคดิจิทัล สะท้อนสังคมที่ใส่ใจสุขภาพ ความงาม ความสบาย และความยั่งยืน

ลักษณะเด่น:

     AI Nouveau: ลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากอัลกอริทึมและดิจิทัล

     Winged Creatures: ผีเสื้อและนก เช่น สร้อยคอ CHRYSÉIS ของ Cartier ที่ใช้ลวดลายปีกผีเสื้อขาวดำกับพลอย rubellite 63.76 กะรัต

     Rough Luxe: การผสมผสานวัสดุดิบกับความประณีต สะท้อนความขัดแย้งระหว่างธรรมชาติและเทคโนโลยี

กลยุทธ์:

        แบรนด์ที่สามารถสร้างสรรค์งานดีไซน์ที่ผสมผสานดิจิทัลกับธรรมชาติ พร้อมเล่าเรื่องราวได้อย่างลึกซึ้ง จะครองใจผู้บริโภคยุคใหม่

        2. Opulent Extravaganza: ความทรงจำ ความหรูหรา และวัสดุชั้นสูง

        ในยุคที่โลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เครื่องประดับกลายเป็นสื่อกลางของความทรงจำและอัตลักษณ์ 

        เทรนด์ Opulent Extravaganza จึงเน้นความอลังการของราชวงศ์ ความงามแบบมหาราชา และพลังของมรดก

ลักษณะเด่น:

     Regency Opulence: พลอยเม็ดใหญ่ งานฝีมือประณีต

     The Power of Memory: ชิ้นงานที่เชื่อมโยงกับอดีตและเรื่องราวส่วนตัว

     Maharajas Magnificence: สีสันสดใส ขนาดใหญ่ และแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์

ตัวอย่าง:

     ซีรีส์ Bird on a Rock ของ Tiffany ที่นำสัญลักษณ์นกฮูกและนกฟีนิกซ์มาสร้างสรรค์ใหม่บนอัญมณีหายาก

     สร้อยคอ Star Burst ที่ใช้โอปอลกว่า 64 กะรัตและเพชรกว่า 69 กะรัต

กลยุทธ์:

        แบรนด์เก่าแก่ควรนำแรงบันดาลใจจากมรดกและอัญมณีหายากมาพัฒนา ส่วนแบรนด์ใหม่ควรเน้นการเล่าเรื่องและสร้างความผูกพันทางอารมณ์

        3. Street Coolness: พลังแห่งวัฒนธรรมและความเป็นตัวเอง

        การรวมตัวของชุมชนดิจิทัลทั่วโลกก่อให้เกิดเทรนด์ Street Coolness ที่ผสมผสานวัฒนธรรม ความกล้า และความเป็นตัวของตัวเองอย่างชัดเจน

ลักษณะเด่น:

     Cultural Connections: การนำแรงบันดาลใจจากหลากหลายวัฒนธรรม

     XL-Layering: การใส่เครื่องประดับหลายชั้น หลายเส้น

     Urban Tribe: ดีไซน์ที่กล้า ทรงพลัง และแปลงร่างได้

ตัวอย่าง:

     สร้อยคอ Shooting Star และ Arrow ที่นำเพชร Fancy Intense Yellow กว่า 18 กะรัตมาใช้ในดีไซน์ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้

     เข็มกลัดนกยูงที่ใช้ Tanzanite 13 กะรัตและทัวร์มาลีนสีเขียว

กลยุทธ์:

        กล้าเล่นกับรูปแบบและฟังก์ชัน ชิ้นงานที่ปรับแต่งหรือแปลงร่างได้จะตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล

        4. Wonderland: สีสัน แฟนตาซี และความสุข

        ท่ามกลางความเครียดในชีวิตสมัยใหม่ เครื่องประดับกลายเป็นสื่อกลางของความสุขและการหลีกหนี 

        เทรนด์ Wonderland เน้นดีไซน์เสมือนจริง สีสันจัดจ้าน และรูปทรงที่สนุกสนาน

ลักษณะเด่น:

     Hyper-realism: ลวดลายดอกไม้ สัตว์ และวัตถุสมจริง

     Pop Abstraction: รูปทรงเหนือจริง สีสันสดใส

     Wonder Shades: อัญมณีเปลี่ยนสีและเทคนิคเคลือบสีใหม่

กลยุทธ์:

        ออกแบบให้สนุก สดใส และเหมาะกับการถ่ายรูปลงโซเชียล ชิ้นงานที่สร้างรอยยิ้มจะได้รับความนิยมสูง

นวัตกรรมวัสดุและเทคนิค

     ความยั่งยืน: การใช้โลหะรีไซเคิล อัญมณีที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ และเพชรสังเคราะห์กลายเป็นมาตรฐานใหม่

     Phygital Experience: ผสานประสบการณ์จริงกับดิจิทัล เช่น AR ลองใส่เครื่องประดับ NFT และใบรับรองดิจิทัล

     AI-Driven Design: ปัญญาประดิษฐ์ช่วยออกแบบลวดลาย เลือกอัญมณี และสร้างชิ้นงานเฉพาะบุคคล

ข้อเสนอเชิงกลยุทธ์สำหรับผู้นำวงการ

    1. ลงทุนในเรื่องราวและมรดก:

    เรื่องราวและประวัติคือคุณค่าใหม่ ถ่ายทอดเส้นทางการสร้างสรรค์แต่ละชิ้นอย่างละเอียด

    2. โปร่งใสและตรวจสอบได้:

    สร้างความเชื่อมั่นด้วยการเปิดเผยแหล่งที่มาและกระบวนการผลิต

    3. เร่งทรานส์ฟอร์มดิจิทัล:

    ขยายช่องทางออนไลน์ ใช้โซเชียลมีเดีย และร่วมมือกับศิลปินดิจิทัล

    4. เน้นการปรับแต่งและจำกัดจำนวน:

     ชิ้นงานที่ปรับแต่งได้หรือผลิตจำนวนจำกัดจะมีมูลค่าสูง

    5. ทดลองวัสดุและเทคนิคใหม่:

        ผสมผสานอัญมณีดั้งเดิมกับวัสดุหรือเทคนิคสมัยใหม่เพื่อสร้างไอคอนแห่งอนาคต

สรุป

        ปี 2025–2026 ไม่ใช่ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่คือจุดเปลี่ยนของการสร้างสรรค์ใหม่อย่างกล้าหาญ ผู้นำและช่างฝีมือที่ประสบความสำเร็จจะเป็นผู้ที่ผสานมรดกกับนวัตกรรม เทคโนโลยีกับความหรูหรา และความเป็นสากลกับความเฉพาะตัว ตัวเลขและเทรนด์ชี้ชัด โอกาสอยู่ตรงหน้า อนาคตเป็นของ "ผู้กล้าสร้างสรรค์"

        สอบถามข้อมูลและความร่วมมือเพิ่มเติม ติดต่อ สิทธิชัย ปริญญานุสรณ์ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT)

จัดทำโดย สิทธิชัย ปริญญานุสรณ์ 

รองผู้อำนวยการด้านธุรกิจ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT)

กันยายน 2568


ข้อมูลอ้างอิง


1. https://acemijewelry.com/zh/blogs/blogg/jewelry-trend-2025-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89
2. https://thailand.prd.go.th/en/content/category/detail/id/48/iid/164750
3. https://www.thaigemjewelry.or.th/knowledge/post/jewelry-design-contest-2025-mixmedia
4. https://www.forbes.com/sites/laiafarrangraves/2025/05/05/jewelry-trends-mothers-day-2025/
5. https://www.mckinsey.com/~/media/mckinsey/industries/retail/our%20insights/state%20of%20fashion/2025/the-state-of-fashion-2025-v2.pdf
6. https://www.nationthailand.com/business/corporate/40024066
7. https://www.thailand.go.th/useful-information-detail/---103
8. https://www.indexbox.io/store/thailand-jewellery-market-analysis-forecast-size-trends-and-insights/
9. https://www.bangkokpost.com/business/general/2732340/jewellery-makers-nudged-to-adapt
10. https://bkkgems.com/newdetail/47

เอกสารแนบ

เราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายคุกกี้   ตั้งค่า ยอมรับ

×
140 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ชั้น 4 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
โทรศัพท์: 0 2634 4999 ต่อ 444
โทรสาร: 0 2634 4970
external-site