The Reliquary Brooch: ตำนานอัญมณีแห่งศรัทธาและราชบัลลังก์ฝรั่งเศส
หากอัญมณีสามารถพูดได้ “The Reliquary Brooch” คงเป็นพยานเงียบที่เล่าถึงความรุ่งเรืองของราชสำนักฝรั่งเศส ตั้งแต่ยุคของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 จนถึงสมัยนโปเลียนที่ 3 เสมือนเส้นด้ายเรืองรองที่เชื่อมโยงอดีตอันยิ่งใหญ่กับความงามแห่งยุคจักรวรรดิที่สองไว้ด้วยกัน
เข็มกลัดชิ้นนี้เคยส่องประกายอยู่ใต้เพดานโค้งของ Apollo Gallery ในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ด้วยแสงระยิบจากเพชรทั้ง 94 เม็ดที่ถูกจัดวางอย่างประณีต แต่วันนี้ มันเหลือเพียงตำนานและภาพจำของความงดงามที่เลือนหายไปตามกาลเวลา
ภาพจาก https://highjewellerydream.com/louvre-heist-empress-eugenies-reliquary-brooch-lost/
ของขวัญจากจักรพรรดิ
เรื่องราวของเข็มกลัดเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1855 เมื่อจักรพรรดิ นโปเลียนที่ 3 ทรงมอบหมายให้ช่างอัญมณีชื่อดังแห่งกรุงปารีส Paul-Alfred Bapst สร้างเครื่องประดับที่คู่ควรแก่จักรพรรดินีของพระองค์ เพื่อจัดแสดงในงาน Exposition Universelle
ผลงานที่ถือกำเนิดขึ้นคือเข็มกลัดสไตล์ “historicist” ที่ผสมผสานความงามแบบศิลปะโบราณกับความหรูหราทันสมัย ตัวเรือนทำจากเงินชุบทอง แกะสลักลวดลายใบไม้และเถาไม้อย่างวิจิตรตามแบบศตวรรษที่ 18 จากต้นแบบเก่าของตระกูล Bapst
เข็มกลัดมีขนาดสูงถึง 17.5 เซนติเมตร แสดงถึงความงามและความยิ่งใหญ่ที่สะท้อนรสนิยมของยุคจักรวรรดิที่สอง ซึ่งหลงใหลในความโอ่อ่าของราชสำนักฝรั่งเศสและศิลปะแห่งหัตถกรรมร่วมสมัย
จุดเด่นของเข็มกลัดอยู่ที่ ดอกกุหลาบเพชรตรงกลาง ประกอบด้วยเพชรเจ็ดเม็ดล้อมรอบเพชรเม็ดเอก เสมือน “กลุ่มดาวแห่งราชวงศ์ฝรั่งเศส”
เพชรสองเม็ดที่อยู่กลางดอก มีรูปหัวใจ และเป็นเพชรหมายเลข 17 และ 18 จากชุด Mazarin Diamonds อันเลื่องชื่อ ซึ่งเคยประดับบนเสื้อของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และเป็นสมบัติที่ คาร์ดินัล มาซาริน มอบให้ราชบัลลังก์ฝรั่งเศสเมื่อปี 1661
เพชรเหล่านี้ถูกบันทึกไว้ในบัญชีทรัพย์สินของราชสำนักฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 1666 ผ่านยุคทองแห่งแวร์ซายส์มาอย่างงดงาม และยังคงปลอดภัยจากความปั่นป่วนของการปฏิวัติฝรั่งเศสได้อย่างน่าอัศจรรย์
รอบเพชรหลักยังมีเพชรรูปหยดน้ำสี่เม็ดเรียงรายอยู่ ส่วนด้านล่างเป็นเพชรเจียระไนหลากรูปทรง ไล่จากเพชรรูปสามเหลี่ยมเรียวยาว ไปจนถึงเพชรทรงไข่ และปิดท้ายด้วยเพชรหกเหลี่ยมโบราณที่ห้อยระย้า เพชรเล็กๆ อีกเก้าเม็ดในรูปแบบ briolette ซึ่งคาดว่าอาจมีต้นกำเนิดจากอัญมณีที่ถูกยึดในช่วงปฏิวัติ หรือมาจากราชวงศ์ซาร์ดีเนีย
ปริศนาแห่งชื่อ “Reliquary”
แม้เข็มกลัดนี้จะถูกเรียกว่า “Reliquary Brooch” หรือ “เข็มกลัดบรรจุพระธาตุ” แต่กลับไม่พบช่องภายในที่ใช้เก็บวัตถุบูชาใด ๆ
นักภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์กล่าวว่า คำว่า “reliquaire” ถูกใช้เรียกเข็มกลัดนี้ตั้งแต่ปี 1855 และยังถูกสลักไว้บนหมุดด้านหลัง แต่ตัวเข็มกลัดเองไม่มีช่องสำหรับใส่วัตถุศักดิ์สิทธิ์
อย่างไรก็ตาม ที่ด้านหลังกล่องใส่เข็มกลัดต้นฉบับ มีช่องเล็กๆ หรือ logette ซึ่งเชื่อกันว่า จักรพรรดินีเออ-ชานี ผู้มีความศรัทธาแรงกล้า อาจตั้งพระทัยจะใส่ชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์ไว้ในภายหลัง
ปริศนานี้เองที่ทำให้เข็มกลัดชิ้นนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และความลึกลับ เป็นเหมือนของบูชาทางจิตวิญญาณในนาม แม้มิใช่ในรูปธรรม
เพชรทุกเม็ดบนเข็มกลัดนี้คือเศษเสี้ยวของประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส จากห้องโถงของแวร์ซายส์ถึงพระราชวังตุยเลอรี จากมือของราชินีสู่มือของจักรพรรดินี
แม้เข็มกลัดชิ้นนี้จะสูญหายไปแล้ว แต่รัศมีแห่งความงามและเรื่องราวของมันยังคงส่องประกายอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์
“The Reliquary Brooch” จึงมิใช่เพียงเครื่องประดับของกษัตริย์ หากคือสัญลักษณ์ของศรัทธา ความรัก และความยิ่งใหญ่ที่ไม่มีวันดับของฝรั่งเศส
จัดทำโดย นางสาววาสนา สมเนตร์
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
ธันวาคม 2568
-------------------------
ข้อมูลอ้างอิง
https://highjewellerydream.com/louvre-heist-empress-eugenies-reliquary-brooch-lost/

