“ด้วยแรงขับเคลื่อนทั้งในภาคอุปสงค์และอุปทาน ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ผู้ประกอบการอัญมณีหลายประเทศต้องการซื้อทับทิมและมรกตผ่านงานประมูลของ Gemfields ในระดับราคาที่สูงขึ้น”

    บริษัทผู้ทำเหมืองรายใหญ่และเป็นผู้จัดงานอัญมณีประมูลพลอยก้อนรายสำคัญของโลก Gemfields Group Ltd สร้างรายได้จากงานประมูลทับทิมและมรกตในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน 2021 ได้สูงถึง 90.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับเป็นการประมูลครั้งแรกหลังจากบริษัทต้องระงับการทำเหมืองไปเมื่อเดือนธันวาคม 2019 เนื่องจากการระบาดของโควิด-19

        สำหรับการประมูลทับทิมที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมไปจนถึง 8 เมษายน 2021 ซึ่งประกอบด้วยการประมูลย่อยๆ รวม 7 ครั้ง บริษัท Gemfields ทำเงินได้ถึง 58.9 ล้านเหรียญสหรัฐจากการขายชุดอัญมณีทับทิมแบบคละรวมหลายระดับคุณภาพจากเหมือง Montepuez ในโมซัมบิก จำนวน 89 ชุดจากทั้งหมด 94 ชุด ซึ่งนับเป็นมูลค่าที่สูงเป็นอันดับ 3 นับตั้งแต่ Gemfields ได้จัดงานประมูลเมื่อเดือนมิถุนายน 2014 โดยราคาเฉลี่ยที่ขายได้นั้นอยู่ที่ 171.33 เหรียญสหรัฐต่อกะรัต ซึ่งการประมูลอัญมณีทับทิมดังกล่าวมีการจัดให้เข้าชมสินค้าในกรุงเทพ ดูไบ และเมืองจัยปูร์ในอินเดีย ส่วนการยื่นราคาประมูลแบบปิดนั้นทำผ่านแพลตฟอร์มการประมูลทางออนไลน์ โดยมีบริษัทรวม 52 รายเข้าร่วมการประมูลครั้งนี้

        ทั้งนี้ ตามข้อมูลจาก Gemfields ทับทิมก้อนทั้งหมดได้รับการขุดขึ้นมาก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากการดำเนินงานของบริษัท Montepuez Ruby Mining Limitada (MRM) ซึ่งทาง Gemfields ถือครองหุ้นอยู่คิดเป็นร้อยละ 75 นั้น ได้ถูกระงับไปในเดือนเมษายน 2020 และ MRM เพิ่งเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตอย่างเต็มรูปแบบในปลายเดือนเมษายน 2021 

    ขณะที่การจัดประมูลอัญมณีมรกตจำนวน 5 ครั้ง ระหว่างวันที่ 15 มีนาคมถึง 17 เมษายนที่ผ่านมา จากเหมือง Kagem ในแซมเบีย Gemfields ทำรายได้ถึง 31.4 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2016 โดยมีผู้เข้าประมูลรวม 59 ราย ผ่านการจัดให้เลือกชมสินค้าในดูไบ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล และเมืองจัยปูร์ในอินเดียเป็นรายบุคคลหรือเป็นการส่วนตัวก่อนการประมูล ซึ่งการประมูลนี้ขายได้ถึง 271,000 กะรัต โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 116 เหรียญสหรัฐต่อกะรัต ซึ่งเป็นราคาที่สูงมากเมื่อเทียบกับการประมูลในครั้งก่อนที่มีราคาเฉลี่ยเพียง 60 เหรียญสหรัฐต่อกะรัตเท่านั้น

       จากราคาประมูลอัญมณีพลอยก้อนที่ทำระดับราคาขายได้ค่อนข้างสูงสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการซื้อของผู้ประกอบการอัญมณีเพิ่มมากขึ้น หลังจากในช่วงโควิด-19 อุปทานการผลิตลดน้อยลง ทำให้ซื้อหาอัญมณีพลอยก้อนได้ลดลง กอปรกับแรงขับเคลื่อนจากกำลังซื้อของผู้บริโภคในหลายประเทศที่ประชากรได้รับการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมากทำให้สถานการณ์การระบาดคลี่คลายลง ผู้บริโภคจึงเริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ผู้ซื้อหลายรายจึงเล็งเห็นว่าการประมูลครั้งนี้เป็นโอกาสดีในการซื้ออัญมณีทับทิมและมรกตเพื่อนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มและจำหน่ายต่อไป