ไอร์แลนด์ (Ireland) ประเทศเล็กๆ ซึ่งเป็นเกาะตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของสหราชอาณาจักร ประเทศที่ห้อมล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันแสนงดงามทั้งขุนเขา สายน้ำ ชายหาด และท้องทะเล

            ชาวไอริชมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย มองโลกในแง่ดี ร่ำรวยอารมณ์ขัน และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุนทรีย์ในศิลปะแขนงต่างๆ โดยเฉพาะดนตรี ถึงแม้ว่าในอดีตชนชาตินี้จะเคยผ่านพบกับความยากลำบาก และเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ มาอย่างโชกโชน ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด ความอดอยากยากจน และการถูกกดขี่ข่มเหง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถทำให้พวกเขาอับจนในเรื่องความละเมียดละไมและละเอียดอ่อนทางอารมณ์ไปได้ 

            ความละเอียดอ่อนลึกซึ้งในแบบของชาวไอริชนั้นแทรกซึมอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นในบทเพลง บทกวี หรือแม้แต่ในเครื่องประดับ

แหวนแห่งมิตรภาพ ความรัก และความภักดี

            มีเครื่องประดับอัญมณีอยู่ชนิดหนึ่งซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากชาวไอริช มันคือแหวนมีชื่อเรียกว่า Claddagh* แหวนวงดังกล่าวนี้ถูกออกแบบให้มีลักษณะของมือ 2 ข้าง โอบอุ้มหัวใจซึ่งอยู่ภายใต้มงกุฎ เจ้าแหวนน้อยแปลกตาวงนี้แฝงไปด้วยข้อความสุดแสนโรแมนติกเกินบรรยาย เนื่องจากในแต่ละส่วนของมันมีความนัยอันลึกซึ้งซ่อนอยู่ เริ่มจากมือทั้ง 2 ข้าง สื่อความหมายถึง มิตรภาพ (Friendship) ในส่วนของหัวใจนั้น แน่นอนว่าเป็นตัวแทนของ ความรัก (Love) และสุดท้ายคือ มงกุฎ อันเป็นสัญลักษณ์ของ ความภักดี (Royalty)

แหวน Claddagh ทำจากทองคำ 14 กะรัต 

ภาพจาก: Pinterest

แหวน Claddagh ตกแต่งด้วยมอร์แกไนท์ 

ภาพจาก: Pinterest

            แหวนวงนี้มีชื่อเรียกตามชื่อของหมู่บ้านชาวประมงที่มีชื่อว่า Claddagh สถานที่อันเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของมัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน เด็กหนุ่มชาวประมงผู้เคราะห์ร้ายถูกโจรสลัดกลุ่มหนึ่งจับตัวไปในขณะที่เขาและลูกเรือคนอื่นๆ กำลังออกเรือหาปลาตามปกติ ซ้ำร้ายเขายังถูกนำไปขายเป็นทาสให้กับช่างทองในประเทศแอลจีเรีย

            กาลเวลาผ่านไปหลายปี เขาได้เรียนรู้และฝึกฝนวิชาช่างทองจนช่ำชอง และในระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่กับการทำทองเขาก็ได้แอบเก็บสะสมเศษทองเอาไว้ ทุกวัน... ทุกวัน... เขาใช้เวลาที่มีเหลือหลังจากการทำงานในแต่ละวันเพื่อออกแบบและรังสรรค์แหวนอันเปี่ยมไปด้วยความหมายลึกซึ้งขึ้นมาหนึ่งวง เพื่อนำกลับไปมอบให้กับหญิงคนรักซึ่งพลัดพรากจากกันมานานหลายปี 

            หลังจากที่ได้เป็นไทแก่ตัว ชายหนุ่มผู้นี้จึงได้เดินทางกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอนของตนด้วยความดีใจเป็นล้นพ้น และความดีใจของเขาก็ได้ทวีขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อได้พบว่าหญิงสาวผู้เป็นที่รักยังคงครองตัวเป็นโสด และรอคอยการกลับมาของเขา เขาจึงได้มอบแหวนที่เขาออกแบบและบรรจงทำขึ้นให้แก่เธอและแต่งงานกันในที่สุด 

ให้แหวนบอกสถานะของหัวใจ

            นอกจากแหวน Claddagh จะเป็นตัวแทนแห่งมิตรภาพ ความรัก และความภักดีแล้ว ชาวไอริชผู้ช่างคิดยังได้ออกแบบให้ลักษณะการสวมแหวนประเภทนี้มีนัยที่แสดงถึงสถานภาพทางการสมรสอีกด้วย ซึ่งมันสามารถสร้างสรรค์สัญลักษณ์ได้ถึง 4 แบบ ด้วยกัน ได้แก่ 

            • คนโสด ให้สวมแหวนบนมือขวาโดยที่ปลายแหลมของหัวใจชี้ออกจากตัว

            • คนมีคู่ ให้สวมแหวนบนมือขวาโดยให้ปลายแหลมของหัวใจชี้เข้าหาตัว

            • ผู้ได้รับการหมั้นหมาย ให้สวมแหวนบนมือข้างซ้ายโดยให้ปลายแหลมของหัวใจชี้ออกจากตัว

            • ผู้ที่แต่งงานแล้ว ให้สวมแหวนบนมือข้างซ้ายโดยให้ปลายแหลมของหัวใจชี้เข้าหาตัว 

            และด้วยความเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความหมายนี้ ทำให้มีผู้คนจำนวนมากหลงใหลในเสน่ห์ของเจ้าแหวน Claddagh นี้ ในจำนวนนั้นได้แก่ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย แห่งสหราชอาณาจักร เจ้าหญิงเกรซ แห่งโมนาโก เซอร์วินสตัน เชอร์ชิล อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และวอลท์ ดิสนีย์ ราชาการ์ตูนโลก เป็นต้น 

*ออกเสียงว่า ‘คลาดาห์’