Infographic
ข้อมูลด้านการตลาด
ปี 2564
เจาะตลาดออนไลน์ขยายช่องทางการค้าเครื่องประดับ
แม้ว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 จะสร้างวิกฤตแต่ท่ามกลางวิกฤตยังก่อเกิดโอกาสใหม่ เพราะช่องทางออนไลน์กลายเป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกันทั่วโลก หลายธุรกิจจึงใช้ช่องทางนี้ในการสื่อสารกับผู้บริโภค แล้วเว็บไซต์ใดหรือแอปพลิเคชั่นไหนที่นิยมในการซื้อ-ขายเครื่องประดับ หาคำตอบได้ในภาพนี้
สถานการณ์ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ปี 2564
สถานการณ์การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ปี 2564 ปรับตัวลดลงร้อยละ 72.39 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 หากพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยเมื่อไม่รวมการส่งออกทองคำฯ พบว่า ลดลงร้อยละ 27.43 ซึ่งปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบควรติดตามมีทั้งราคาทองคำที่ปรับตัวลงต่อเนื่องและการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย
สถานการณ์ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยเดือนมกราคม ปี 2564
ภาพรวมการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในเดือนแรกของปี 2564 ปรับตัวลดลงร้อยละ 70.68 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบหลักๆ มาจากราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ทำให้สินค้าส่งออกหลักอย่างทองคำปรับตัวลดลงถึงร้อยละ 90.29
จำนวนผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับไทยปี 2563
ในปี 2563 แม้ว่าโลกจะเผชิญกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้การค้าซบเซาลง แต่ผู้ประกอบการหลายรายก็ยังคงพยุงธุรกิจให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ และด้วยสถานการณ์ในไทยที่ยังดีกว่าหลายประเทศในโลก ผู้ประกอบการรุ่นใหม่บางรายจึงมองเห็นว่ายังมีโอกาสในธุรกิจนี้ ส่งผลให้มีการเปิดกิจการเพิ่มขึ้น 0.78% หรือมีจำนวนผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับทั้งหมด 12,546 ราย แบ่งเป็นผู้ผลิต 1,547 ราย ผู้ค้าส่ง 2,168 ราย และค้าปลีก 8,831 ราย โดยกว่า 90% เป็นผู้ประกอบการรายเล็กซึ่งเป็นกิจการของชาวไทย โดยกรุงเทพฯ มีจำนวนผู้ประกอบการมากที่สุดถึง 44% รองลงมาเป็นชลบุรี จันทบุรี สมุทรปราการ และนนทบุรี ตามลำดับ
อุปสงค์เครื่องประดับทองทั่วโลกปี 2020
World Gold Council เผยความต้องการเครื่องประดับทองทั่วโลกในปี 2020 ลดลงถึง 34% ซึ่งปรับตัวลดลงทุกตลาด โดยตลาดผู้บริโภคหลักทั้งจีนและอินเดียต่างลดต่ำลง แต่ก็มีแนวโน้มฟื้นตัวในไตรมาสที่ 4 ปี 2020 อีกทั้งคาดการณ์ว่าอุปสงค์เครื่องประดับทองอาจจะเพิ่มขึ้นในปี 2021 สำหรับความต้องการเครื่องประดับทองของไทยลดลงถึง 47% อยู่ในอันดับที่ 26 ของโลก แล้วประเทศใดที่มีอุปสงค์เครื่องประดับทองใน 25 อันดับแรกของโลกสามารถคลิกดูได้จากภาพ Infographic
สถานการณ์นำเข้าและส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย ประจำปี 2563
ภาพรวมมูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในปี 2563 นั้น มีอัตราการเติบโตร้อยละ 15.94 ขณะที่มูลค่าการนำเข้าลดลงร้อยละ 33.51 โดยเป็นผลจากการเก็งกำไรราคาทองคำ ทำให้ทองคำที่ยังมิได้ขึ้นรูปหรือทองคำกึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าหลักทั้งการส่งออกและนำเข้า ขณะที่ภาพรวมสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริงปรับตัวลงอันเนื่องมาจากผลกระทบของโควิด-19
สถานการณ์ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยเดือนมกราคม-พฤศจิกายน ปี 2563
การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2563 เติบโตร้อยละ 17.24 ทั้งนี้ หากหักออกด้วยการส่งออกทองคำ พบว่า การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริงมีมูลค่าลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 42.26 แต่เมื่อพิจารณาการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย (ไม่รวมทองคำ) รายเดือน พบว่าหลังจากฟื้นตัวตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 และเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง กลับหดตัวลงในเดือนพฤศจิกายน 2563 ในอัตราร้อยละ 2.75 เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2563 อันเนื่องจากความต้องการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยชะลอตัวลงจากผลกระทบของสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ซึ่งกลับมาแพร่ระบาดรอบใหม่ในหลายประเทศทั่วโลก
การบริโภคทองคำและทิศทางราคาปี 2021
ราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้น กระทั่งสามารถทำสถิติสูงสุดในรอบปี 2563 ที่ผ่านมา ปัจจัยหลักมาจากการเก็งกำไรของนักลงทุนที่หันมาลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้นเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่การบริโภคในอุตสาหกรรมเครื่องประดับปรับตัวลง แล้วทิศทางการบริโภคทองคำและราคาในปี 2564 จะไปในทิศทางใด สามารถคลิกดูได้จากภาพ Infographic
ปี 2563
สถานการณ์นำเข้าส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยระหว่างเดือนมกราคม-ตุลาคม 2563
การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐเดือนมกราคม-ตุลาคม ปี 2563 เติบโตร้อยละ 20.81 จากเดิมในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 ที่มีมูลค่า 13,974.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 16,882.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นสินค้าส่งออกในอันดับที่ 1 ของสินค้าส่งออกโดยรวมของไทย ทั้งนี้ หากหักออกด้วยการส่งออกทองคำที่ยังมิได้ขึ้นรูป พบว่า การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริงมีมูลค่า 3,885.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 43.69 แต่เมื่อพิจารณาการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย (ไม่รวมทองคำ) รายเดือน พบว่าเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 และเติบโตต่อเนื่องถึงเดือนตุลาคม 2563 ด้วยอัตราขยายตัวร้อยละ 23.29 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2563 ประเด็นเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบสอง การดำเนินนโยบายทางการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ และเงินบาทแข็งค่า ส่วนปัจจัยบวก คือ มาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลก การซื้อสินค้าออนไลน์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้การส่งออกสินค้าไทยมีโอกาสขยายตัว
สถานการณ์นำเข้าส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยระหว่างเดือนมกราคม-กันยายน 2563
ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยเดือนกันยายน 63 เติบโตสูงเกือบ 19% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สินค้าที่กลับมาเติบโตเป็นบวก ได้แก่ เครื่องประดับเงิน เครื่องประดับทอง พลอยเนื้อแข็งและพลอยเนื้ออ่อนเจียระไน ส่วนภาพรวมยอดส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับสะสมระหว่างเดือนมกราคมถึงกันยายน 2563 ติดลบ 46.45% จากยอดส่งออกสะสม 2 ไตรมาสแรกที่หดตัวลงมาก อย่างไรก็ดี การส่งออกในไตรมาส 4 มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากหลายประเทศคู่ค้าออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและข่าวความสำเร็จของผลการทดลองวัคซีนโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะได้ใช้ในปีหน้า