Infographic
ข้อมูลด้านการตลาด
ปี 2567
สถานการณ์ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยเดือนมกราคม-กรกฎาคม ปี 2567
มูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2567 อยู่ที่ 9,301.92 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.86 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 โดยเป็นสินค้าส่งออกในอันดับที่ 3 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.44 ของสินค้าส่งออกโดยรวมของไทย แต่หากหักออกด้วยการส่งออกทองคำที่ยังมิได้ขึ้นรูป พบว่า การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริงมีมูลค่า 5,103.78 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตร้อยละ 6.65
สถานการณ์ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยเดือนมกราคม-มิถุนายน ปี 2567
มูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยครึ่งแรกของปี 2567 อยู่ที่ 7,573.12 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.86% (YoY) โดยเป็นสินค้าส่งออกในอันดับที่ 3 คิดเป็นสัดส่วน 5.21% ของสินค้าส่งออกโดยรวมของไทย แต่หากหักออกด้วยการส่งออกทองคำ พบว่า การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริงมีมูลค่า 4,555.97 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 8.48%
รู้จักออสเตรเลีย ตลาดสำคัญสำหรับอัญมณีและเครื่องประดับ
ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของอัญมณีและเครื่องประดับ ในปีที่ผ่านมาตลาดอัญมณีและเครื่องประดับของออสเตรเลีย มีมูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีอัตราการเติบโต 5.97% โดยสัดส่วนร้านค้าเครื่องประดับในออสเตรเลีย แบ่งเป็นร้านเครื่องประดับแท้ 78.7% ร้านเครื่องประดับแฟชั่น 21.3% ซึ่งผลิตตภัณฑ์ที่มีความเฉพาะตัวและมีคุณภาพสูงเป็นที่นิยมในตลาด
สถานการณ์ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยเดือนมกราคม-พฤษภาคม ปี 2567
มูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2567 อยู่ที่ 6,324.15 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 1.70 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 โดยเป็นสินค้าส่งออกในอันดับที่ 3 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.25 ของสินค้าส่งออกโดยรวมของไทย แต่หากหักออกด้วยการส่งออกทองคำที่ยังมิได้ขึ้นรูป พบว่า การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริงมีมูลค่า 3,851.79 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตร้อยละ 11.24
10 อัญมณียอดนิยมสำหรับการลงทุนในปี 2567
อัญมณีไม่เพียงแต่เป็นสิ่งสวยงามและน่าหลงใหลเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีและช่วยกระจายความเสี่ยงด้วย สำหรับอัญมณีที่น่าลงทุนในปี 2567 นั้นอ่านได้ในภาพอินโฟกราฟฟิกนี้ และการลงทุนมีความเสี่ยง เนื่องจากตลาดอัญมณีมีความผันผวน การศึกษาและการเรียนรู้เกี่ยวกับตลาดและการลงทุนอัญมณีนั้นสำคัญอย่างมากก่อนการตัดสินใจลงทุนใดๆ
สถานการณ์ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยเดือนมกราคม-เมษายน ปี 2567
มูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน 2567 อยู่ที่ 4,915.74 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 8.83 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 โดยเป็นสินค้าส่งออกในอันดับที่ 3 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.21 ของสินค้าส่งออกโดยรวมของไทย แต่หากหักออกด้วยการส่งออกทองคำที่ยังมิได้ขึ้นรูป พบว่า การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริงมีมูลค่า 3,025.71 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตร้อยละ 13.39
มรกต อัญมณีทางเลือกที่กำลังเติบโต
มรกตนั้นได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งยังเข้ากับตัวเรือนโลหะมีค่าอย่างทอง เงิน หรือแพลทินัมได้อย่างลงตัว สร้างความสนใจให้ผู้บริโภคที่ต้องการสร้างความโดดเด่นเฉพาะตัวเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับการซื้อหาเพื่อการลงทุนซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะมรกตโคลัมเบียที่ผู้บริโภค นักสะสม และนักลงทุนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ
FTA ไทย-ศรีลังกา สร้างโอกาสสู่อัญมณีและเครื่องประดับ
ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย–ศรีลังกาที่มีการลงนามไปนั้น นับเป็น FTA ฉบับที่ 15 ของไทย ซึ่งไม่เพียงแต่ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า ยังมีส่วนช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของไทยในตลาดศรีลังกาในสินค้าและบริการ โดยเฉพาะสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ทำให้การเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานจากแหล่งอัญมณีคุณภาพสูงของศรีลังกาสู่ความเชี่ยวชาญด้านการเจียระไนของไทยได้อย่างครบวงจร
สถานการณ์ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยเดือนมกราคม-มีนาคม ปี 2567
มูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 อยู่ที่ 4,115.13 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 0.28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 โดยเป็นสินค้าส่งออกในอันดับที่ 3 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.80 ของสินค้าส่งออกโดยรวมของไทย แต่หากหักออกด้วยการส่งออกทองคำที่ยังมิได้ขึ้นรูป พบว่า การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริงมีมูลค่า 2,513.73 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตร้อยละ 13.36
ภาวะแรงงานอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับปี 2566
ในปี 2566 ไทยมีแรงงานในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับรวม 782,454 คน (ไม่รวมแรงงานนอกระบบซึ่งหากรวมแล้วคาดว่าจะมีแรงงานตลอดห่วงโซ่อุปทานราวหนึ่งล้านคน) โดยแรงงานส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจขายปลีกเครื่องประดับ หากแบ่งตามกระจายตัวของแรงงานในอุตสาหกรรมต้นน้ำพบว่า แรงงานอยู่ในจันทบุรีมากที่สุด ส่วนอุตสาหกรรมต้นน้ำและปลายน้ำแรงงานส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ อายุแรงงานเฉลี่ยอยู่ที่ 38 ปี (ในอุตสาหกรรมปลายน้ำ) และ 39 ปี (ในอุตสาหกรรมต้นน้ำและกลางน้ำ)